วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Smash2010-15S(1)

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แฟนบอลอังกฤษร่วมเฮ กับหนังแคมเปญโฆษณา


ถูกใจคอบอลสาวกสิงห์โตคำรามทีมอังกฤษทั่วประเทศ เมื่อรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คิกออฟภาพยนตร์แคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบ กับฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ” รวมภาพนักเตะดาวดังจากเกาะอังกฤษ เห็นกันชัดๆ กันเต็มเฟรมทั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด, เวย์น รูนี่ย์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และจอห์น เทอร์รี่ ให้มาร่วมส่งต่อความมันส์กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่ไม่เหมือนใครในการลุ้นเกมลูกหนังระดับโลกที่แอฟริกาปี 2010 นี้

โดยฮอนด้าได้สร้างความโดดเด่นในวงการครั้งใหญ่ เป็นสินค้าในตลาดเพียงรายเดียวที่เข้าซื้อลิขสิทธิ์ทีมชาติอังกฤษมาร่วมสร้างสีสันความสนุกในช่วงของการแข่งขันครั้งนี้ โดยเนื้อหาของหนังโฆษณาชุดนี้ได้แจ้งรายละเอียดของแคมเปญที่เปิดโอกาสให้แฟนบอลทั่วประเทศได้ลุ้นโชคทุกรอบของการเตะ เพียงทายว่า “ทีมชาติอังกฤษจะเข้าสู่รอบไหน จะเป็นรอบ 32/16 ทีม หรือ รอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือรอบ 4 ทีมสุดท้าย

- ทายถูก: ลุ้นรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ หนึ่งในรถเอ.ที. ยอดนิยมของฮอนด้า ที่ออกแบบพิเศษเป็นลายทีมชาติอังกฤษ สิงห์โตคำราม จำนวน 100 คัน พร้อมหมวกกันน็อคครบเซ็ต มูลค่ารางวัลละ 61,500 บาท

- ทายผิด: ลุ้นรับเสื้อโปโลลายทีมชาติอังกฤษแท้อีก 1,000 ตัว มูลค่ารางวัลละ 1,200 บาท

การร่วมสนุกในครั้งนี้ ผู้ที่สนใจขอรับคูปองทายผลได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ หรือตัดจากใบปลิว โฆษณาหนังสือพิมพ์ และ นิตยสารต่างๆ โดยสามารถส่งชิ้นส่วนทายผลได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และร้านพลัสฟรีดอม คาเฟ่ สยามแสควร์ จับรางวัลพร้อมกันวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ที่บริษัท เอ.พี ฮอนด้า จำกัด ประกาศผลทางหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันที่ 9 สิงหาคม 2553 และทางเว็บไซต์ www.aphonda.co.th รวมของรางวัลให้ลุ้นกันมันส์ๆ ถึง 1,100 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท ร่วมสนุกวันนี้ ถึง 11 กรกฎาคม 2553 นี้ เท่านั้น

แนวคิดภาพยนตร์โฆษณา
PRODUCT: รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ
MEDIA: ภาพยนตร์โฆษณาชุด Honda England Stars ความยาว 15 วินาที

วัตถุประสงค์ในการโฆษณา

เพื่อแนะนำแคมเปญการตลาดของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 ที่จะถึงนี้
เพื่อกระตุ้นความน่าสนใจ และความแปลกใหม่ให้กับแคมเปญด้วยการดึงนักเตะทีมชาติอังกฤษเข้ามาร่วม
เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ในการสร้างรูปแบบใหม่ของการทำแคมเปญในลักษณะเทรนด์การตลาด
กลยุทธ์ทางการโฆษณา

Soccer Super Star Trend: ใช้นักเตะดาวดังจากทีมชาติอังกฤษ ที่แฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศมีความคุ้นเคย และรู้จักเป็นอย่างดี จากการร่วมลุ้น ร่วมเชียร์การแข่งขันจากลีกต่างๆ มาตลอดทั้งปี มาสร้างความดึงดูดสายตา และสร้างความน่าสนใจให้กับแคมเปญ
Limited Edition Prize: กระตุ้นความน่าสนใจกับแคมเปญให้พิเศษเหนือกว่าใครมากขึ้น ด้วยรางวัลลิขสิทธิ์แท้จากทีมชาติอังกฤษ เฉพาะรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เพื่อแฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศ เท่านั้น
คอนเซปต์งานโฆษณา

เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบ กับฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ
STORY LINE

เรื่องราวของการรวมตัวของเหล่านักเตะระดับของโลกจากเกาะอังกฤษ ทั้งเวนย์ รูนี่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟรงค์ แลมพาร์ด และจอห์น เทอร์รี่ ซึ่งเป็นนักเตะชั้นแนวหน้าตัวแทนของทีมชาติอังกฤษในช่วงเวลาแห่งความดีใจ ยินดีกับการทำประตูชัยได้สำเร็จในการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกแมตช์ต่างๆ มาถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 ในปีนี้ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ จึงขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมเกาะติดว่า “ทีมชาติอังกฤษจะสามารถเข้าถึงรอบไหน 32-16, รอบ 8 หรือรอบ 4 ทีมสุดท้าย” ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 และร่วมทายผลได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ชิงรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ ลายสิงห์โตคำรามและรางวัลอื่นๆกว่า 7 ล้านบาท ถึง 11 ก.ค. 53


เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page089.asp?id=2229

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

100Years

ซูซูกิพัฒนาไม่หยุด เพิ่มทางเลือกที่เป็นตัวคุณ ด้วย New Suzuki Jelato Punk & Cute Limited Edition


หลังจากที่ “ซูซูกิ” ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ออโต้ หัวฉีดแฟชั่น สุดน่ารัก ซูซูกิ เจลาโต้ 125 พร้อมกับ พรีเซ็นเตอร์หนุ่มเกาหลีสุดฮอต นิชคุณ แห่งวง 2PM. ไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้สร้างกระแส Cute ให้กับกลุ่มวัยรุ่นอย่างล้นหลาม และเพื่อเป็นการตอกย้ำกระแสของเจลาโต้ในตลาดอย่างต่อเนื่อง ซูซูกิจึงรุกตลาดในกลุ่มวัยรุ่น พร้อมยืนยันให้เห็นว่า ซูซูกิ เจลาโต้ เป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ซ้ำ ใครจริงๆ ที่ตอบสนองความต้องการด้านแฟชั่นของวัยรุ่น โดยไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ด้วยการนำเสนอ สีสันลวดลายใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอยู่เสมอ และในครั้งนี้ ก็ได้นำเสนอทางเลือกเพิ่มเติมอีกสองบบด้วยกัน คือ Jelato Punk Limited Edition สำหรับวัยรุ่นหนุ่มสาวแนวห้าวที่ชอบสไตล์เท่ๆ มันส์ๆ และ Jelato Cute Limited Edition สำหรับกลุ่มสาววัยรุ่นที่อยากจะแสดงออกถึงความน่ารักสดใสในตัวเอง

