วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

เปิดรับสมัครแล้ว Yamaha Riders’ Club Touring MotoGP 2009

สัมผัสบรรยากาศ MotoGP 2009 sepang Circuit พร้อมขับขี่ 3 ประเทศ ลุ้นเชียร์ Valentino Rossi ข้างสนามได้ ที่นี่

** สุดฮอต 1 ปี มี 1 หน ร่วมเดินทางไปกับ Yamaha Riders’ Club Touring MotoGP 2009
ขับขี่บิ๊กไบท์คู่ใจ ข้าม 3 ประเทศ ไทย – มาเลเชีย – สิงคโปร์ เป็นระยะทางกว่า 3,000 กิโลเมตร 5 คืน 6 วัน พร้อมร่วมเชียร์ชิงแชมป์โลก Valentino Rossi VS Lorenzo ลุ้นติดขอบสนาม Sepang แบบใกล้ชิด 23 – 28 ตุลาคม นี้

สัมผัสบรรยากาศ MotoGP 2009 sepang Circuit พร้อมขับขี่ 3 ประเทศ ลุ้นเชียร์ Valentino Rossi ข้างสนามได้ ที่นี่

** สุดฮอต 1 ปี มี 1 หน ร่วมเดินทางไปกับ Yamaha Riders’ Club Touring MotoGP 2009
ขับขี่บิ๊กไบท์คู่ใจ ข้าม 3 ประเทศ ไทย – มาเลเชีย – สิงคโปร์ เป็นระยะทางกว่า 3,000 กิโลเมตร 5 คืน 6 วัน พร้อมร่วมเชียร์ชิงแชมป์โลก Valentino Rossi VS Lorenzo ลุ้นติดขอบสนาม Sepang แบบใกล้ชิด 23 – 28 ตุลาคม นี้

ค่าใช้จ่าย
ผู้ใหญ่ท่านละ 24,000 บาท ( พักรวมกัน 2 ท่าน )
เด็กอายุ 3 – 12 ปีท่านละ 18,000 บาท ( พักรวมกับผู้ใหญ่ไม่เสริมเตียง )
นอนเดี่ยวจ่ายเพิ่มท่านละ 10,000 บาท

ค่าธรรมเนียมรถจักรยานยนต์
เครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 130 ซีซี คันละ 2,500 บาท
เครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 400 ซีซี คันละ 3,400 บาท
เครื่องยนต์ขนาดเกิน 400 ซีซี คันละ 4,200 บาท
ราคารวมตลอดทั้งทริป สำหรับ ผู้ขับรถจักรยานยนต์ 28,200 บาท (พักรวมกัน 2 ท่าน)
สำหรับ ผู้ซ้อนท้าย 24,000 บาท (พักรวมกัน 2 ท่าน)

ขั้นตอนการชำระเงิน
1.ชำระผ่าน ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเมืองใหม่บางพลี
ชื่อบัญชี บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด
หมายเลขบัญชี 320-3-00057-2 บัญชีกระแสรายวัน
2. แฟกซ์ใบ Pay in เข้ามาที่ เบอร์ 0-2740-0948 0-2740-0948 (คุณปู) ชำระเงินภายในวันที่ 19 ตุลาคม 2552

เอกสารที่ต้องเตรียมในการเดินทางไปประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร สำหรับผู้ขับขี่
1. หนังสือเดินทางตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ชุด มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทางคือ 23 ตุลาคม 2552) ขอPassport ตัวจริง
2. แปลใบขับขี่เป็นภาษาอังกฤษ ที่กรมขนส่ง หรือทำใบขับขี่สากล (ขอสำเนา 2 ชุด) หากไม่มีต้องไปติดต่อยื่นเรื่องขอทำใบแปลใบขับขี่จากขนส่งจังหวัดที่ท่านอยู่
3. สำเนาทะเบียนรถ หน้าแรกของเล่มทะเบียน และหน้ารายการการต่อทะเบียน ขอสำเนา 2 ชุด
4. ทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่แปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ ที่กรมขนส่ง(ขอตัวจริงที่แปลแล้ว)
5. หากรถที่ใช้ขับขี่เป็นชื่อบุคคล หรือชื่อบริษัท ต้องมีหนังสืออนุมัติจากบุคคล หรือ บริษัท นั้นๆ อนุญาตให้ใช้รถได้ โดยหากเป็นชื่อบุคคล ให้ทำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้ให้ยืม และผู้ยืมแนบมา กรณีเป็นรถชื่อบริษัทมีหนังสืออนุมัติให้ใช้รถ พร้อมด้วยเอกสารจดทะเบียนบริษัท และผู้มีอำนาจในการลงนามให้การอนุมัติเป็นคณะกรรมการของบริษัท
6. หากเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ขอให้เช็คว่า ลูกค้าถือ Passport ประเทศอะไร และถือ
วีซ่าเข้ามาเมืองไทยแบบไหน ระยะเวลาเท่าไหร่ เพราะว่าในการข้ามไปประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร บางประเทศต้องทำวีซ่า และบางประเทศไม่ต้องทำ เช่นประเทศไทยไม่ต้องทำวีซ่าเข้าประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร สำคัญมากและต้องใช้เวลาพอสมควรในการยื่นเรื่องขอวีซ่า


เอกสารที่ต้องเตรียมในการเดินทางไปประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร สำหรับผู้ไม่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์
1. หนังสือเดินทางตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ชุด มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทางคือ 23 ตุลาคม 2552) ขอPassport ตัวจริง
2. หากเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ขอให้เช็คว่า ลูกค้าถือ Passport ประเทศอะไร และถือวีซ่าเข้ามาเมืองไทย แบบไหน ระยะเวลาเท่าไหร่ เพราะว่าในการข้ามไปประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร บางประเทศต้องทำวีซ่า และบางประเทศไม่ต้องทำ เช่นประเทศไทยไม่ต้องทำวีซ่าเข้าประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร สำคัญมากและต้องใช้เวลาพอสมควรในการยื่นเรื่องขอวีซ่า

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/

สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) เปิดอบรมหลักสูตร ประจำเดือนตุลาคม

1. หลักสูตร MC License (ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์)

รุ่นที่ 20 วันศุกร์ที่ 16 วันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2552
รุ่นที่ 21 วันศุกร์ที่ 30 วันเสาร์ที่ 31 กันยายน 2552


เอกสารที่ต้องใช้
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเซนต์รับรองสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ
2. สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซนต์รับรองสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ
3. ใบรับรองแพทย์
4. รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 5 รูป
5. ค่าธรรมเนียม 200 บาท

2. หลักสูตร How to Ride (Beginner)
หลักสูตรที่จัดขึ้นเพื่อผู้ที่ต้องการหัดขับขี่รถจักรยานยนต์ครั้งแรก และยังไม่มีประสบการณ์ในการขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อน
ค่าธรรมเนียมการอบรม 200 บาท (รับจำนวนจำกัด)

สนใจสมัคร และ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า
โทรศัพท์ 02-740-8001 02-740-8001 (จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00-17. 00 น.)

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/

บัตรยามาฮ่าสมาร์ทเพิร์ส มอบส่วนลด 10% คอนเสิร์ต “นางสาว ดา เอ็นโดรฟิน ไลฟ์ อิน บางกอก”

การสำแดงสดครั้งใหม่ “นางสาว ดา เอ็นโดรฟิน ไลฟ์ อิน บางกอก” ณ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา 19.00 น. พิเศษ สำหรับสมาชิกยามาฮ่าสมาร์ทเพิร์ส เพียงแสดงบัตร หรือ แจ้งหมายเลขสมาชิก รับส่วนลด 10% ทันทีทุกที่นั่ง ตั้งแต่วันที่ 3-9 ตุลาคม 2552ตั๋วราคา1000/1500/2000/2500 จองตั๋วที่ http://www.thaiticketmajor.com/ และไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา TTM call center โทร.0 2262 3456

การกลับมาอีกครั้งของผู้หญิงร่างเล็กเสียงทรงพลัง “ดา เอ็นโดรฟิน” หลังจากหยุดพักงาน 3 เดือนเพื่อไปรักษาเส้นเสียงเมื่อกลางปี จนเป็นเหตุให้เจ้าตัวต้องร้อนรุ่ม รอลุ้นว่าเสียงจะกลับมาดีเหมือนเดิมหรือเปล่า ซึ่งช่วงเวลาที่พักฟื้น และถูกแพทย์สั่งห้ามไม่ให้ใช้เสียง ดาก็นำความกดดันทั้งหมดมาแต่งเพลงสำหรับอัลบั้มใหม่“แสนแสบ” กับคอนเซ็ปต์ “เพลงเร็วแสบซ่า เพลงช้าแสบทรวง” และได้ส่งซิงเกิลแรก “แสบ” ไปให้ได้ฟังกันแล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ล่าสุด ดากำลังจะส่งเพลง“จุดเริ่มต้นของจุดจบ”เพลงช้ำรักในแบบฉบับ “ดา เอ็นโดรฟิน” ไปให้ได้ฟังกันปลายเดือนนี้จะแสบถึงทรวง และจะซ่าได้ใจแค่ไหนติดตามอัลบั้มเต็มได้ปลายเดือนตุลาคม
แต่งานของ ดา ก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่อัลบั้มใหม่เท่านั้น เพราะหลังจากประสบความสำเร็จกับคอนเสิร์ต DA ENDORPHINE illusion Concert คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของ ดา เมื่อกลางปีที่แล้ว ที่เปิดขายบัตรเพียงวันเดียว บัตรก็หมดเกลี้ยง จนต้องเพิ่มรอบ ให้แฟนเพลงได้ไปสนุกกัน และล่าสุดก็ได้เป็นหนึ่งในแขกรับเชิญคอนเสิร์ต “แฟนซี แฟนซน” ของ “เบิร์ด – ธงไชย แมคอินไตย์” เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่ง ดา ออกมาโชว์ลีลาแดนซ์สะบัดสลับการร้อง เรียกเสียงกรี๊ด ไปทั้ง อิมแพ็ค อารีน่า ด้วยศักยภาพความแสบซ่า บวกเสียงเรียกร้องจากแฟนเพลง ทำให้เป็นที่มาของการสำแดงสดครั้งใหม่ “นางสาว ดา เอ็นโดรฟิน ไลฟ์ อิน บางกอก” เพื่อการันตีให้เห็นว่าเสียงของ ดา กลับมาดีเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้จะจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 14 และ วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 ณ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เวลา 19.00 น. สมาชิก “จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์” สามารถจองบัตรได้แล้ววันนี้ ถึง 1 ตุลาคม 2552 ทาง www.gmmlive.com สำหรับบุคคลทั่วไปสามารถจองบัตรได้ทาง ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