New Suzuki Jelato Punk & Cute เป็นรถจักรยานยนต์ออโต้ หัวฉีดแฟชั่น ทันสมัย ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ
ตอบสนองไลฟ์สไตล์ กับตัวตนที่ชัดเจน ที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง ด้วยดีไซน์เท่ล้ำ ไม่ซ้ำใคร ได้ใจไปกับ
Speedometer of Future แผงหน้าปัดสุดเร้าใจ Mix & Match ด้วยแผงหน้าปัดทรงโดม อ่านข้อมูลง่ายด้วย มาตรวัดความเร็วพร้อมมาตรวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และสัญญาณเตือน FI เพื่อให้คุณทราบถึงความแรงคลื่นไฟฟ้าของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังเสริมความปลอดภัยไว้อย่างครบครัน เบรกเป็นเยี่ยมด้วยจานดิกส์เบรกหน้า ขนาดใหญ่ ดีไซน์สไตล์สปอร์ต เบรกหยุดได้ดั่งใจในทุกย่านความเร็ว ปลอดภัยสุดๆ แต่ไม่หยุดสนุกกับทุก ความแรงในการขับขี่ จุใจไปกับช่องเก็บของด้านหน้าขนาดใหญ่ หยิบง่ายดีไซน์โดน ไม่ว่า Accessories จะเยอะขนาดไหนไม่ต้องกังวล ด้วยช่องเก็บของด้านหน้าอินเทรนด์ดีไซน์โค้งมนเข้ากับตัวรถ สามารถหยิบใช้ได้ถนัดมือ ตามมาด้วยระบบกุญแจนิรภัย 2 ชั้นแบบแม่เหล็ก...ที่สุดแห่งความปลอดภัย ไม่ว่าจะไป Hang Outที่ไหน ก็จอดไว้อย่างหมดห่วง ล็อคง่าย เพิ่มความปลอดภัยได้ทุกที่ ดับเบิ้ลความ Cute ด้วย Double Headlight ขนาด Big ส่องสว่างกว้างไกลกว่าด้วยไฟ หน้าบิ๊กอายดับเบิ้ลสกู๊ป โคมคู่แบบมัลติรีเฟลกเตอร์ สว่างสดใสทั้งกลางวันและกลางคืน มาพร้อมชุดไฟท้าย Topping Design สุด Cute แจ่มมาแต่ไกล เคลียร์ ชัดเมื่อเบรก และเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ลงตัวด้วยสีสันและดีไซน์เข้ากับตัวรถ พร้อมที่พักเท้าแบบแยกอิสระ ทรงสกู๊ป พับเก็บได้แบบมีสไตล์ ให้หวานใจหรือเพื่อนสุดที่เลิฟ นั่งซ้อนได้อย่างสะดวกสบาย ผลิตจากอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพสูง ทนทาน แข็งแรง นอกจากนี้ยังสะดวกสบายสุดๆด้วยกล่องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ใต้เบาะ ให้พื้นที่เก็บของส่วนตัวสุด Chic ได้มากจุใจ จะของเยอะขนาดไหน

New Suzuki Jelato Punk & Cute จัดให้ บาร์หลังและเบาะสุด Cute นั่งซ้อนสบายด้วยเบาะนั่งดีไซน์เก๋
พร้อมกับ บาร์หลังสีสันสดใสสไตล์เดียวกับตัวรถ ไม่ต้องกลัวตกเพราะมีทั้งด้านข้างและด้านหลัง จะใกล้จะไกล
หรือเวลาจอดก็นั่งโชว์ความ Cute ได้ทั้งวัน




อีกทั้งที่วางเท้าคนขับที่ดีไซน์กันลื่นวางเท้าขับขี่ได้สบายแบบ Chill Chill พร้อมทั้งลวดลายทันสมัย ทำให้
Cute ขึ้นอีกระดับ ซึ่ง New Suzuki Jelato Punk & Cute นี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 125 ซีซี 4 จังหวะ ออโต้หัวฉีด อัจฉริยะ DCP-FI (Fuel-Injection) เกียร์อัตโนมัติ SuperCVT เหนือชั้นกว่าระบบคาร์บูเรเตอร์ แตกต่างด้วย นวัตกรรมสมองกลอัจฉริยะ ECM ที่รับสัญญาณดิจิตอลจากเซ็นเซอร์ในตำแหน่งต่างๆ เช่น ออกซิเจนเซ็นเซอร์ O2 Sensor) ตรวจวัดปริมาณออกซิเจน สั่งจ่ายอัตราส่วนสมน้ำมันเชื้อเพลิง และอากาศในปริมาณที่เหมาะสม ให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบและยังรักษ์โลกด้วยท่อไอเสียผ่านมาตรฐานค่าไอเสียระดับ 6 หรือเทียบเท่ามาตรฐาน EURO III แม้หัวใจจะ Punk หรือ จะ Cute เราก็ยังรักษ์โลก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สูงสุด พร้อมรองรับ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 E20 อีกด้วยและเหนือกว่าแบบเน้นๆ ด้วยเซ็นเซอร์ตัดสัญญาณ สั่งจ่ายน้ำมัน TOS (Tip Over Sensor) เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือรถเอียงกว่า 65 องศา ระบบจะหยุดการทำงาน ของเครื่องยนต์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ขับขี่ พร้อม หม้อกรองอากาศที่มีขนาดใหญ่ กรองฝุ่นละอองได้ถึง 2 ชั้นอย่างมีประสิทธิภาพทำให้ไอเสียสะอาด กระบอกสูบ อลูมิเนียมเคลือบเซรามิค SCEM ให้ความทนทานเป็น เยี่ยม ประหยัดน้ำมันกว่าใคร แรงเร้าใจได้สุดๆ

เหนือกว่าใคร ยืดอายุการใช้งานนานกว่า โดนใจ! เทคโนโลยีที่แตกต่างอย่างเหนือกว่า กับระบบ ระบายความร้อนแบบ SJCS ( Suzuki Jet Cooling System ) ที่ฉีดน้ำมันหล่อลื่นระบายความร้อนใน กระบอกสูบที่เคลือบสารเซรามิค และลูกสูบระบายความ ร้อนได้ดีเยี่ยม หม้อกรองอากาศขนาดใหญ่เพิ่มประสิทธิภาพดักฝุ่นละอองถึง 2 ชั้น พร้อมไส้กรอง น้ำมันหล่อลื่นแบบ Cartridge-Type กรองสิ่งสกปรกช่วยทำให้น้ำมันหล่อลื่นสะอาด ลดการสึกหรอของ เครื่องยนต์ ได้อย่างดีเยี่ยม แถมรักสิ่งแวดล้อมเป็นที่สุด


New Suzuki Jelato Punk & Cute ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ กับตัวตนที่ชัดเจนบ่งบอกความเป็นวัยเทรนด์ที่ชอบแตกต่างนอกกรอบ แต่ไม่นอกกฎ New Suzuki Jelato Punk อัพ ความเท่กับกราฟิคสไตล์ใหม่ Punk สไตล์ เลือกที่ชอบสไตล์ที่ใช่ เชนจ์ลุคใหม่ อัพความเท่เกินห้ามใจ มาพร้อม
กับสีสันสุดฮิพพลิกชีวิตให้สุดมันส์ ดีไซน์แบบโดนใจ ให้ทุกองศาร้อนแรงมั่นใจได้แบบแมน แมน มีให้เลือกทั้ง 2 สี ขาว-แดงสุดเท่ และ ม่วง-ขาว สุดขรึม และ อินเทรนด์สุดน่ารักกับ New Suzuki Jelato Cute สไตล์น่ารัก แบบ Chill Chill กับกราฟิกใหม่ Cute Design คราวนี้จะขี่ไปเม้นท์หรือจะขี่ไปเม้าท์ ก็โชว์ความ Cute ได้ อินเทรนด์น่ารักกุ๊กกิ๊กกันซะให้พอกับ 2 สี ชมพู-ขาวและ ฟ้า-ขาว “ซูซูกิ” ให้วัยรุ่นได้มั่นใจกันสุดๆ ด้วยคุณภาพ การรับประกัน การันตีความทนทานให้ New Suzuki Jelato Punk & Cute ของคุณตลอดทั้งคัน เป็น เวลา 3 ปี หรือ 30,000 กม. และรับประกันอุปกรณ์ระบบหัวฉีด DCP-FI ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กม.

เตรียมรับกระแสใหม่ ให้สุดตัว และ ล้ำสมัยไปกับ New Suzuki Jelato Punk & Cute แฟชั่น
ใหม่คู่ใจวัยเทรนด์ตัวจริง



เพิ่มเติม http://www.spsuzuki.com/Community/Thai/News/DetailPage.asp?NewsGroup=1&NewsID=795
span>

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Jelato Punk

ส่วนที่จะให้แสดงส่วนที่เหลือ

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ฟีม ประเดิมแต้มจบที่ 7 บิดเลอ มังส์


รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก เก็บแต้มแรกของฤดูกาล 2010 ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังควบรถหมายเลข 14 คู่ใจเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 7 ในศึกเฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทู ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 3 ของฤดูกาล 2010 รายการเฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ แข่งขันกันที่เลอมังส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส ระยะทางต่อรอบ 4.180 กิโลเมตร โดยในรุ่นโมโตทู (600 ซีซี 4 จังหวะ) ดวลความเร็วกันทั้งสิ้น 26 รอบสนาม

ผลปรากฎว่า "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดไทยฮอนด้าพีทีทีสิงห์แซค ที่ยังไร้แต้มจาก 2 สนามแรก เค้นฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้อีกครั้ง หลังได้รับการปรับปรุงเฟรมรถโดยทีมงานบิโมตา และสามารถออกสตาร์ทจากกริดที่ 12

โดยฟีมที่แม้จะหล่นไปอยู่อันดับ 20 ในช่วง 2 รอบแรก แต่หลังจากทำความเร็วต่อรอบได้คงที่ นักบิดหน้าตี๋ของไทยสามารถไล่ไต่อันดับขึ้นมาได้ถึงอันดับที่ 7 ในรอบที่ 11 ก่อนจะไล่บดกับฟองซี นีโต นักบิดสเปนจากทีมฮอลิเดย์ยิม จี22 เพื่อแย่งชิงอันดับที่ 6

ช่วง 5 รอบสุดท้าย ฟีมต้องขับเคี่ยวเซอร์คิโอ กาเดีย นักบิดสแปนิช จากทีมพอนส์ ก่อนจะเสียอันดับที่ 7 ให้คู่แข่ง อย่างไรก็ดีนักบิดไทยสามารถควบรถ HB4 หมายเลข 14 แซงฟองซี นีโต เข้าเส้นชัยในอันดับ 7 จากนักแข่งที่ออกสตาร์ทรายการนี้ 41 คนได้สำเร็จ พร้อมเก็บ 9 แต้มประเดิมโมโตทู 2010 ได้สำเร็จ

ขณะที่ผู้ชนะสนามนี้ตกเป็นของโทนี อีเลียส นักบิดสแปนิชจากทีมเกรซินีที่ควบรถเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลารวม 43 นาที 29.227 วินาที โดยมีจูเลียส ซิมง จากค่ายแม็ปเฟร์ แอสพาร์ และชิโมเน คอร์ซี ของทีมเจไออาร์ ตามขึ้นโพเดียมอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ

สำหรับศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 4 ของฤดูกาล จะขยับไปแข่งขันกันในรายการอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมูเจลโล ประเทศอิตาลี ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้


เพิ่มเติม http://www.mocyc.com/news/view.php?category=1&idnews=382

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

"ฟีม" โมรถใหม่ขอมีแต้มที่เลอมังส์


รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก สังกัดทีมไทยฮอนด้าพีทีทีสิงห์แซค เตรียมกลับมาลงแข่งขันในรุ่นโมโตทูสนามที่ 3 ของฤดูกาลที่สนามเลอมังส์ ประเทศฝรั่งเศส เจ้าตัวตั้งเป้าขอเก็บแต้มแรกให้ได้ภายใต้รถแข่ง HB4 ที่ได้รับการโมดิฟายใหม่สำหรับเรซนี้

นักบิดวัย 22 ปี ยังไม่สามารถเก็บคะแนนสะสมได้เลยในการแข่งขันรุ่นโมโตทู (600 ซีซี 4 จังหวะ) หลังผ่าน 2 สนาม เนื่องจากรถแข่ง HB4 หมายเลข 14 คู่ใจยังไม่สามารถปรับแต่งได้ลงตัว เหมือนกับนักบิดรายอื่นๆ อย่างไรก็ดีเจ้าตัวมีผลงานที่ดีจบอันดับ 5 ในรายการนี้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

โดยความเคลื่อนไหวก่อนศึกเฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ 2010 ที่สนามเลอ มังส์ แทร็กอันโด่งดังจากการแข่งขันเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง มีรายงานว่าทีมงานของเฟรมรถบิโมตา และทีมช่างของฟีมจากทีมสต็อป แอนด์ โก (แซค) ได้เร่งทำงานอย่างหนักในการปรับปรุงเฟรมขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะท่อดักอากาศ ที่จะส่งผลในเรื่องแอโรไดนามิกของรถ

ซึ่งเจ้าฟีมเผยหลังเดินทางกลับไปยังสเปน ก่อนจะต่อไปฝรั่งเศสว่า "นับเป็นเรื่องดีที่ผมได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่เมืองไทยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กับสนามเลอ มังส์ เป็นหนึ่งในแทร็กที่ท้าทายนักบิดทุกคน และเชื่อว่าผมเองและทีมงานก็พร้อม 100 สำหรับสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเราตั้งเป้าจะทำผลงานได้ดีอีกครั้งภายได้รถที่ได้รับการปรับปรุงใหม่"

สำหรับศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 3 รายการเฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ จะแข่งขันกันที่ เลอ มังส์ เซอร์กิต ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ โดยใน 3 ปีที่ผ่านมาฟีมที่บิดในรุ่น 250 ซีซี ทำผลงานเก็บแต้มได้ทุกครั้งจากการจบอันที่ 11 ,15, และ 5 ตามลำดับ



เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9530000069647

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ฮอนด้าชวนแฟนฟุตบอลโลกเชียร์สิงโตอังกฤษ

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับศึกลูกหนังโลกเวิลด์คัพครั้งที่ 19 ที่สาธารณรัฐแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพในระหว่างวันที่ 11 มิ.ย.ถึง 11 ก.ค. นี้ สินค้าและบริการจำนวนนหลากหลายแบรนด์ได้มีส่วนร่วมกับศึกลูกหนังโลกครั้งนี้ซึ่งรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเป็นสินค้าและบริการแบรนด์หนึ่งที่จัดแคมเปญร่วมสนุกกับฟุตบอลโลกรายการนี้ด้วย

รถฮอนด้าได้จัดเกมรุกด้วยแคมเปญสร้างความคึกคักให้ตลาดโดยทุ่มงบมากกว่า 50 ล้านบาท ให้ชาวไทยได้ร่วมเกาะติดเกมการแข่งขันในศึกลูกหนังโลกได้อย่างสนุกมากขึ้นกับแคมเปญเกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลกลุ้นโชคทุกรอบ กับฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ เพียงทายว่าทีมชาติอังกฤษจะสู้ศึกการแข่งขันระดับโลกที่แอฟริกาใต้ในปีนี้ได้ถึงรอบไหนรอบ 32 ทีม รอบ 16 ทีม รอบ 8 ทีม หรือรอบ 4 ทีมสุดท้าย ทายถูกมีลุ้นรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ลายสิงห์โตคำราม Limited Edition เพียง 100 คัน ทายพลาดมีสิทธิ์ลุ้นรับเสื้อโปโลทีมชาติอังกฤษ1,000 ตัว รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 7 ล้านบาท

มร.จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เผยถึงที่มาแนวคิดในการวางกลยุทธ์การตลาดในครั้งนี้ว่าการแข่งขันกีฬาฟุตบอลเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากกลุ่มคนทุกวัยที่เป็นกระแสความนิยมที่เกิดขึ้นไปทั่วทุกมุมโลก ซึ่งที่ผ่านมาฮอนด้าได้ใช้กระแสฟุตบอลมาช่วยกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ได้เคยเผยผลสำรวจแฟนฟุตบอลชาวไทยพบว่าคนไทยเชียร์ทีมอังกฤษมากกว่าทีมเยอรมนี บราซิลหรืออิตาลี โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ เป็นรถที่ออกแบบพิเศษเป็นลายทีมชาติอังกฤษเป็นจำนวน 100 คัน พร้อมหมวกกันน็อกมูลค่า 61,500 บาท สำหรับผู้ที่ทายถูกว่าอังกฤษจะเข้าถึงรอบไหนในศึกที่แอฟริกาใต้ปีนี้จะเป็นรอบ 32 ทีม16 ทีม หรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายหรือรอบ 4 ทีมสุดท้าย

ส่วนผู้ที่ทายพลาดยังมีลุ้นรับเสื้อโปโลลายทีมชาติอังกฤษแท้อีก 1,000 ตัว มูลค่ารางวัลละ 1,200 บาท รวมของรางวัลทั้งสิ้น 7 ล้านบาท การร่วมสนุกในครั้งนี้ ผู้ที่สนใจขอรับคูปองทายผลได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ หรือตัดจากใบปลิว โฆษณาหนังสือพิมพ์ และ นิตยสารต่างๆโดยสามารถส่งชิ้นส่วนทายผลได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและร้านพลัสฟรีดอม คาเฟ่ สยามสแควร์ จับรางวัลพร้อมกันวันที่ 29 ก.ค.ที่บริษัท เอ.พี ฮอนด้า จำกัด ประกาศผลทางหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันที่ 9 ส.ค.และทางเว็บไซต์ www.aphonda.co.th แฟนฟุตบอลอย่าเชียร์เงียบๆ แต่ขอให้รีบลุ้นรีบทายผลแบบสนุก ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 11 ก.ค.นี้