"เอลฟ์-โททาล"ขยายกลุ่มลูกค้า หวังโต20%เจาะวินมอเตอร์ไซค์

"สิทธิผล" เร่งเครื่องขยายตลาดน้ำมันเครื่อง "เอลฟ์" ขยายกลุ่มเป้าหมายลงล่างลุยเจาะวินมอเตอร์ไซค์ มั่นใจปีนี้โตไม่น้อยกว่า 20%

นายสุเมธ ศรีมโนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โททาล ออยล์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันเครื่องโททาลและเอลฟ์ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้บริษัทอัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง และพยายามสร้างความหลากหลายในตัวสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าจะทำให้น้ำมันเครื่อง "เอลฟ์" เป็นที่น่าสนใจของตลาด และตั้งเป้าว่าถึงสิ้นปีจะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 20%

นายพิภพ ยิ่งพัฒนา ผู้จัดการผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องเอลฟ์ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด กล่าวว่า น้ำมันเครื่องเอลฟ์นอกจากจับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม นโยบายพัฒนาธุรกิจด้านน้ำมันหล่อลื่นปีนี้บริษัทจะขยายสินค้าให้ครบวงจรมากที่สุด ทั้งระบบการขับเคลื่อนยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันหล่อลื่นทั้งหมด และขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่วินมอเตอร์ไซค์

โดยสิทธิผลและฝ่ายการตลาดของโททาล ออยล์จะทำงานร่วมกัน มีการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการขายและประชา สัมพันธ์สินค้า โดยปัจจุบันจัดทำแคมเปญ ส่งเสริมการขายร่วมกัน

"เราทำงานควบคู่ไปกับอัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผ่านรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การชมภาพยนตร์ ชมคอนเสิร์ต การจัดสัมมนาช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ในจังหวัดต่างๆ"

ส่วนของเครือข่ายและช่องทางการจำหน่ายของบริษัทนั้น นอกจากเครือข่ายที่มีความแข็งแกร่งในปัจจุบัน บริษัทยังได้เพิ่มช่องทางขายผ่านหน่วยเสริมพิเศษ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่างผ่านบริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสิทธิผลที่เจาะกลุ่มขายตรงเข้าร้านย่อยและเครือข่ายวินมอเตอร์ไซค์ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล นับว่าเป็นจุดเด่นที่แตกต่างสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าค่อนข้างมาก
ตลาดน้ำมันเครื่องโดยรวมในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 500 ล้านลิตร มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นจักรยานยนต์ 80 ล้านลิตร และรถยนต์ 260 ล้านลิตร ที่เหลือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและเรือ โดยโททาลมีส่วนแบ่งการตลาดน้อยกว่า 5% ในปัจจุบัน

“สกู๊ปปี้ ไอ” สุดฮอตฮิต จุดกระแสฟีเว่อร์ ! ภาคเหนือฮือฮาแห่จองรถถล่มทลาย

ภาคเหนือฮือฮาแห่จอง “สกู๊ปปี้ ไอ” ล้นหลาม จุดกระแส “ฟีเว่อร์” ติด แค่วันแรกที่เปิดตัวขายอย่างเป็นทางการทำเอาดีลเลอร์รายใหญ่ที่เชียงใหม่แห่งเดียวหัวปั่น ยอดล้นทะลักกว่า 1,000 คัน และร่วมกันขานรับยกย่องให้รถที่ทรงคุณค่าแห่งการรอคอย ด้านฮอนด้าคาดไม่ถึง “สกู๊ปปี้ ไอ” ร้อน แรงเกินคาดหมาย ประกาศให้ความมั่นใจแก่แฟนพันธุ์แท้และผู้สนใจทั่วไป ส่งมอบรถให้ทันทุกความต้องการ พร้อมปรับแผนกระบวนการผลิตรถ เพื่อตอบสนองกระแสฟีเว่อร์ที่จะลุกลามมาจากทุกสารทิศ


หลังจากบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ส่งรถจักรยายนต์สุดยอดคลาสสิครุ่น “สกู๊ปปี้ ไอ” (Scoopy i) เปิดตัวแนะนำเมื่อกลางเดือนกันยายนและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ควบคู่กับการจัดกิจกรรมแนะนำ “สกู๊ปปี้ ไอ” ในงาน Honda Fun United Festival มหกรรมดนตรีครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ ในรูปแบบฟรีคอนเสิร์ต Featuring เพลงชนเพลงจากศิลปินต่างแนวสุดดังมากมาย อาทิ โมเดิร์นด๊อก, กรู๊ฟไรเดอร์, ทีโบน, บิ๊กแอส, สครับ ฯลฯ จัดต่อเนื่องกัน 3 จังหวัด คือ โบนันซ่า เขาใหญ่ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา จนสร้างปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีผู้เข้างานมากกว่า 50,000 คน ล่าสุดได้มาจัดกิจกรรมดังกล่าว ณ สวนราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ นับเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ฮอนด้ายังคงตอกย้ำความยิ่งใหญ่เมื่อมีผู้สนใจเข้าร่วมมงานอย่างล้นหลามไม่ แพ้ครั้งที่ผ่านมา และที่สำคัญส่งผลให้เกิดกระแสการตอบรับอย่างสูงสุดจนกลายเป็น “สกู๊ปปี้ ไอ ฟีเว่อร์” ไปทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ และทางภาคเหนือ

นายภาณุพงศ์ ศักดาทร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิยมพานิช จำกัด จ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงกระแสความนิยมอย่างล้นหลามที่ผู้บริโภคมีต่อรถจักรยานยนต์ “สกู๊ปปี้ ไอ” ว่า ถือเป็นรถแห่งการรอคอยของแฟนคลับ รวมถึงกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วไป เพราะเพียงแค่เปิดตัววันเดียวก็ได้รับความสนใจมากมายเป็นประวัติการณ์

“ได้รับการเรียกร้องจากผู้บริโภคว่า ทำไมนำ “สกู๊ปปี้ ไอ” มาขายช้าจัง ทั้งๆ รถรุ่นนี้มีมานานกว่า 10 ปีแล้ว เป็นรถที่มีตำนานมาอย่างยาวนาน และมีลูกค้าหลายคนที่ใช้ยีห้ออื่นอยู่แล้ว บ่นให้ฟังว่า เครื่องยนต์แบบคาบูเรเตอร์กินน้ำมันมากไม่ประหยัด และเปลี่ยนใจมาจอง “สกู๊ปปี้ ไอ” ทันที ตอนนี้กระแสตอบรับ “สกู๊ปปี้ ไอ” มีอย่างล้นหลาม ทำให้จำนวนรถที่บริษัทมีอยูไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะแค่วันแรกที่เปิดขาย โชว์รูมสาขาต่างๆ ของบริษัทมียอดจองรวมกันกว่า 500 คัน และยังไม่นับโชวรูมนอกตัวเมืองเชียงใหม่ ยิ่งช่วงนี้สปอร์ตโฆษณาของรถออกอากาศ และมีการประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ ส่งผลให้ลูกค้าตื่นตัวและสนใจมากยิ่งขึ้นจากการประเมินสถานการณ์ตลาดที่มี ความนิยมต่อ “สกู๊ปปี้ ไอ” คาดว่า จะทำให้บริษัทมียอดขายรวมในปีนี้เพิ่มขึ้น 25-30% แน่นอน”

ขณะที่ นายสลิล ลิ้มเล็งเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหพานิช เชียงใหม่ จำกัด กล่าวเปิดเผยว่า “สกู๊ปปี้ ไอ” ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างเหนือความคาดหมาย เพียงแค่วันแรกที่เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มียอดสั่งจองรถจากโชว์รูม และสาขาในเครือไม่นอยกว่า 500 คันเลยทีเดียว

“เป็นรถเซกเมนต์ใหม่ของฮอนด้า และเป็นรถที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเครื่องยนต์ใหม่ระบบหัวฉีด PGM-FI ถือเป็นจุดเด่นของรถ รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัยเหนือคู่แข่งในทุกมุมมอง และกระแสของเครื่องยนต์แบบระบบหัวฉีด ที่ให้ความประหยัดน้ำมันสูงสุด 49 กิโลเมตรต่อลิตร ตรงใจผู้บริโภคมาก จากที่สังเกตการณ์ทิศทางางการตลาด “สกู๊ปปี้ ไอ” ได้สร้างความฮือฮาที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างมาก เป็นรถที่ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง สมกับเป็นรถที่ทุกคนรอคอยมานาน ผมมีความมั่นใจว่า จากกระแสความนิยมสูงสุดครั้งนี้ จะทำให้ไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 สหพานิช เชียงใหม่ของเรา มีปริมาณการจำหน่ายรถเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 25-30% จนเริ่มกังวลใจว่า จะส่งมอบรถให้ลูกค้าไม่ทัน”

ด้าน นายเจริญ ปัญญาอธิสิน ผู้จัดการฝ่ายขายเครือข่ายภาคเหนือ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงภาพรวมทาง การตลาดของรถจักรยานยนต์ในภาคเหนือว่า จากที่มีโอกาสได้พบปะและร่วมดำเนินกิจกรรมกับร้านค้าผู้จำหน่ายและศูนย์ บริการฮอนด้าหลายแห่งว่า ทั้งดีลเลอร์และผู้บริโภคในทุกพื้นที่ของภาคเหนือให้การตอบรับ “สกู๊ปปี้ ไอ” อย่างมาก มายเป็นในทิศทางเดียวกัน โดยต่างมั่นใจว่า สามารถเพิ่มยอดขายให้ได้ในปริมาณสูง โดยทางฮอนด้าพยายามปรับเร่งกำลังผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ลูกค้าผิดหวัง หลังจากรอคอยรถรุ่นนี้มานาน และเริ่มเห็นสัญญาณว่า ยอดการจำหน่ายรจักรยานยนต์ฮอนด้าจะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่งผลปริมาณการจำหน่ายโดยรวมทางภาคเหนือสูงขึ้นอย่างแน่นอน” นายเจริญ กล่าว

นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวเปิดเผยถึงความนิยมสงสุดของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า “สกู๊ปปี้ ไอ” มากเป็นประวัติการณ์ จนก่อให้เกิดกระแส “ฟีเว่อร์” ในครั้งนี้ว่า เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ฮอนด้าได้จัดกิจกรรมส่งมอบความมันส์ และความสนุกครั้งใหม่ผ่านรถจักรยานยนต์ “สกู๊ปปี้ ไอ” ในกิจกรรม Honda Fun United Festival ที่จัดต่อเนื่อง 3 จังหวัด เพื่อแนะนำรถรุ่นดังกล่าวและรถจักรยายนต์ระดับเวิลด์คลาส “Honda PCX” ที่จะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้ และส่งออกจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

“เชียงใหม่เพียงจังหวัดเดียว ที่ได้รับการตรวจสอบยอดสั่งจองรถจากดีลเลอร์ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่รวมกันมีมากกว่า 1,000 คันภายในวันเดียว และยังไม่นับผู้แทนจำหน่ายอีกเกือบ 900 แห่ง ทั่วประเทศไทย ที่มียอดการส่งจองรถไม่น้อยกว่าเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ทั้งดีลเลอร์และผู้บริโภคอาจกังวลใจเกี่ยวกับการส่งมอบรถ เกรงว่าฮอนด้าจะผลิตและส่งมอบรถให้ไม่ทันนั้น เนื่องจากมีปริมาณการจองรถเข้ามามาก ตรงนี้ขอให้สบายใจได้ เนื่อง จากทางฮอนด้าได้ปรับแผนกำลังการผลิตใหม่ แต่ยังคงมาตรฐานการผลิตและประกอบรถแบบส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อจะได้ส่งมอบรถให้ลูกค้าได้กำหนดที่นัดหมาย”

พร้อมกันนี้นายธีระพัฒน์ กล่าวในท้ายสุดว่า Honda Fun United Festival ครั้ง ต่อไป จะเดินทางไปส่งมอบความมันส์ ความสนุกและความสุข แก่พี่น้องทางภาคใต้ โดยจะสร้างประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ส่งท้ายกิจกรรม ณ หาดนพรัตน์ธารา จ.กระบี่ วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคมนี้ และจะเป็นอีกครั้งที่ “สกู๊ปปี้ ไอ ฟีเว่อร์” จะมาสร้างสีสันให้ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นอย่างแน่นอน

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

Kawasaki Riding Course 4 ตุลาคมนี้

เชิญลูกค้า Kawasaki ที่สนใจเข้าร่วมเสริมทักษะการขับขี่เพิ่มเติมกับกิจกรรม Riding Course ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมนี้..

โปรแกรม : Riding Course
วันจัดกิจกรรม : วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552
สถานที่ : คาวาซากิ พระราม 9
จำนวน : 25 คน
ค่าสมัคร : ฟรี


งื่อนไขสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม :
1.อายุ 15 ปี ขึ้นไป
2.มีเครื่องแต่งกายรัดกุม & อุปกรณ์ความปลอดภัย
- ชุดแข่งขันสำหรับการแข่งขัน (ถ้ามี)
- แจ๊คเก็ต / เสื้อแขนยาว
- กางเกงขายาว ( ยีนส์หรือเนื้อวัสดุอื่นที่มีความหนา )
- รองเท้าบู๊ท หรือรองเท้าหุ้มส้น
- ถุงมือ
- หมวกกันน็อค
- สนับเข่า
- สนับศอก

หมายเหตุ : ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น เพื่อความปลอดภัย


กำหนดการ :
ช่วงเวลา กำหนดการ (Intermediate)
08.30 - 09.00 ลงทะเบียน
09.00 - 09.30 ภาคทฤษฎี
- ท่าทางการขับขี่ ( การใช้ ข้อมือ , ข้อเท้า , เอว , ไหล่ , คอ )
- การเบรค
- การเข้าโค้ง
09.30 – 10.00 ภาคปฏิบัติ
- Warm Up
- ท่านั่ง
- การลดความเร็ว
- การเข้าโค้ง
10.00 - 10.10 พัก
10.10 - 12.00 ภาคปฏิบัติ ( ต่อ )
12.00 - 13.00 รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 - 16.00 ภาคปฏิบัติ ( ต่อ )

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : แผนกการตลาด เบอร์โทร 0-2247-7935-38

เพิ่มเติม http://www.kawasakiksr.com/

เท่ติดเทรนด์ กับอุปกรณ์ตกแต่ง จากยามาฮ่า กว่า 600 รายการ

BIG SALE

เท่ ติด เทรนด์ กับอุปกรณ์ตกแต่ง จาก Yamaha กว่า 600 รายการ

ลด 50 - 70 % วันนี้ - 15 ต.ค. 2552 เท่านั้น

แทนคำขอบคุณสำหรับลูกค้า

Yamaha จัดแคมเปญ Big Surprise โปรโมชั่นใหญ่แห่งปี

ให้คุณ เท่ ได้ ในสไตล์ที่แตกต่าง กับอุปกรณ์ตกแต่ง จากยามาฮ่า

ทั้งรถจักรยานยนต์รุ่นเกียร์ออโตเมติก อย่าง FINO, MIO, NOUVO ELEGANCE ฯลฯ

และรถจักรยานยนต์รุ่นเกียร์ธรรมดา อย่าง SPARK 135, X-1R, SPARK RX ฯลฯ ด่วน! สินค้ามีจำนวนจำกัด

เท่ กับสินค้าที่เข้าร่วมรายการได้แล้ววันนี้ ที่ยามาฮ่าสแควร์ และผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ

เพิ่มเติม www.yamaha-motor.co.th

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

ศก.ส่งสัญญาณฟื้นตัว ตลาดแมงกาไซค์ยิ้มรับ

ตลาดรวมรถจักรยานยนต์เริ่มฟื้นตัวจากปัจจัยเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น เอ.พี.ฮอนด้าปรับเป้าตลาดรวมปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.47 ล้านคัน พร้อมเปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์ใหม่ 49 กม./ลิตร กระทุ้งยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายถึงสิ้นปีนี้

นายเซนจิโร่ ชากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่าจากปัจจัยบวกตางๆ ทีส่งสัญญาณให้สภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในครึ่งปีหลังกลับมาเริ่มสดใสและค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งบริษัทได้มีการปรับการคาดการณ์ตลาดรวมรถจ้กรยานยนต์ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,470,000 คัน จากเดิมเมื่อต้นปีที่ได้คาดการณ์ 1,350,00 คัน ขณะที่ปัจจัยสำคัญส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ดีขึ้นจะมาจากการที่บริษัทผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศได้ผลักดันกลยุทธ์การตลาด สร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ออกมาโดยตลอด เช่น เมื่อครั้งการประกาศเปลี่ยนยุคแห่งการขับขี่การสู่ยุคหัวฉีดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อีกทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถจักรยานยนต์เริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง

"หลังจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสหรัฐเข้าสู่วิกฤตการณ์ในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว อุตสาหกรรมทุกประเภทต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน รวมไปถึงตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยก็ได้รับผลกระทบด้วย โดยได้รับผลกระทบหนักในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2551 ขณะนั้น ตลาดรวมมียอดขายหดตัวถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่ผ่านมา"

อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ที่เคยเป็นมาในอดีต อาจะไม่เป็นอย่างที่เคย เนื่อจากความต้องการของลูกค้าที่จะซื้อรถจักรยานยนต์อาจมีความเปลี่ยนแปลงไปแต่บริษัทยังเล็งเห็นถึงบทบาทของรถจักรยานยนต์ที่มีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในการใช้รถ