ผู้ที่รักการเล่นฟุตบอลทุกเพศทุกวัยที่มีที่พักอยู่ในย่านดอนเมือง บางเขน ลำลูกกา รังสิต ธัญบุรี คลอง 1 ถึงคลอง 12 ขณะนี้ที่คลอง 2 ริมทางหลวงสายรังสิต - นครนายก มีนักธุรกิจเปิดสนามหญ้าเทียมที่ใช้ฝึกซ้อมและแข่งขันตามมาตรฐานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ สนามดังกล่าวคือ Sky Soccer ที่บริหารงานโดยนางธนิษฐา ชนะวรรณโณ สนามแห่งนี้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายไพโรจน์ อินทร์เนื่อง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองรังสิต เป็นประธาน

สนาม Sky Soccer เป็นสนามฟุตบอลลอยฟ้าแห่งแรกของไทย ด้วยงบลงทุนกว่า 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่ไม่ได้มุ่งเน้นเรืองของการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างเดียว แต่ได้ตระหนักถึงการมุ่งส่งเสริมกีฬาฟุตบอลที่เป็นกีฬายอดนิยมของคนไทยทุกวัย สนามเปิดให้เช่าบริการเล่นฟุตบอลประเภททีม 5-7 คน ซึ่งเป็นสนามที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อของผู้รักการเล่นฟุตบอล รวมถึงใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมกีฬาของสถาบัน และบริษัทต่างๆ โดยมีทั้งหมด 4 สนาม เปิดทำการระหว่างเวลา 14.00-23.00 น. ทุกวัน

นอกจากนี้ในอนาคตเรายังมีโครงการที่เพื่อส่งเสริมการเล่นฟุตซอลและฟุตบอล 7 คน ทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และประชาชนทั่วไปโดยได้จัดเป็นระบบลีกแข่งขัน เพื่อให้นักฟุตบอลความสามารถทางด้านฟุตบอลออกมาใช้ได้เต็มที่ พร้อมทั้งจะเปิด อะคาเดมี่ สำหรับสอนฟุตบอล โดยอดีตนักกีฬาทีมชาติไทยอีกด้วย สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ โทร. 08-4567-2277,08-4659-2277 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.skysoccer.net

ข่าวสุดท้ายเป็นเรื่องราวของสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยที่เปิดการอบรมผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลนานาชาติระดับ 1 ในโครงการสงเคราะห์ของโอลิมปิกสากลที่ห้องประชุมสำนักกีฬามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในช่วงกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ร่วมการอบรมจาก 9 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, จีน, เคนยา, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, สิงคโปร์, เวียดนาม และไทย รวม 36 คน ผู้ที่ผ่านการอบรมจะมีโอกาสเข้าร่วมการอบรมในระดับ 2 ในอนาคตต่อไป


เพิ่มเติม http://www.ryt9.com/s/nnd/900852

วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

"ฮอนด้า" ชวนมันส์ เกาะติดอังกฤษสู้ศึกที่แอฟริกา ทุ่มงบกว่า 50 ล้าน


ฮอนด้า ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย คิกออฟแคมเปญใหญ่ โดนใจแฟนบอลชาวไทยไห้ได้เฮลั่นกันทั่วประเทศ เล่นเกมรุกด้วยแคมเปญสร้างความคึกคักให้ตลาดรูปแบบใหม่ ไม่ซ้ำใคร ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท นำลิขสิทธิ์ทีมชาติอังกฤษ สร้างสรรค์กิจกรรมแนวเฉพาะสุดพิเศษ ให้ชาวไทยได้ร่วมเกาะติดเกมส์การแข่งขันในศึกลูกหนังโลกปี 2010 นี้ ได้อย่างสนุกมันส์มากขึ้น กับแคมเปญ "เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบ กับฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ" เพียงทายว่า ทีมชาติอังกฤษจะสู้ศึกการแข่งขันระดับโลกที่แอฟริกาใต้ในปีนี้ได้ถึงรอบไหน รอบ 32/16 ทีม หรือ รอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือรอบ 4 ทีมสุดท้าย ทายถูกลุ้นรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ลายสิงห์โตคำราม Limited Edition เพียง 100 คัน ทายพลาดมีสิทธิ์ลุ้นรับ เสื้อโปโลทีมชาติอังกฤษ 1,000 ตัว รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 7 ล้านบาท ลิขสิทธิ์พิเศษสุดนี้เพื่อแฟนบอลชาวไทยเฉพาะที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ

ม.ร. จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงที่มาแนวคิดในการวางกลยุทธ์การตลาดในครั้งนี้ว่า "การแข่งขันกีฬาฟุตบอล เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากกลุ่มคนทุกวัย ไม่เพียงแต่เฉพาะในเมืองไทย แต่เป็นกระแสความนิยมที่เกิดขึ้นไปทั่วทุกมุมโลก ซึ่งที่ผ่านมาฮอนด้าได้ใช้กระแสฟุตบอลมาช่วยกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น การสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2006, การสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรปี 2008 และการสนับสนุนการมาเยือนเมืองไทยของทีมลิเวอร์พูลปี 2009 สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2010 นี้ ฮอนด้าได้ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท สร้างสรรค์กลยุทธ์ในการกระตุ้นบรรยากาศความคึกคักที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ด้วยกิจกรรมรูปแบบใหม่ จากการศึกษาข้อมูลความนิยมของแฟนบอลชาวไทยส่วนใหญ่ พบว่า ทีมชาติอังกฤษเป็นทีมในดวงใจที่แฟนบอลชาวไทยติดตามเชียร์กันมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง เหนือทีมบราซิล และเยอรมัน (ข้อมูลผลสำรวจจากสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เมื่อฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาปี 2006) เพราะทีมชาติอังกฤษเป็นทีมจากประเทศที่ได้ชื่อว่ามีลีกการแข่งขันที่ดังที่สุดในโลก และมีนักเตะทีมดังระดับเวิลด์คลาสที่คนไทยชื่นชอบมากมาย อาทิ เช่น สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนีย์, แอชลี่ย์ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด และอื่นๆ โดยกิจกรรมที่ฮอนด้าสร้างสรรค์ขึ้นในครั้งนี้ คือการร่วม "เกาะติดอังกฤษ สู้ศึกลูกหนังโลก ลุ้นโชคทุกรอบกับฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" ซึ่งไม่ว่าทีมชาติอังกฤษจะเข้ารอบไหน ผู้ร่วมสนุกก็มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลลิขสิทธิ์แท้จากทีมชาติอังกฤษสำหรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เพื่อมอบให้กับแฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้แฟนๆ ทีมอังกฤษ ได้ติดตามเชียร์และลุ้นทีมในดวงใจอย่างสนุกมันส์มากยิ่งขึ้น"

สำหรับรางวัลใหญ่ของกิจกรรมในครั้งนี้ เชื่อว่าจะถูกใจคอบอลมากที่สุด นั่นคือ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ หนึ่งในรถเอ.ที. ยอดนิยมของฮอนด้า ที่ออกแบบพิเศษเป็นลายทีมชาติอังกฤษ สิงห์โตคำราม จำนวน 100 คัน พร้อมหมวกกันน็อคครบเซ็ต มูลค่ารางวัลละ 61,500 บาท สำหรับผู้ที่ทายถูกว่าอังกฤษจะเข้าถึงรอบไหนในศึกที่แอฟริกาใต้ปีนี้ จะเป็นรอบ 32/16 ทีม หรือ รอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือรอบ 4 ทีมสุดท้าย ส่วนผู้ที่ทายพลาดลุ้นรับเสื้อโปโลลายทีมชาติอังกฤษแท้อีก 1,000 ตัว มูลค่ารางวัลละ 1,200 บาท รวมของรางวัลทั้งสิ้น 1,100 รางวัลมีมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท การร่วมสนุกในครั้งนี้ ผู้ที่สนใจขอรับคูปองทายผลได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ หรือตัดจากใบปลิว โฆษณาหนังสือพิมพ์ และ นิตยสารต่างๆ โดยสามารถส่งชิ้นส่วนทายผลได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และร้านพลัสฟรีดอม คาเฟ่ สยามแสควร์ จับรางวัลพร้อมกันวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ที่บริษัท เอ.พี ฮอนด้า จำกัด ประกาศผลทางหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันที่ 9 สิงหาคม 2553 และทางเว็บไซต์ www.aphonda.co.th อย่ามัวแต่เชียร์เงียบๆ แต่ให้มารีบลุ้น รีบทาย แบบสนุกมันส์ รู้กัน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 11 กรกฎาคม 2553 นี้


เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page071.asp?id=2214

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ตลาดรถจักรยานยนต์ปิดไตรมาสแรก เติบโต 133 %


มอเตอร์ไซต์ เอ.ที. ส่งกระแสแรงต่อเนื่องเติบโตสูงสุดถึง 139 %ขณะที่ระบบหัวฉีด สร้างความมั่นใจเกินกว่าครึ่งตลาด กวาดสัดส่วนกว่า 54 % ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปิดไตรมาสแรกได้อย่างสวยงาม เติบโตถึง 133% ส่งสัญญาณคึกคักรับเศรษฐกิจช่วงซัมเมอร์ ด้วยยอดจดทะเบียนสะสม 3 เดือนแรกของปีที่ 466,415 คัน โดยในเดือนมีนาคมจบตัวเลขได้สูงสุดของไตรมาสนี้ที่ 169,420 คัน เติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีเดียวกันเดือนก่อนหน้า โดยรถประเภท เอ.ที มีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 139% ซึ่งสามารถรักษากระแสความฮิตยอดนิยมติดลมบนเทียบเคียงรถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัว เทียบสัดส่วนเท่ากันที่ 48% จากสัดส่วนปีที่แล้วที่ 46% สำหรับรถ เอ.ที และ 50% สำหรับรถครอบครัว ขณะที่เทรนด์การขับขี่ใหม่ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด ขึ้นกวาดแชร์เปลี่ยนสัดส่วนตลาดรวมได้เกินครึ่งถึงกว่า 54% ค่ายผู้นำฮอนด้ายิ่งมั่นใจ เร่งเปิดเกมรุกตอกย้ำประสิทธิภาพรถฮอนด้าเอ.ที หัวฉีดเต็มกำลัง ด้วยกิจกรรมสื่อสารการตลาดโดนใจกลุ่มวัยรุ่นวัยทีน พร้อมส่งรถ เอ.ที สีใหม่เข้าสู่ตลาดในไตรมาสที่สอง หลังเปลี่ยนตลาดป้อนมอเตอร์ไซต์ระบบหัวฉีดเต็ม 100% หวังสร้างเทรนด์การขับขี่ใหม่ให้กับผู้ขับขี่ได้ครบถ้วนทุกเซกเมนต์

นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ว่า "ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีปริมาณยอดสะสมจดทะเบียนป้ายวงกลมรวมทั้งสิ้น 466,415 คัน เทียบเท่าอัตราการเติบโตของตลาดที่สูงถึง 133% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 351,019 คัน ซึ่งมีปริมาณการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 115,396 คัน นับเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตปิดฉากไตรมาสแรกอย่างสวยงามตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยฮอนด้าขานรับสัญญาณเติบโตภาพรวมของทิศทางเศรษฐกิจเต็มที่ โตถึง 144% โดยมียอดจดทะเบียนรวมไตรมาสแรกที่ 326,601 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาดที่ 70%"

และหากศึกษาถึงรายละเอียด จะเห็นว่าภายใต้สัญญาณของการเติบโตตลาดภาพรวมนั้น ยังสะท้อนตัวเลขเชิงลึกให้เห็นถึงกระแสการเติบโตของกลุ่มรถจักรยานยนต์ประเภทแบบ เอ.ที ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถครองสัดส่วนความนิยมได้เทียบเท่ากับรถประเภทครองครัวในไตรมาสแรกที่ 48% ซึ่งเหตุผลหนึ่งของการเติบโตนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ทุกค่ายผู้ผลิตต่างส่งหลากรุ่นรถในประเภทนี้เข้าแข่งกันชิงความนิยมกันเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังใช้กลยุทธ์ในการส่งเสริมการจำหน่าย ผลักดันแคมเปญพร้อมรุกสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้ามากขึ้น ซึ่งสภาพตลาดช่วงหลังจากนี้ คาดการณ์ว่ารถจักรยานยนต์ประเภท เอ.ที จะยังคงสร้างความคึกคักและความตื่นตัวให้กับตลาดได้ต่อไป ซึ่งฮอนด้าขึ้นนำชัยในไตรมาสแรกกวาดแชร์เซกเมนต์ดังกล่าวได้เกินครึ่งถึงกว่า 57% หรือที่ 125,855 คัน จากยอดจดทะเบียนประเภทรถ เอ.ที รวมทั้งหมด 222,375 คัน รองลงมาเป็นยามาฮ่า 41% และ ซูซูกิ 2%



ในฐานะผู้นำ เพื่อเป็นการผลักดันตลาดรถประเภท เอ.ที อย่างต่อเนื่อง ฮอนด้าจึงได้รุกกิจกรรมสานต่อไลฟ์สไตล์ความสนุก ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ ด้วยกิจกกรรม "สกู๊ปปี้ ดี-เดย์" ร่วมกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ชวนวัยรุ่นวัยแนวทำเรื่องดีๆ ในหนึ่งวันให้เป็นเรื่องมันส์ๆ แบบโดนใจกันทั่วประเทศ พร้อมรุกต่อเนื่องกับกิจกรรมในเดือนพฤษภาคม ด้วยการร่วมผนึกกำลังกับรายการวัยรุ่น 5 Live และ OIC รวมพลังคนรักโลก สร้างปรากฏการณ์เพื่อโลกสวยในงาน "For World Forward by Honda Click i" นำโดยบี้ เดอะสตาร์ ในวันที่ 15 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ณ ไอแลนด์ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอแลนด์ เพื่อเป็นการตอกย้ำความนิยมและความเชื่อมั่นในรถประเภท เอ.ที และโดยเฉพาะรถระบบหัวฉีด PGM-FI พร้อมกระตุ้นตลาดส่งรถเอ.ที หัวฉีดสีสันใหม่เพิ่มขึ้น ต้อนรับฤดูร้อนในไตรมาสที่สองพร้อมกันถึง 3 รุ่น ทั้งฮอนด้า พีซีเอ๊กซ์ ในรูปโฉมสีขาวใหม่ดูสมาร์ท, ฮอนด้า คลิก ไอ สีน้ำตาล-ดำ, สีน้ำเงิน และสีชมพู-ดำ และฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีเหลือง-ดำ ในรุ่นฟัน, สีฟ้า-ขาว ในรุ่นคิวท์ และสีแดง-น้ำตาลในรุ่นเพรสทิจ

สำหรับรายงานตัวเลขตลาดรถจักรยานยนต์ทุกประเภทเดือนมีนาคม 2553 มียอดจำหน่ายรวมที่ 169,420 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์แบบเอ.ที 83,011 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49% ซึ่งขึ้นนำรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวที่มียอดจดทะเบียนที่ 78,635 คัน หรือเทียบเท่าสัดส่วนตลาด 46% สำหรับรถจักรยานยนต์ในแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตมีจำนวน 3,983 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 2% แบบสปอร์ต 1,091 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% และแบบออฟโรดรวมประเภทอื่นๆ 2,700 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาดกว่า 1%

ในขณะที่หากแบ่งแยกเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทของผู้ผลิตในเดือนมีนาคม รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 117,626 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 69%, ยามาฮ่า 41,705 คัน อัตราครองตลาด 25%, ซูซูกิ 5,893 คัน อัตราครองตลาด 3%, อื่นๆ ได้แก่ คาวาซากิ 2,418 คัน , เจอาร์ดี 23 คัน, แพล็ตตินั่ม 58 คัน, ไทเกอร์ 189 คัน และอื่นๆ 1,508 คัน


เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page070.asp?id=2213

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ไทยซูซูกิปัดย้ายฐานผลิตซบอินโดฯ ลั่นควักพันล้านลงทุนเพิ่ม