ขณะเดียวกันบริษัทได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ เอ.ที."ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" เสริมความต้องการตลาดในทุกๆ เซ็กเมนต์ ที่โรงงานไทยฮอนด้าเป็นผู้ผลิตรุ่นนี้ และนอกจากจะจำหน่ายในประเทศไทยแล้วยังทำการผลิตและส่งออก ไม่เพียงเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น รวมไปถึงประเทศญึ่ปุ่น ยุโรป สหรัฐ และออสเตรเลียอีกด้วย

สำหรับเครื่องยนต์ของรถจักรยานยนต์สกู๊ปปี้ ไอ ยังคงใช้เทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ขนาด 110 ซีซี 4 จังหวะ มีอัตราการบริโภคน้ำมันประหยัดมากถึง 49 กิโลเมิตร/ลิตร ค่าไอเสียผ่านมาตรฐานระดับ 6 สามารถใช้น้ำมัน E20 ได้พร้อมรับประกันคุณภาพหัวฉีดนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาดรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ เอ.ที.ในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีอัตราส่วนแบ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ถึง 50% เหตุเพราะรสนิยมของผู้บริโภคมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น หัวใจสำคัญของผู้บริโภคที่เลือกใช้ คือ ง่าย สะดวกและสบาย"

ส่วนราคาจำหน่ายรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ ออนด้า สกู๊ปปี้ ไอ เคาะราคาจำหน่ายที่ 44,300 บาท ตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายที่ 150,000 คัน/ปี พร้อมแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ดังกล่าว 10,000 คันแรก รับชุดของขวัญ Scoopy I Collection แจ๊คเกตและหมวกกันน๊อคสีเดียวกับตัวรถ ตั้งแต่วันนี้ - 15 ตุลาคม 2552

"การเปิดตัวรถดังกล่าวบริษัทมั่นใจได้ว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นให้ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของบริษัทกลับมาได้อีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยยอดจำหน่ายของบริษัทถึงสิ้นปีนี้คาดการณ์ว่าจะมียอดจำหน่ายกว่า 1 ล้านคัน พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนการที่จะเปิดตัวอีก 1 รุ่น คือ รถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์ฮอนด้า PCX ในช่วงปลายปีนี้ เป็นการสอดรับกระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง"

ที่มา หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ

ฮาเลย์-เดวิดสัน รุ่น สปอร์ตเตอร์ เอ็กซ์แอล 883เอ็น ไอรอน 883 ปี 2010

ฮาเลย์-เดวิดสัน รุ่น สปอร์ตเตอร์ เอ็กซ์แอล 883เอ็น ไอรอน 883 ปี 2010 คันแรกและคันเดียวในประเทศไทยที่สั่งบินตรงจากประเทศอเมริกามาอวดโฉมภายในงาน Siam International Bike Week 2009 งานเทศกาลรถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน ครั้งแรกในประเทศไทย และครั้งยิ่งใหญ่ระดับสากล ที่จะจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2552 ณ สยามสแควร์

ฮาเลย์-เดวิดสัน รุ่น สปอร์ตเตอร์ เอ็กซ์แอล 883เอ็น ไอรอน 883 ปี 2010 โดดเด่นด้วยดีไซน์ ทันสมัยโทนสีดำสนิทตัดกับสีเงินส่องประกายความสวยงามแต่เคร่งขรึมดูคลาสสิคตามสไตล์โอลด์สกูล (Old-School) เครื่องยนต์ Air-Cooled, Evolution 883 ซีซี และระบบการจ่ายน้ำมันแม่นยำ Electronic Sequential Port Fuel Injection (ESPFI) พร้อมด้วยเกียร์ 5 สปีด ขุมพลังความแรงเร็วได้อย่างใจ

ลุ้นเป็นเจ้าของ ฮาเลย์-เดวิดสัน รุ่น สปอร์ตเตอร์ เอ็กซ์แอล 883เอ็น ไอรอน 883 ปี 2010 ในราคา 700,000 บาทได้ง่าย ๆ เพียงซื้อบัตรราคา 883 บาท ที่เว็บไซต์ www.siaminternationalbikeweek.com ได้แล้ววันนี้ แล้วมาลุ้นว่าใครจะเป็นผู้โชคดีที่ได้ขี่รถฮาเลย์-เดวิดสัน รุ่นปี 2010 หนึ่งเดียวในประเทศไทยนี้ ออกจากงาน Siam International Bike Week ไป!! รีบหน่อย! บัตรมีแค่เพียง 5 พันใบเท่านั้น!!

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

ศึกแมงกะไซค์ไฟกลมย้อนยุคระอุ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ มาแว้วว...


ค่ายเค.พี.ฮอนด้า เข็นแมกะไซค์ตากลมย้อนยุค ออกมาลุย “ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ” ยั่วน้ำลายขาซิ่งกัน ชูจุดเด่นเป็นออริจินัล ไฟกลมจากญี่ปุ่น ...

หลังจากปล่อยให้ยามาฮ่า ฟีโน่ สร้างกระแสรถจักรยานยนต์ออโตสไตล์รีโทรย้อนยุค จนดังกระหึ่ม

แล้วในที่สุด ค่าย เอ.พี.ฮอนด้า บิ๊กบึ้มแห่งยุทธจักรแมงกะไซค์บ้านเรา ก็ได้ฤกษ์ เข็นแมงกะไซค์ออโต้ไฟตากลมสไตล์ย้อนยุคออกมาลุยชน

นั่นคือ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ (Honda Scoopy i)



ชูจุดเด่นที่ความเป็นออริจินัลของแมงกะไซค์สไตล์สกูตเตอร์ไฟกลมของแท้จากญี่ปุ่น

เพราะได้พัฒนาและถอดแบบดีไซน์ กลมๆ สนุกๆ ของ เอ.ที. คันจิ๋วสุดฮิตตั้งแต่ปี 1992 จากฮอนด้าประเทศญี่ปุ่น

รูปโฉมถูกรังสรรค์ให้มีกลิ่น อายความสนุกสุดมันของสิงห์นักบิดขาโจ๋ แต่ยังคงแฝงความทันสมัยอยู่เต็มเปี่ยม

เตะตา ตั้งแต่ไฟหน้าชุดใหญ่ "บิ๊กอาย" ดีไซน์แบบสองโคมที่บิวท์อินกับบอดี้รถอย่างลงตัว โดยมี "มินิอาย" ไฟหรี่ดวงเล็กแบบโปรเจ็กเตอร์ กรอบเฟรมบังลมหรู

เรียกเสียงกรี๊ด ด้วยกระจกข้างสไตล์ Chic สีรับกับตัวรถหรือจะถอดเปลี่ยนสีก็ได้ ไฟเลี้ยวแบบแยกส่วนสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ไฟท้ายขนาดใหญ่ บิวท์อินกับตัวรถเช่นกัน เรือนไมล์มิเตอร์คู่สุดแนว

เบาะนั่งถูก ดีไซน์ในสไตล์คอมฟอร์ท ซีท พร้อมกล่องเก็บของอเนกประสงค์ใต้เบาะนั่ง พร้อมฝาปิดเพิ่มความมั่นใจ และเอาใจคนชอบเก็บของจุกจิกกับ Front Inner Box ที่เก็บของด้านหน้า

เครื่องยนต์ขนาด 110 ซีซี 4 จังหวะ ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด PGM-FI ควบคุมการทำงานโดยคอมพิวเตอร์ ECU ให้ทั้งสมรรถนะ บิดแรง ไอเสียสะอาด และประหยัดน้ำมันถึง 49 กม./ลิตร

โดย เอ.พี.ฮอนด้ายังรับประกัน คุณภาพอุปกรณ์ระบบหัวฉีด PGM-FI นานถึง 5 ปี หรือที่ 50,000 กม.

เพื่อให้โดนใจขาโจ๋ได้ ทุกแนว ยังได้รังสรรค์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ออกมา 3 สไตล์ในลายกราฟฟิกแสบสันถึง 7 แบบโดนใจ ได้แก่

สกู๊ป ปี้ ไอ ฟัน (Scoopy i Fun) ซีรีส์ สนุก...ลุคสปอร์ต ด้วยคู่สีเข้มตัดซ่า พร้อมกราฟฟิกแบบรถแข่ง เบาะทูโทนโฉมแข่ง ไฟหรี่สีฟ้า Blue Beam คาลิเปอร์ สีแดง ชุดก้านไฟเลี้ยวสีดำ ฝาครอบสายพานสีดำ และที่วางเท้าสีดำ,

สกู๊ป ปี้ ไอ คิวท์ (Cute) ซีรีส์น่ารัก...แสบซน โดยใช้สีขาวจับคู่กับสีสันสดใสประกายมุก แถมแต่งกราฟฟิกดีไซน์ ไอวี่ร็อคโคโค่ให้ดูหรูอ่อนหวานสไตล์เจ้าหญิงสุดซ่าแต่น่ารัก มาพร้อมไฟหรี่สีฟ้า Blue Beam คาลิเปอร์สีทอง ฝาครอบสายพานสีทอง และที่วางเท้าสีน้ำตาล

และ สกู๊ปปี้ ไอ เพรสทีจ (Prestige) ซีรีส์เท่...มีระดับ ดูเก๋าสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก พร้อมเติมสีทองดูหรูรอบคัน และไฟหรี่มินิอายสีขาว "Crystal Beam" คาลิเปอร์สีทอง ฝาครอบสายพานสีทอง และที่วางเท้าสีน้ำตาล

ทั้ง 3 รุ่น พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่ 25 ก.ย.นี้

สนนราคาอยู่ที่ 44,300 บาท

งานนี้ตั้งใจบี้ฟีโน่ให้น็อกสลบเหมือด!!!

เพิ่มเติม หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

ไบค์วีค"09พร้อมรบ ระดมฮาร์เลย์พันคัน ปิด"สยามฯ"จัดงาน

นายชัยภัฎ จันทร์วิไล ประธานคณะบุคคล บี.บี.ดับบลิว กรุ๊ป ผู้จัดงานสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล ไบค์ วีค 2009 เปิดเผยว่า งานจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2552 บริเวณสยามสแควร์ วัตถุประสงค์ก็เพื่อรวบรวมนักขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์-เดวิดสันกว่า 3 พันคันจากชาติต่างๆ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวรวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ดีขึ้น และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกรุงเทพฯ

นายชัยภัฎกล่าวว่า ในงานนี้จะมีการจัดเทิดพระเกียรติองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยขบวน มอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์-เดวิดสันของนักขับขี่ชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวน 250 คัน เป็นสีธงชาติไทย เรียกว่านิทรรศการรถ "อัศวิน" เพื่อแสดงประวัติรถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์-เดวิดสันที่เคยเป็นรถนำขบวนเสด็จ

นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก เช่น งาน HD. Legend V.I.P. Dinner โดยจัดขบวนแห่รถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน รุ่นคลาสสิก ที่มีอายุกว่า 50 ปีมาแสดงถึงศักยภาพของรถที่มีโครงสร้างสวยงามมีเสน่ห์ไม่เสื่อมไปตามกาลเวลา อีกทั้งยังแข็งแรงคงทนและทรงพลัง การจัดกิจกรรม Hall of Fame ประกาศรายชื่อผู้มีชื่อเสียงและมีเกียรติในสังคม

"ฮาร์เลย์-เดวิดสันเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมายาวนาน ในแง่ความสง่างาม ความคลาสสิกเสียงดังกระหึ่มน่ายำเกรง มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจึงทำให้เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก เคยเป็นรถมอเตอร์ไซค์นำขบวนเสด็จในหลวง ส่งผลให้ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์-เดวิดสันกว่า 10,000 คัน"

นายชัยภัฎกล่าวเพิ่มเติมว่า งานสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล ไบค์ วีค 2009 ขึ้นโดยมุ่งหวังให้เป็นงานเทศกาลรถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์-เดวิดสันครั้งยิ่งใหญ่ระดับสากลและจัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมประกวดแข่งขัน เพื่อสร้างสีสัน ความสนุกสนานภายในงาน เช่น ประกวด Miss Siam International Bike Week 2009 คือการประกวดหาสาวสวย มั่นใจ ดูดีมีเสน่ห์ อายุระหว่าง 19-29 ปี ชิงรางวัลเงินสด 1 แสนบาท และของรางวัล การประกวด Mr.Young at Heart การประกวดหาหนุ่มใหญ่ไฟแรง แก่แต่เก๋า ผู้มีใจรักมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์-เดวิดสัน การประกวดรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ในรุ่นต่างๆ เช่น Best of Classic Bike, Best of Custom Bike และ Best of Stock Bike Dress การประกวด Best of Character เนื่องจากเสียงท่อไอเสียเป็นเสียงกระหึ่ม น่าเกรงขาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ดังนั้นทางคณะทำงาน B.B.W. Group จึงจัด การประกวดเสียงท่อไอเสียเพื่อแสดงถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ที่ทรงพลัง แข็งแรง คงทนไม่เสื่อมคลาย

ส่วนกิจกรรมบันเทิงต่างๆ Big Surprise สำหรับผู้เข้าชมงาน และเข้าร่วมงาน ร่วมลุ้น ! รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่น Sportster ปี 2010 คันแรก และคันเดียวของประเทศไทย ที่บินลัดฟ้ามาให้ผู้โชคดีจากการจับรางวัลได้เป็นเจ้าของเพียงคนเดียวในประเทศไทย การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ ทุกสไตล์เพลง ฟังกันได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งสไตล์พ็อป ร็อก และอื่นๆ อีกมากมาย เกมสนุกสนานต่างๆ สำหรับสิงห์นักขับโดยเฉพาะ

เพิ่มเติม หนังสือพิมพ์ประชาชาติ

มอ"ไซค์อินเดียจีบซัพพลายเออร์ไทย หวังยกระดับ"รอยัลเอ็นฟิลด์"เดินเครื่องลุยตลาดโลก

นายเวงกี้ แพดมานาบัน ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทรอยัล เอ็นฟิลด์ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบบคลาสสิกจากประเทศอินเดียกล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจาหาซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย เพื่อจัดหาและผลิตชิ้นส่วนกว่า 160 รายการป้อนให้กับบริษัทเพื่อผลิตรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ "รอยัล เอ็นฟิลด์" ณ เมืองเชนไน ประเทศอินเดีย

สำหรับการเข้ามาหาซัพพลายเออร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชาวไทยครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการชาวไทยที่ขึ้นชื่อ และ ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำของโลกหลายรายประกอบกับภาษีส่งออกชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์จากไทยไปอินเดียไม่สูงมากนัก รวมถึงระยะเวลาการขนส่งจากไทยไปยังโรงงานที่อินเดีย เมื่อเทียบกับการขนส่งภายในอินเดียนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

บริษัทหวังว่าการเข้ามาหาซัพพลายเออร์ชาวไทยจะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาคุณภาพของสินค้า และช่วยเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปในตลาดหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรหรือเยอรมนีได้ โดยปัจจุบันบริษัทมีการส่งออกปีละ 2,000 คัน คิดเป็นแค่ 4% ของยอดการผลิตเท่านั้น

ส่วนการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนั้นอยู่ระหว่างการเจรจาหาดิสทริบิวเตอร์ที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย แต่ยังติดที่ภาษีนำเข้าสำหรับรถจักรยานยนต์ ซีบียูในประเทศไทยยังสูงอยู่ ทำให้โอกาส ที่จะเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังเป็นไปได้ยากขึ้น

ปัจจุบันรอยัล เอ็นฟิลด์มีกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์ปีละ 60,000 คัน โดยมีการผลิตจริงที่ 50,000 คันในปีนี้ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดผลิตให้ถึง 100,000 คันในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมวางแผนผลักดันตลาดส่งออกเพิ่มเป็น 10% ของกำลังการผลิต โดยรถจักรยานยนต์ของบริษัทมีราคาจำหน่ายที่ 85,000-204,000 บาท และบริษัทมียอดการสั่งซื้อชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ปีละประมาณ 1,700 ล้านบาท

เพิ่มเติม หนังสือพิมพ์ประชาชาติ

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

มอไซค์เลือดผสมจีน-ญี่ปุ่นบุกตลาดSMEs ผนึก "แม็คโคร" ลุยตลาดนัดโชห่วย

จยย.จีนเทคโนโลยีญี่ปุ่น"สตาเลี่ยน" บุกตลาด SMEs ผนึก "แม็คโคร"ลุยตลาดนัดโชห่วย ส่ง"มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง" ช่วยคนตกงาน ชูจุดขาย "รถทำมาหากิน ใช้แล้วรวย สวยถูกใจ " มั่นใจกวาดยอดขายในงานมากกว่า 300 คัน

นายเกรียงไกร ลาภจตุรพิธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี-ไบค์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ "สตาเลี่ยน" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนกลุ่มเอสเอ็มอี หรือกลุ่มคนว่างงานให้สามารถประกอบธุรกิจด้วยเงินลงทุนไม่เยอะ บริษัทได้แนะนำรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง Buddy SMEs ในราคาเริ่มต้นที่ 38,500 บาท ไปจนถึง 45,000 บาท ลูกค้าที่ซื้อสามารถนำไปใช้ทำมาหากินได้เลย อาทิ รถผลไม้ รถขายกาแฟ รถขายน้ำผลไม้ปั่น รถขายสแน็ก รถขายหนังสือพิมพ์ ซูเปอร์มาร์เก็ตแบบเคลื่อนที่ หรือจะสั่งออกแบบตามที่ต้องการ โดยบริษัทการันตี 3 ปี 300,000 ก.ม.