ค่ายรถจักรยานยนต์ “ซูซูกิ” โต้ข่าวลือย้ายฐานไปอินโดนีเซีย ยืนยันไทยยังเป็นฐานการผลิตและศูนย์กลางอาร์แอนด์ดีของภูมิภาคต่อไป โดยปีนี้ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และงบการตลาดรวม 1 พันล้านบาท เพื่อผลักดันยอดขายพุ่ง 1 แสนคัน เติบโตกว่า 20% และเท่านั้นไม่พอบริษัทแม่ยังเตรียมย้ายไลน์การผลิตเครื่องยนต์เรือเล็ก จากประเทศญี่ปุ่น มาไทย คาดจะเริ่มดำเนินการได้ปลายปีนี้

นายเลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีรายงานข่าวถึงการย้ายฐานผลิตจากประเทศไทยไปยังอินโดนีเซีย จนทำให้เกิดความสับสนเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการตรวจสอบของบริษัท ทราบว่า มาจากความผิดพลาดในการสื่อสารทางภาษา โดยการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของผู้บริหารซูซูกิในอินโดนีเซีย เมื่อคราวเปิดตัวรถจักรยานยนต์โมเดลใหม่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

“เรื่องนี้เราได้ตรวจสอบกับทางบริษัทแม่ซูซูกิ มอเตอร์ ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ทราบว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยไทยยังจะเป็นฐานการผลิตและศูนย์การออกแบบของซูซูกิในภูมิภาคเอเชียเช่น เดิม และจะยังคงมีการลงทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดไทยและส่งออกต่อไป”

ทั้งนี้ แม้ตลาดอินโดนีเซียมีการเติบโตเป็นอย่างมาก แต่ไทยมีศักยภาพในการผลิตที่มีคุณภาพ และต้นทุนก็ไม่ได้สูงกว่าแต่อย่างใด ทำให้ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ พร้อมกับเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ หรืออาร์แอนด์ดี (R&D) ของภูมิภาค ซึ่งตั้งอยู่สถานที่แห่งเดียวกับอาร์แอนด์ดีของรถยนต์ซูซูกิ ที่เพิ่งเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานในไทย เพื่อผลิตรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์

“ที่สำคัญ ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ยังเตรียมจะย้ายฐานการผลิตเครื่องยนต์เรือขนาดเล็ก จากประเทศญี่ปุ่นมาไทยอีกโครงการ ซึ่งเบื้องต้นจะมีการผลิตเพื่อส่งออกมากกว่า 3.2 หมื่นเครื่อง จากเดิมที่ไทยได้มีการผลิตอยู่เพียงปีละไม่กี่พันเครื่องเท่านั้น และอนาตก็จะปรับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ” นายเลิศศักดิ์ กล่าวและว่า สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ขณะนี้กำลังมีการพูดคุยกันในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นแผนงานและมูลค่าการลงทุน แต่ชัดเจนว่าจะย้ายไลน์การผลิตมาไทยแน่นอน คาดว่าจะเริ่มมีความชัดเจนในการลงทุนและนำเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งในไทย ประมาณปลายปีนี้ หรือต้นปี 2554





นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการลงทุนอื่นๆ เป็นปกติที่ซูซูกิจะลงทุนต่อเนื่องทุกปี ไม่ว่าจะเป็นขยายกำลังการผลิต และการลงทุนในการพัฒนารถจักรยานยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาด ซึ่งในปีนี้จะยังไม่มีการลงทุนขยายการผลิต เพราะกำลังการผลิตของโรงงานอยู่ 4 แสนคันต่อปี และปัจจุบันใช้ไปเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่ในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ยังคงมีเช่นเดิม เพื่อที่จะแนะนำรถใหม่สู่ตลาดในปีนี้

“การลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท และซูซูกิยังตั้งงบตลาดไว้อีก 500 ล้านบาท เพื่อผลักดันเป้าหมายการขายปีนี้ให้บรรลุ 1 แสนคัน หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกอยู่ที่ประมาณ 1 แสนคันเช่นกัน ด้านภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทย คาดว่า ปีนี้จะอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน หรือเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการเติบโตของเศรษฐกิจและสินค้าเกษตรราคา ส่วนปัญหาการเมืองไม่น่าจะส่งผลมากนัก”

โดยยอดขายของซูซูกิในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ที่ผ่านมา ทำได้ตามเป้าหมายประมาณ 3 หมื่นคัน แม้หากเทียบกับภาพรวมตลาดแล้วยังถือว่าต่ำอยู่ แต่ในช่วงที่ผ่านมาซูซูกิไม่ได้แนะนำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดเลย จนล่าสุดในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2010 ที่ไบเทค บางนา ได้มีการส่ง ซูซูกิ สแมท และ ซูซูกิ สกายไดร์ฟ โฉมใหม่สู่ตลาดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการเปิดตัว ซูซูกิ เจลาโต เมื่อเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา

นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ซูซูกิ สแมท เป็นรถครอบครัวที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยบริษัทตั้งเป้าไว้เดือนละ 5,000 คัน แต่ปัจจุบันไม่สามารถส่งมอบรถได้ทันความต้องการลูกค้าที่สูงมาก จึงต้องมีการปรับกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับสภาพตลาด เช่นเดียวกับ ซูซูกิ สกายไดร์ฟ รถแบบออโตเมติก หรือ เอ.ที.ที่เปิดตัวสู่ตลาดพร้อมกันอีกรุ่น เป็นที่ชื่นชอบจนไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการของตลาดเช่นกัน

“ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปัจจุบัน รถแบบ เอ.ที.เติบโตเป็นอย่างมาก โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 49% แต่ตลาดหลักของซูซูกิยังอยู่ที่รถแบบครอบครัว หรือประมาณ 70% ของยอดขาย ส่วนอีก 30% เป็นรถแบบ เอ.ที.แต่เพื่อตอบรับกับกระแสการเติบโตของรถประเภทนี้ เราจึงได้มีการแนะนำ ซูซูกิ เจลาโต เวอร์ชั่นพิเศษสู่ตลาด เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายให้ซูซูกิได้ตามเป้า”

สำหรับ ซูซูกิ เจลาโต ใหม่ ได้มีการนำเสนอสีสันลวดลายใหม่ๆ โดยมีทั้งหมด 2 รุ่นให้เลือก คือ Jelato Punk ที่ทำออกมาสำหรับหนุ่มสาวแนวห้าว ที่ชอบสไตล์เท่ๆ มันส์ๆ และรุ่น Cute Limited Edition จับกลุ่มหนุ่มสาววัยรุ่นที่อยากจะแสดงออกถึงความน่ารักสดใส ซึ่งทั้งหมดไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด โดยเริ่มต้นที่ราคา 4.69 หมื่นบาท


เพิ่มเติม http://www.mocyc.com/news/view.php?category=2&idnews=368

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

"ฟีม" เชื่อมีแต้มแรกที่เลอมังส์


รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดทีมไทยฮอนด้าพีทีทีสิงห์แซค ในศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรุ่นโมโตทู แสดงความมั่นใจว่าความเร็วของรถ HB4 เริ่มมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และน่าจะเริ่มเก็บแต้มแรกได้ในการแข่งขันสนามที่ 3 ที่ฝรั่งเศสในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในเวิลด์ จีพี ยังไม่สามารถเก็บแต้มในศึกโมโตทูฤดูกาลใหม่ หลังผ่านการแข่งขันใน 2 สนามแรก เนื่องจากทีมงานยังเซ็ตอัพรถแข่ง HB4 หมายเลข 14 ได้ไม่ลงตัว โดยเฉพาะการทำความเร็วในช่วงทางตรง

อย่างไรก็ดีหลังจบการแข่งขันสนามล่าสุดที่ประเทศสเปน ฟีมที่รถมีปัญหาในรอบควอลิฟาย จนต้องออกตัวจากกริดที่ 30 แต่ก็ยังสามารถไล่แซงคู่แข่งได้ถึง 13 คัน จนจบการแข่งขันในอันดับที่ 17 ได้ ซึ่งเจ้าตัวมองโลกในแง่ดีว่าความเร็วของรถเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ

"อันดับ 17 จากสนามล่าสุดสำหรับผมถือว่าน่าพอใจ แม้ว่ารถของเราจะยังไม่สมบูรณ์ที่สุด แต่อย่างน้อยการได้รับคำแนะนำดานเทคนิคจากทีมงานบบิโมตา(ค่ายเฟรมรถ) ก็ทำให้เราทำความเร็วเพิ่มขึ้นได้พอสมควร ซึ่งเป้าหมายต่อไปคือการเก็บแต้มแรกให้ได้ในสนามหน้าที่เลอมังส์" ฟีมเผย

สำหรับศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามต่อไป จะขยับไปแข่งขันกันที่สนามเลอ มังส์ ประเทศฝรั่งเศส ในศึกเฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ วันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค.นี้



เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9530000061444

วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลุ้น ฟีม คืนฟอร์มบิดเฆเรซ


นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดทีมไทย ฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซค แห่งศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่นโมโตทู หลังประเดิมผลงานสนามแรกของปี 2010 ด้วยการไม่มีแต้มติดมือ อย่างไรก็ดีเจ้าตัวยังคงมุ่งมั่นขอติดท็อป 10 ในการแข่งขันสนามที่ 2 ของปีที่ประเทศสเปน วันที่ 2 พ.ค.นี้

ศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกมีคิวกลับมาดวลความเร็วกันอีก ครั้ง หลังการแข่งขันสนามที่ 2 ที่ประเทศญี่ปุ่นตามปฏิทินเดิมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องถูกยกเลิก หลังนักบิดฝั่งยุโรปไม่สามารถบินมาแข่งขันได้เนื่องจากเหตุการปะทุของภูเขา ไฟในไอซ์แลนด์ ทำให้การแข่งขันในศึกสแปนิช กรังด์ปรีซ์ ที่เฆเรซ เซอร์กิต ประเทศสเปน ถูกขยับมาเป็นการแข่งขันเรซที่ 2 ของฤดูกาลแทน

ซึ่งก่อนนักบิดรุ่นโมโตทูทั้ง 40 คน จะนำรถลงทดสอบสนามในช่วงวันศุกร์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในเวิลด์ จีพี ที่ทำผลงานจบอันดับ 17 ในเรซแรกที่กาตาร์ เผยถึงการที่ศึกเจแปนนิส จีพีถูกเลื่อนออกไปว่า "ถือเป็นโชคดีของผมที่การแข่งขันที่โมเตกิ ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากมันทำให้ผมมีเวลาอยู่กับครอบครัวในเมืองไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันทีมงานก็มีเวลาแก้ไขจุดพกพร่องของรถที่ยังมีมากมาย"

โดยนักบิดวัย 22 ปี เผยถึงการชิงชัยโมโตทูสนามที่ 2 ของปีว่า "ผมมุ่งมั่นเป็นพิเศษกับการแข่งขันที่เฆเรซ เพราะเป็นหนึ่งในสนามที่ยากเอาการ รวมถึงไม่ถนัดมากนักเมื่อเทียบกับนักแข่งในยุโรป และมั่นใจว่าหากทีมงานทำรถ HB4 ได้ลงตัวตั้งแต่รอบฝึกซ้อม ผมก็มีโอกาสที่จะทะลุเข้าไปจบการแข่งขันในท็อป 10 และเก็บแต้มประเดิมฤดูกาลใหม่ได้แน่นอน"

ด้านนายอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เผยถึงความคืบหน้าของการปรับปรุงรถ HB4 หมายเลข 14 หลังจบศึกกาตาร์ กรังด์ปรีซ์ ที่รถทำความเร็วทางตรงได้ช้ากว่าทีมอื่นร่วม 30 กม./ชม. ว่า ทีมงานสต็อป แอนด์ โก โดยทีมบอส เอดูอาร์โด เปราเลส ได้นำรถไปปรับปรุงยังประเทศอิตาลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"หลังผ่านสนามแรก ฟีมพบปัญหาใหญ่ 3 จุดที่ระแบบแอร์โรไดนามิค ,ระบบเบรก และขนาดของท่อไอเสีย ที่ต้องเร่งแก้ โดยเปราเลสรับปากว่าจะปรับปรุงให้เรียบร้อยในการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งทางเรามั่นใจว่าปัญหาจากตัวรถจะไม่เป็นอุปสรรคของฟีมอีกต่อไป แต่หากยังไม่ดีขึ้นเราต้องเรียกทีมงานมาคุยเป็นการด่วน เพราะการแข่งขันระดับเวิลด์ จีพี ไม่มีเวลาที่จะมาลองผิดลองถูกอีกแล้ว" เสี่ยอารักษ์เผยผ่าน MGR SPORT

ท้ายที่สุด เสี่ยอารักษ์ พูดถึงโอกาสของนักบิดชาวไทยในศึกสแปนิช กรังด์ปรีซ์สุดสัปดาห์นี้ว่า "ต้องยอมรับว่าผลงานของฟีมที่เฆเรซยังไม่เข้าเป้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นรองเรื่องความชำนาญเนื่องจากนักบิดส่วนใหญ่เป็นคน สเปนที่มีประสบการณ์แข่งที่นี่มาเป็นว่าเล่น แต่หากฟีมปรับตัวกับรถได้เร็ว และผลควอลิฟายที่ดี ผมเชื่อว่าเขาติดท็อป 10 ได้แน่นอน"

สำหรับสถิติของ "เจ้าลิงน้อย" ในการการแข่งขันที่สนามเฆเรซ ในช่วง 3 ฤดูกาลล่าสุดที่ลงแข่งในรุ่น 250 ซีซี ถือว่าไม่ดีเท่าที่ควร หลังจบการแข่งขันอันดับที่ 12 ,12 และ 15 ในปี 2007 ,2008 และ2009 ตามลำดับ โดยศึกสแปนิช จีพี รุ่นโมโตทู รอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นที่เฆเรซ เซอร์กิต วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค.นี้ เวลา 17.15 น. ตามเวลาประเทศไทย


เพิ่มเติม http://www.mocyc.com/content/view.php?idcontent=189

เปโดรซา โพลฯรุ่นใหญ่ ฟีม เร่งไม่ขึ้น


ดานี เปโดรซา นัดบิดหน้าละอ่อนจากค่ายเรปโซล-ฮอนด้า มีลุ้นคว้าแชมป์ต่อหน้าแฟนๆในบ้านเกิดตัวเอง หลังคว้าตำแหน่งโพลโพซิชันในรุ่นโมโต จีพี ได้ออกตัวเป็นคันแรก ในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรายการสแปนิช กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศสเปน

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 2 ของฤดูกาล 2010 รายการสแปนิชกรังด์ปรีซ์ แข่งขันกันที่ เฆเรซ เซอร์กิต ประเทศสเปน มีความยาวต่อรอบ 4.428 กม. ช่วงบ่ายวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นเป็นการแข่งขันกันในรอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ท

ในรุ่นโมโตจีพี (800 ซีซี) ปรากฎว่า ดานี เปโดรซา นัดบิดเจ้าถิ่นจากค่ายเรปโซล-ฮอนด้า ทำเวลาดีที่สุดในรอบนี้ที่เวลา 1 นาที 39.202 วินาที คว้าตำแห่งโพลโพซิชันไปครอง ได้ออกสตาร์ทเป็นคันแรก โดยมีฮอร์เก ลอเรนโซ จากยามาฮา และเคซีย์ สโตเนอร์ จากดูคาติ ออกตัวเคียงข้างในแถวแรก ขณะที่วาเลนติโน รอสซี แชมป์โลกคนล่าสุด ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 เท่านั้น

ส่วนในรุ่นโมโตทู (600 ซีซี) ที่มี รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยสังกัดทีมไทยฮอนด้าพีทีทีสิงห์แซค ลงแข่งขันปรากฎว่า "เจ้าฟีม" ยังคงเร่งเครื่องไม่ขึ้นทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 30 จาก 41 คัน จะได้ออกตัวจากกริด 30 ในแถวที่ 9 ขณะที่เจ้าของตำแหน่งโพลฯในรุ่นนี้ตกเป็นของโชยะ โทมิซาวา นักบิดญี่ปุ่นจากทีมเทคโนแม็ค-ซีไอพี

สำหรับศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรายการ "สแปนิช กรังด์ปรีซ์ 2010" รอบชิงชนะเลิศ จะมีขึ้นที่ เฆเรซ เซอร์กิต ประเทศสเปน วันที่ 2 พ.ค.นี้ โดยรุ่น โมโตทู จะเริ่มแข่งขันเวลา 17.15 น. ส่วนรุ่นโมโต จีพี แข่งขันเวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย



เพิ่มเติม http://www.mocyc.com/news/view.php?category=1&idnews=365

วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จยย.แรงยอดพุ่ง133%


ตลาดรถจักรยานยนต์แรงไม่แพ้ตลาดรถยนต์ปิด ไตรมาสแรกยอดพุ่ง 133% เหตุรถแบบเอ.ที.ปรับตัวเพิ่มสูงมาก

นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ว่า ในช่วงไตร มาสแรกปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณยอดสะสมจดทะเบียนป้ายวงกลม รวมทั้งสิ้น 466,415 คัน เทียบเท่าอัตราการเติบโตของตลาดที่สูงถึง 133% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีจำนวน 351,019 คัน หรือมีปริมาณการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 115,396 คัน

สาเหตุเกิดจากการขยายตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ โดยฮอนด้าขานรับสัญญาณดังกล่าว ด้วยยอดจดทะเบียนรวมที่ 326,601 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาดที่ 70%

“ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาแม้จะมีปัญหา ทางการเมือง แต่ตัวเลขยอดขายยังสามารถทำได้มากกว่าเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์เสียอีก โดยปิดตัวเลขถึงกว่า 1.69 แสนคัน และมากกกว่าเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายทั้งสิ้นเพียงกว่า 1.26 แสนคัน และคาดว่าแนวโน้มตลาดรถจักรยานยนต์ปีนี้น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไป”

ทั้งนี้หากศึกษาถึงรายละเอียด จะเห็นว่าภายใต้สัญญาณของการเติบโตตลาดภาพรวมนั้น ยังสะท้อนตัวเลขเชิงลึกที่แสดงให้เห็นถึงกระแสการเติบโตของกลุ่มรถ จักรยานยนต์ประเภทเกียร์ออโตเมติก หรือรถแบบเอ.ที ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถครองสัดส่วนการขายเทียบเท่ากับรถประเภทครองครัวที่ 48%เนื่องจากทุกค่ายผู้ผลิตต่างส่งหลากรุ่นรถแบบเอ.ที.ออกมาแข่งขันในตลาด อีกทั้งยังใช้กลยุทธ์ในการส่งเสริมการจำหน่าย ผลักดันแคมเปญพร้อมรุกสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้ามากขึ้น

โดยคาดการณ์ว่ารถจักรยานยนต์ประเภทเอ.ที จะยังคงสร้างความคึกคักและความตื่นตัวให้กับตลาดได้ต่อไป ซึ่งฮอนด้าได้ขึ้นนำในไตรมาสแรก ครองส่วนแบ่งตลาดของเซกเมนต์ดังกล่าวกว่า 57% หรือที่ 125,855 คัน จากยอดจดทะเบียนประเภทรถเอ.ที รวมทั้งหมด 222,375 คัน รองลงมาเป็นยามาฮ่า 41% และซูซูกิ 2%

สำหรับตัวเลขยอดจำหน่ายทุกประเภทเดือนมีนาคม มียอดจำหน่ายรวมที่ 169,420คัน แบ่งเป็นรถเอ.ที. 83,011 คัน รถแบบครอบครัว 78,635 คัน รถครอบครัวกึ่งสปอร์ต 3,983คัน รถแบบสปอร์ต 1,091 คัน และแบบออฟโรดรวมประเภทอื่น ๆ2,700 คัน

หากแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนของผู้ผลิตในเดือนมีนาคม รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 117,626 คัน ยามาฮ่า 41,705 คัน ซูซูกิ 5,893คัน คาวาซากิ 2,418 คัน เจอาร์ดี 23คัน แพล็ตตินั่ม 58 คัน ไทเกอร์ 189 คัน และอื่น ๆ 1,508 คัน


เพิ่มเติม http://www.mocyc.com/news/view.php?category=2&idnews=366

ยามาฮ่า ตอกย้ำแบรนด์ อิมเมจ พร้อมต่อยอดแคมเปญ


“ยามาฮ่า ฟีโน่” เดินหน้าลุยแคมเปญ “Everyday is SunDay with FINO” กิจกรรมตอบแทนลูกค้าฟีโน่ ในรูปแบบสไตล์เอ็กซ์คลูซีฟ หลังประเดิมเชียงใหม่แห่งแรก กระแสตอบรับแรงเกินคาด ชูกลยุทธุ์การตลาดมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง สานต่อครั้งที่ 2 ชวนสาวกฟีโน่สัมผัสปาร์ตี้อย่างใกล้ชิด กับศิลปินกลุ่มวง season five ที่มีสไตล์การร้อง Hybrid A cappella พร้อมด้วยกิจกรรม และเกมสุดมันส์ที่หลากหลาย ณ เขื่อนแก่งกระจาน วันที่ 15-16 พ.ค.นี้ แฟนพันธุ์แท้ฟีโน่ไม่ควรพลาด

สรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า แคมเปญ “Everyday is SunDay with FINO” มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบแทนลูกค้าของฟีโน่ ด้วยการจับมือกับกลุ่มธุรกิจสื่อสารและบันเทิงใหม่ ไอน์สไตน์ บาย แม็ทชิ่ง กรุ๊ป ซึ่งเป็นยูนิตหนึ่งของ บริษัท แม็ทชิ่ง เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ที่ได้สร้างสรรค์ศิลปินกลุ่ม “season five” โดดเด่นด้วยแนวเพลงสไตล์ Hybrid A cappella หรือการร้องในแบบประสานเสียงจากศิลปินทั้ง 4 คน ซึ่งศิลปินกลุ่มดังกล่าวจะร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ โดยจะทำหน้าที่สื่อสารให้เห็นถึงความสุขของฟีโน่ที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆวัน และจะร่วมส่งมอบความสุขด้วยเพลงฮิตที่ติดชาร์ท อาทิ เจ้าหญิง, แค่ตัวเลือก, รักคนไม่มีตัวตน และเพลงพิเศษที่เป็นธีมหลักของแคมเปญนี้อย่าง “Everyday is SunDay”

สำหรับแคมเปญ “Everyday is SunDay with FINO” นั้นมีรูปแบบการจัดโรดโชว์จำนวน 5 ครั้งใน 5 จังหวัด ทั้งนี้ในปีที่ผ่านได้จัดขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ปรากฏว่ามีกระแส ตอบรับกลับมาอย่างดี และเรากำลังจะเปิดโอกาสให้ ลูกค้าได้ร่วมกิจกรรมครั้งที่ 2 โดยมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคมนี้ ณ นาน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตอกย้ำแนวคิด “Yes! We are Different” กับ ยามาฮ่า ฟีโน่ อีกครั้ง ด้วยแคมเปญ “Amazing FINO อะไร…ก็เกิดขึ้นได้”

“เป้าหมายของการจัดกิจกรรม “Everyday is SunDay with FINO” นี้ นอกจากจะเป็นกิจกรรมตอบแทนลูกค้า ฟีโน่แล้ว ยังตอกย้ำถึง Brand Image ของยามาฮ่า ที่ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เพื่อจำหน่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของยามาฮ่า ฟีโน่ และยังแสดงให้เห็นถึงการเอาใจใส่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่าหรือใหม่ ซึ่งจะได้รับการดูแลตอบสนองในทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และปีนี้เราจะยังเสริมเน้นไปที่กลยุทธ์ สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักการถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2010 ในประเทศไทย, สนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก, แชมเปี้ยน ลีก รวมถึงฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ตลอดจนเป็นผู้สนับสนุนหลัก สนามยามาฮ่าสเตเดี้ยม และทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด”

ล่าสุด ยามาฮ่า ฟีโน่ เปิดตัวแคมเปญใหม่ “Amazing FINO” อะไร..ก็เกิดขึ้นได้ ที่มีให้เลือก 3 สไตล์ ได้แก่ ฟีโน่ พรีเมียม, ฟีโน่ เอ็กซ์ตรีม และฟีโน่ แฟชั่น นอกจากนั้นแล้วยังมี “ฟี โน่ สเปเชียล เอดิชั่น” สวยตั้งแต่เกิด ที่มีการผลิตฟีโน่ในแบบตกแต่งพิเศษจากโรงงาน พร้อมด้วยของแถมครบชุด โดยผลิตออกมาจำนวนจำกัดเพียง 12,000 คันเท่านั้น


เพิ่มเติม http://www.mocyc.com/news/view.php?category=2&idnews=367

ข่าวที่เกี่ยวข้อง