จุดเด่นของ Buddy SMEs คือปลอดภัย จดทะเบียนได้ตาม กม. แยกตัวรถออกจากพ่วงข้าง เพียงแต่ปลดล็อกนอต 3 ตัว ตัวรถมีสตาร์ตมือ ดิสก์เบรก และมีตัวบาลานซ์เครื่องยนต์ พ่วงข้างติดล้อแม็กเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พ่วงข้างมีไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ปลอดภัยทั้งกลางวันกลางคืน ระบบกันสะเทือนมีให้เลือกทั้งแบบแหนบและโช้กอัพ ที่สำคัญ ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานไอเอสโอ 9001

นายเกรียงไกรกล่าวว่า ในวันที่ 11-13 กันยายนนี้ บริษัทได้เข้าร่วมงานตลาดนัดโชห่วยที่อิมแพ็ค เมืองธานี ซึ่งมีสินค้าทุกประเภทไปจำหน่าย และยังมีสินเชื่อของทั้งภาครัฐและเอกชนไปให้บริการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าไม่น้อย โดยคาดว่าภายในงานนี้จะสามารถจำหน่ายได้ไม่น้อยกว่า 300 คัน "เรายังได้ร่วมกับแม็คโคร ซึ่งถือเป็นมิตรแท้ของโชห่วย จัดโครงการสร้างอาชีพเสริมรายได้ ให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าที่แม็คโครจำหน่ายและตกแต่งบนมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างสตาเลี่ยน เพื่อใช้เป็นรถทำมาหากิน ซึ่งใช้แล้วรวย สวยถูกใจ"



กรรมการผู้จัดการพี-ไบค์กล่าวอีกว่า มอเตอร์ไซค์สตาเลี่ยนเกิดจากความร่วมมือของยักษ์ใหญ่เจิ๋งเช่อ Jianshe จากจีนร่วมมือกับทางยามาฮ่าประเทศญี่ปุ่นผลิตมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ออกมา มีให้เลือก 2 รุ่น คือ 105 และ 125 ซีซี เดิมกลุ่มบริษัท สวีเดนมอเตอร์ หรือ SMC ได้สิทธิ์จำหน่าย บริษัทเพิ่งรับช่วงต่อและตั้งบริษัทใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ประกอบที่โรงงานมิลเลนเนียมของไทเกอร์ที่สมุทรปราการ ใช้เงินลงทุนไปแล้วมากกว่า 30 ล้านบาท

สำหรับมอเตอร์ไซค์ "สตาเลี่ยน" เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ต้นปี ถึงตอนนี้มียอดขายเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากมีน้องอร อุดมพร พลศักดิ์ ฮีโร่ยกน้ำหนัก เป็นพรีเซ็นเตอร์ ผ่านการทดสอบและการันตีจากผู้เชี่ยวชาญจากนิตยสารจักรยานยนต์จำนวนมาก ตัวเครื่องยนต์ได้เทคโลยีจากยามาฮ่าญี่ปุ่น ทำให้มีประสิทธิภาพการใช้งานสูง ผ่านการพิสูจน์ความประหยัด โดยวิ่งทดสอบด้วยความเร็วไม่เกิน 60 ก.ม.ต่อ ช.ม.จากสนามบินสุวรรณภูมิไปสิ้นสุดที่ด่านปอยเปต อรัญประเทศ จิบน้ำมันนิดหน่อย เซฟได้ถึง 82 ก.ม./ลิตร

"เราตั้งเป้ากับสตาเลี่ยนไว้ไม่มาก เพียงแค่ 2,000 คัน เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ดีมากนัก แต่ด้วยความหลากหลาย โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง น่าจะทำให้ตัวเลขปีนี้พุ่งขึ้นถึง 2,000 คัน และทะลุหมื่นคันได้ภายใน 2 ปี"

ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย นอกจากการขายผ่านดีลเลอร์ทั่วไป ซึ่งตอนนี้มีมากกว่า 10 ราย ยังมีวางจำหน่ายที่บิ๊กซีมากกว่า 20 สาขา และตอนนี้ได้เพิ่มแม็คโครอีก 3 จุด ลาดพร้าว บางบอน และที่จังหวัดชุมพร นอกจากนี้ยังมีแผนจะบุกตลาดฟลีต ขายผ่าน ธกส.และหน่วยงานราชการอื่นๆ ทั่วไป

เพิ่มเติม http://www.langrod.com/

พระเอกขี่มอเตอร์ไซค์ มีใครกันบ้าง

ใครที่อยากเห็นพระเอกขี่ม้าขาวคงต้องรอกันต่อไป เพราะวันนี้เรายังไม่มีมาฝาก แต่หากอยากเห็นพระเอกขี่มอเตอร์ไซค์ เรามีภาพมาให้ชมกันแล้ว เป็นภาพจากนิตยสารฮัลโหล ซึ่งสาวๆ ที่ชอบซ้อนท้ายเห็นแล้วมีสิทธิกรี๊ดได้เลย

โดยในจำนวนนั้น มีเจ้าชายรูปหล่อรวมอยู่กับพระองค์หนึ่งด้วยนะ ขอบอก!


และถ้าพูดถึงเรื่องมอเตอร์ไซค์จะขาดชื่อของ ยวน แมคเกรเกอร์ ไม่ได้แน่นอน เพราะพระเอกนายนี้นอกจากจะชอบ ก็ยังมีเก็บสะสมอยู่หลายคัน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขายังขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามประเทศจากกรุงลอนดอนไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีรายการทีวี เดอะ ลองก์ เวย์ ราวด์ ติดตามถ่ายทำมาให้แฟนจอแก้วได้ดูกัน

เจเรมี ไอรอนส์ ที่แม้วัยจะปาเข้าไปตั้ง 61 ก็ยังชอบขี่ และมีอยู่ที่บ้านหลายคัน แต่ที่ขี่บ่อยๆ เป็นยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ขณะที่ แบรด พิตต์ ที่คอเดียวกัน บอกว่าขี่มอเตอร์ไซค์ดีกว่านั่งรถ ตรงที่หมวกกันน็อคช่วยให้เขาหลุดรอดจากสายตาของพวกปาปาราซซี่มาหลายครั้งแล้ว

จอร์จ คลูนีย์ เพื่อนซี้ของแบรด พิตต์ ก็ชอบและใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะไปไหนมาไหนบ่อยๆ ในลอสแองเจลิส แต่จะต่างจากพระเอกคนอื่นก็คือ น้อยครั้งมากที่เขาจะไม่มีเพื่อนหญิงซ้อนท้าย

สำหรับ แมทธิว แมคคอนาเฮย์ เขาไม่ชอบมีผู้หญิงซ้อนท้าย แต่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ ไทรอัมพ์ เที่ยวเล่นอยู่แถวบ้านในย่านมาลิบู แล้วให้ "เจ้าบีเจ" สุนัขตัวโปรดวิ่งตาม

ฮัลโหลได้ภาพ ออร์ลันโด บลูม มาตอนที่เขาออกไปลองซิ่งรถคันใหม่ยี่ห้อ ดูคาติ โดยแว่นกันแดดกับหมวกกันน็อคก็ช่วยให้คนบนถนนในย่านบิ๊ก แอปเปิล กลางนครนิวยอร์ก ไม่รู้เลยว่านี่คือออร์ลันโด บลูม

คราวนี้ก็ถึงคิว "เจ้าชาย" แล้ว ซึ่งก็คือ เจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าชายแฮร์รี พระโอรสของเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งอังกฤษ ซึ่งทรงโปรดมอเตอร์ไซค์ทั้งคู่ สำหรับเจ้าชายแฮร์รีเคยร่วมขบวนขี่มอเตอร์ไซค์เป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร เพื่อหาเงินช่วยการกุศลให้แก่องค์กรยูนิเซฟ ตอนอยู่ที่อัฟกานิสถาน ก็เคยเอามอเตอร์ไซค์ด์เก่าๆ มาขี่เล่น ให้หายคิดถึงไทร์อัมพ์ มอเตอร์ไซค์คันโปรด

ส่วนเจ้าชายวิลเลียม ภาพที่พระองค์ทรงขี่มอเตอร์ไซค์ในชุดครบเครื่อง ไปที่รายการแข่งโปโลที่เบิร์กเชียร์ยังเป็นภาพเร้าใจที่หลายคนยังจำได้ไม่รู้ลืม ว่าเมื่อหนุ่มบนรถมอเตอร์ไซค์ถอดหมวกกันน็อคออกมา ผู้คนถึงรู้ว่าเขาคือเจ้าชายวิลเลียม

ในภาวะโลกร้อนอย่างนี้ ภาพของพระเอกขี่มอเตอร์ไซค์อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนสนใจหันมาลองใช้รถเล็กๆ ดูบ้าง เพื่อช่วยกันประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเราไม่ให้แย่ไปมากกว่านี้

"แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรู้จักระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยกันด้วยนะ"

เพิ่มเติม http://www.sanook.com/

กุศมัย กรุ๊ป บุกตลาดรถขนส่งเล็ก

กุศมัย กรุ๊ป ขยายปีกบุกตลาดรถขนส่งขนาดเล็ก ส่ง ซูโม่ รถ 3 ล้อ ขนส่งสินค้าทางการเกษตรและสินค้าภายในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก หวังชิงแชร์ตลาด

ดร. วิโรจน์ กุศลมโนมัย กรรรมการผู้จัดการ บริษัท กุศมัย กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เล็งเห็นว่า ในยุคเศรษฐกิจกำลังซบเซา ประกอบกับน้ำมันยังคงมีราคาสูงอยู่ ผู้ประกอบการนักธุรกิจทุกคนต้องพยายามหาวิธีการประหยัดค่าใช้จ่าย และพยายามที่จะใช้รถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนที่มีราคาถูกลง อย่างเช่น แก็ส LPG, NGV หรือ ใช้รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันน้อยกว่าเดิม สำหรับงานขนส่งสินค้าภายในพื้นที่เกษตรกรรม บริษัทฯ จึงได้ตกลงเซ็นต์สัญญาเป็น ตัวแทนนำเข้ารถมอเตอร์ไซด์แต่ผู้เดียวในประเทศไทย กับบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ รถมอเตอร์ไซด์ ขนส่งขนาดเล็ก ในประเทศญี่ปุ่น ที่ทำการส่งออกรถ 3 ล้อ ภายใต้ยี่ห้อ “ซูโม่” ใน 20 กว่าประเทศในแถบเอเชีย และ ตะวันออกกลาง หากรวมประเทศไทยแล้ว เป็นประเทศที่ 23 ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายในแถบนี้

“ รถ ซูโม่ มีขนาดกะทัดรัดกว่า รถอีแต๋น ราคาก็ถูกกว่า ประหยัดน้ำมัน การดูแลรักษาก็ง่าย และยังมีความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักได้ดี จึงเป็นทางเลือกใหม่ให้กับ เจ้าของสวนยาง สวนผลไม้ และชาวไร่ในการใช้ขนถ่ายผลิตผลทางการเกษตร หรือจะใช้ขนถ่ายสินค้า และวัตถุดิบภายในโรงงานอุตสาหกรรม ในเขตอุตสาหกรรม ก็ได้เช่นกัน รถ 3 ล้อ ซูโม่ สามารถสั่งติดตั้งระบบไฮโดรลิกให้กระบะท้ายยกเทได้อีกด้วย แม้เครื่องยนต์เล็ก แต่มีกำลังบรรทุกมากเนื่องจากการใช้ระบบเฟืองทด ให้ประหยัดแรง สามารถบรรทุกน้ำหนักตั้งแต่ 500 - 1,000 กิโลกรัม หรือจุได้ประมาณ 2 – 4 คิว

หากต่อเติมหลังคา แบบรถกระบะ ในปลายปีนี้บริษัทฯ จะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 3 ล้อ ซูโม่ 2 รุ่น คือ รุ่นขนาดเครื่องยนต์ 150 ซีซี และ 175 ซีซี ในงาน มอเตอร์โชว์ และ งานเกษตรโลก ที่เมืองทองธานี

เพิ่มเติม http://www.bangkokbiznews.com/

โตโยตรอนเผยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใหม่ ชูจุดขาย สมรรถนะดี บริการทั่วถึง

โตโยตรอน ส่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใหม่ 2 รุ่น ที่พัฒนาชุดควบคุม แบตเตอรี่ใหม่ พร้อมชูจุดเด่นของสมรรถนะรถที่เหนือกว่าคู่แข่ง และเร่งขยายเครือข่ายการขายและบริการให้ครอบคลุม พร้อมเปิดศูนย์ฮอตไลน์ จึงสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและตั้งเป้ายอดขายไว้ 2,000-3,000 คัน/เดือน

นายโอกาส เตพละกุล ประธานกรรมการ บริษัท โตโยตรอน มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโตโยตรอน เปิดเผยว่า ปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น จึงได้พัฒนารถมอเตอร์ไชค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 2 รุ่น คือ รุ่นเทอร์โบและรุ่นซูเปอร์ออกสู่ตลาด เนื่องจากเป็นรถที่ตอบสนองได้ตรงความต้องการ ทั้งความสามารถในการใช้งาน ความประหยัด และการเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม
แต่ที่ผ่านมามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั่วไปในตลาดยังมีจุดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่ต่ำเกินไป การเร่งแซงแบกน้ำหนักและขึ้นทางลาดชัน ทางโตโยตรอนจึงได้ทำการศึกษาวิจัยจุดเด่นจุดด้อย และความต้องการของผู้บริโภค จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือพัฒนาระบบหลักของรถ คือ มอเตอร์ ชุดควบคุม และแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถกำจัดจุดอ่อนใน 3 จุดหลัก โดยสามารถทำความเร็วได้ 55 กม./ชม. และ 65 กม./ชม. พร้อมมีคนซ้อนท้าย และสามารถปีนไต่เนินชันได้

นอกจากนี้ยังสามารถขับขี่ในช่วงที่ฝนตกหรือมีน้ำท่วมขังตามปรกติได้ โดยไม่มีปัญหากับมอเตอร์หรือว่าแบตเตอรี่ ที่สำคัญเน้นความประหยัดเฉลี่ยค่าใช้จ่ายเพียงกิโลเมตรละ 7 สตางค์เท่านั้น และยังไม่มีค่าน้ำมันหล่อลื่น หรือน้ำมันเกียร์และหัวเทียน จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เดือนละไม่น้อยกว่า 500 บาท และยังใช้งานได้ถึง 70 กม.ต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่สะดวกและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป

นายโอกาส กล่าวว่า ในส่วนของช่องทางการขาย ปัจจุบัน โตโยตรอนมีผู้แทนจำหน่าย 40 รายทั่วประเทศ และปีนี้จะเปิดเพิ่มให้ครบ 50 ราย ส่วนในอนาคตตั้งเป้าเปิดให้ครอบคลุมทั่วประเทศครบทุกจังหวัด ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคถึงการได้รับการบริการที่ทั่วถึง โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการอบรมเป็นอย่างดีจากบริษัท และเป็นการสร้างความแตกต่างกับรถหลาย ๆ ยี่ห้อที่เมื่อเสียแล้วลูกค้าไม่รู้ว่าจะไปซ่อมที่ใด

สำหรับแนวทางการทำตลาดของโตโยตรอน จะเน้นการสร้างประสบการณ์ตรงให้กับลูกค้า ทั้งการจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองขับขี่ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจถึงสมรรถนะที่แท้จริง และเห็นถึงความแตกต่างโดยเฉพาะการแบกน้ำหนักหรือการขึ้นเนิน พร้อมกันนั้นยังได้เปิดบริการฮอตไลน์ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ยอดขายโตโยตรอนรุ่นใหม่ได้เดือนละ 2,000-3,000 คัน โดยราคาในรุ่นเทอร์โบ 39,000 บาท และรุ่นซูเปอร์ 43,500 บาท พร้อมรับประกันมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ปี และรับประกันคุณภาพ 1 ปี

"เอ.พี. ฮอนด้า" โหมมิวสิกมาร์เก็ตติ้งเต็มสูบ

รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ร่วมกับรายการ "ไฟว์ไลฟ์ และโอไอซี" จัดเทศกาลความสนุกขึ้นอีกครั้งใน "Honda Fun United Festival" กับคอนเสิร์ต Featuring เพลงชนเพลงจากศิลปินต่างแนวสุดดังมากมาย อาทิ โมเดิร์นด๊อก, กรู๊ฟไรเดอร์, ทีโบน, บิ๊กแอส, สครับ, พร้อมสนุกซื้อ สนุกขายกับตลาดนัด ไอเดียกระฉูด และร่วมมันส์กับเกมสุดฮาชิงเงินรางวัลกว่า 1 แสนบาท พร้อมโชว์รถจักรยานยนต์สีสันสดใหม่ ระเบิดความสนุกต่อเนื่องถึง 3 จังหวัด ประเดิมที่แรก ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ 19 กันยายน 2552, สวนราชพฤกษ์ เชียงใหม่ 26 กันยายน 2552 และปิดท้ายงานที่หาดนพรัตน์ธารา กระบี่ 3 ตุลาคม 2552

นางจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด ส่วนงานวางแผนธุรกิจ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงความสนุกมันส์ที่จะถึงในครั้งนี้ว่า "จากกระแสคำเรียกร้องและความสำเร็จที่ทางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้สร้างปรากฏการณ์คลื่นมหาชนมารวมตัวกันตอบรับความสนุกกันอย่างล้นหลามในงานมหกรรมดนตรีริมทะเล Honda Click i Reggae on the Rock เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจึงได้ร่วมกับรายการวัยรุ่นชื่อดัง ไฟว์ไลฟ์ และโอไอซีอีกครั้ง เพื่อตอกย้ำความสนุกมันส์ให้เกิดขึ้นกับมหาชนผู้ค้นหาความสนุก โดยเนรมิตพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในประเทศไทย ให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งความสนุกมันส์ งานนี้จะถูกจัดขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันถึง 3 ครั้ง และจะมีความพิเศษที่มากยิ่งกว่า มีความสนุกความประทับใจที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งรับรองว่าทุกคนที่มี โอกาสมาร่วมงานในครั้งนี้ จะได้สัมผัสถึงความสนุกมันส์แบบคนรู้กัน "ก็มันสนุกอ่ะ" ในสไตล์ใหม่ๆ กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าแน่นอน"

สำหรับกิจกรรมความสนุกที่จะเกิดขึ้นนี้ประกอบด้วย Honda Fun Music ความสนุกจุใจกับ BIG Concert จากกองทัพศิลปิน นักร้องยอดนิยมอันดับหนึ่งของวัยรุ่นไทยในขณะนี้

เพิ่มเติม www.prachachat.net

“สิทธิผล” จับมือ “โททาล” อัดแคมเปญกระตุ้นยอด “เอลฟ์”

“สิทธิผล” ผนึก “โททาล” งัดกลยุทธ์ตลาดดันยอดขายน้ำมันเครื่อง “เอลฟ์” เติบโตต่อเนื่อง เดินสายจัดแคมเปญเอาใจลูกค้าทุกรูปแบบ จับฐานตลาดกลุ่มดีลเลอร์ทั่วประเทศ – วินมอเตอร์ไซต์ในกรุงเทพฯ เหนียวแน่น ย้ำภาพลักษณ์ผู้นำตลาดสินค้าพรีเมี่ยมในราคาที่ผู้บริโภคพอใจ

นายสุเมธ ศรีมโนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัทโททาล ออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเอลฟ์เพียงรายเดียวในโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ให้ความไว้วางใจแต่งตั้งบริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำมันเครื่อง elf สำหรับรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมาตั้งแต่กลางปี 2550 ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 500 ล้านลิตร แบ่งเป็น น้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ 80 ล้านลิตร รถยนต์ประมาณ 260 ล้านลิตร นอกจากนั้นใช้สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมและเรือ

ส่วนการบริหารงานด้านการจัดจำหน่าย แบ่งออกเป็น 2 สายงาน โดยบริษัทโททาลจะดูแลงานขายน้ำมันเครื่องเอลฟ์สำหรับรถยนต์เป็นหลัก ขณะที่สิทธิผลจะดูแลงานขายตลาดรถจักรยานยนต์


ด้านนายพิภพ ยิ่งพัฒนา ผู้จัดการผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องเอลฟ์ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดมีการแข่งขันกันสูง ดังนั้นการบริหารเชิงกลยุทธ์จึงถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมันเครื่องเอลฟ์ โดยสิทธิผลและฝ่ายการตลาดของโททาล ออยล์จะทำงานร่วมกัน มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์สินค้า โดยปัจจุบันเน้นเรื่องการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย และกิจกรรมสันทนาการพิเศษให้เข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้า เช่น การชมภาพยนตร์ ชมคอนเสิร์ต การจัดสัมมนาช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ในจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงผู้บริโภคบางกลุ่มโดยตรง เช่น วินมอเตอร์ไซค์ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มแรงผลักดันสินค้าคุณภาพพรีเมี่ยมสู่ผู้บริโภคในราคาที่ไม่แพง เนื่องจากสินค้าภาพลักษณ์ใหม่ต้องการแรงผลักดันจากบุคลากรในทุกช่องทางการจำหน่าย

“ส่วนการกระจายสินค้าสิทธิผลมีช่องทางจำหน่ายและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางขายผ่านหน่วยเสริมพิเศษของบริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสิทธิผลที่เจาะกลุ่มขายตรงเข้าร้านย่อยและเครือข่ายวินมอเตอร์ไซค์ทั่วกรุงเทพฯ และปริมลฑลที่มีบริการขายด่วนโดยไม่มีเงื่อนไขจำนวนสั่งซื้อ ทำการส่งเสริมการขายและเก็บรวบรวมข้อมูลตลาดไปพร้อมกัน ซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นที่แตกต่างที่สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าเป็นอย่างมาก” นายพิภพ นายพิภพ กล่าวตบท้าย

เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

นิตยสารนักเลงมอเตอร์ไซค์ เล่มที่ 10:09

ในเล่ม:
- แกะกล่องลองขี่ YAMAHA Spark Nano "คุ้ม" จริงๆ
- อยากรู้มั้ย...16 ยอดเจ๋ง รถอะไรตะกละที่สุด รถอะไรขายยากที่สุด แล้วรถอะไรหายง่ายที่สุด
- จับจังหวะจูน ว่ากันด้วย "เม็ดตุ่มคลัทช์" ไล่ให้ได้ต้น-กลาง-ปลาย
- 2 ใน 50 คันของโลก HUSQVARNA SM 450RR No.11
- HONDA CRF 450X สำหรับนักซิ่งนอกกรอบ
- อ่านหาเรื่อง แก๊สโซฮอล์ ใช้ได้ แต่...!
- สัมผัสล่าสุด APRILIA Shiver 750
BMW K1300 GT
KAWASAKI Ninja ZX-14
MOTO GUZZI V7 Cafe Classic
KTM 690 DUKE
2010 YAMAHA YZ 250F
KTM SX ATV 450 DNA
SUZUKI GSX-R 600
- คุยกับหนุ่มหล่อนักซิ่ง อนันดา เอเวอริ่งแฮม
- ทำความสะอาด หมวกกันน็อค

รถแต่ง Scoopy-i งานนี้คอแต่งชอบ















ที่มา http://www.the-cycle.com/

"ฮอนด้า" ประกาศศักยภาพความเป็นผู้นำ เดินเกม เอ.ที. หัวฉีดเต็มกำลัง เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น "Honda PCX" และ "ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" มั่นใจกวาดเรียบทั้งตลาด

ฮอนด้า ประกาศศักยภาพผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ระดับโลก โชว์ความเป็นที่หนึ่งตลอดกาลในตลาดรถจักรยานยนต์ไทย ด้วยการแนะนำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่น ทั้งรุ่น World Premiere ที่เป็นโมเดลระดับโลก และมีกำหนดเผยโฉมที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรก พร้อมให้คนไทยได้ขับขี่ก่อนใครในโลก เร็วๆ นี้ กับ Honda PCX และอีกหนึ่งรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไทย ที่มีตำนานความสนุกจากประเทศญี่ปุ่น กับ Honda Scoopy i โดยทั้ง 2 รุ่นเป็นรถจักรยานยนต์แบบเอ.ที. และจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI โดยฮอนด้ามั่นใจช่วยกระตุ้นตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และยึดครองความเป็นผู้นำในทุก Segment ตลาดรถจักรยานยนต์ไทย

สำหรับรุ่นแรก "Honda PCX" เป็นรถจักรยานยนต์สไตล์ใหม่ระดับ World Class ที่ผลิตในประเทศไทย และมีแผนการวางจำหน่ายไปยังทั่วโลก พร้อมวางจำหน่ายให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์มีระดับสไตล์ Honda PCX เป็นแห่งแรกของโลก เร็วๆ นี้

นอกจากนั้น ฮอนด้ายังได้ส่งตรงความสนุกโฉมใหม่ ที่มาความสนุกดั้งเดิมจากประเทศญี่ปุ่น ให้มาป่วนความสนุกมันส์ พร้อมเดินเกมส์ความเก๋าเต็มกำลัง สร้างสรรค์ตำนานหน้าใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในเมืองไทย กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าหัวฉีด PGM-FI รุ่นใหม่ "สกู๊ปปี้ ไอ" (Honda Scoopy i) ภายใต้คอนเซปต์โดนใจวัยรุ่นเด็กแนว "สนุกมันส์...รู้กัน!!!...ฟัน ยูไนเต็ด" สู้ศึกตลาดรถจักรยานยนต์สไตล์แฟชั่น โดยความสนุกมันส์ครั้งนี้มีให้เลือกมากถึง 3 สไตล์ ทั้ง "Fun", "Cute" และ "Prestige" ในลายกราฟฟิคแสบสันถึง 7 แบบโดนใจ พร้อมการถ่ายทอด คาเรคเตอร์ความสนุกมันส์กับพรีเซนเตอร์วัยรุ่นไทยสุดแนวขาโจ๋อย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ และ ตีน่า พิมพ์นารา ไรท์ นักร้องสาวเสน่ห์หวานจัดจ้าน "ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" วางแผนการจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. นี้เป็นต้นไป ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 44,300 บาท ตั้งเป้าหมายการจำหน่าย 150,000 คันต่อปี

มร. เซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า "จากปัจจัยบวกต่างๆ ที่ช่วยส่งสัญญาณให้สภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในครึ่งปีหลัง เริ่มมีความสดใส และค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ปรับการคาดการณ์ตลาดรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,470,000 คัน จากเดิมเมื่อต้นปีที่ 1,350,000 คัน ซึ่งปัจจัยหนึ่งของสัญญาณที่ส่อเค้าดีขึ้นนี้ มาจากการที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ได้ผลักดันกลยุทธ์การตลาด สร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ออกมาโดยตลอด เช่นเมื่อครั้งการประกาศเปลี่ยนยุคแห่งการขับขี่มาสู่ยุคหัวฉีดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และในครั้งนี้ฮอนด้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสานต่อเจตนารมณ์ที่วางไว้ โดยการแนะนำรถจักรยานยนต์ฮอนด้า 2 รุ่นใหม่ระบบหัวฉีด ที่มีความต่างในบุคลิก เพื่อให้ครอบคลุมตลาดเอ.ที.หัวฉีด ทั้ง "ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" และ "Honda PCX" ให้มาเสริมความต้องการของตลาดในทุกๆ เซ็กเมนต์ ซึ่งฮอนด้าเป็นผู้นำรถเอ.ที. หัวฉีดที่มีรุ่นรถมากที่สุดในตลาดถึง 4 รุ่นรองรับทุกความต้องการ ทั้งคลิกไอ, แอร์เบลด ไอ, สกู๊ปปี้ ไอ และ Honda PCX และจะยังคงเสนอความสนุกในหลากหลายรูปแบบให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป"

สำหรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า "สกู๊ปปี้ ไอ" ความสนุกโฉมใหม่สไตล์เมืองไทยในปี 2009 นี้ เป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับการพัฒนา และถอดแบบดีไซน์กลมๆ สนุกๆ ของ เอ.ที. คันจิ๋วสุดฮิตตั้งแต่ปี 1992 จากฮอนด้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจากคาเรคเตอร์ความสนุกมันส์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางฮอนด้าได้เลือกตัวแทนวัยรุ่นที่มีความเป็นตัวของตัวเองอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" กับนักร้องสาวเปรี้ยวซ่า "ตีน่า" พิมพ์นารา ไรท์ มาร่วมถ่ายทอดตำนานหน้าใหม่ของบุคลิกความมันส์ให้สนุกเป็นทวีคูณมากขึ้น โดยมาริโอ้ เมาเร่อ เป็นตัวแทนของคนรู้กันในกลุ่ม "Fun" และตีน่า เป็นตัวแทนของคนรู้กันในกลุ่ม "Cute" นอกจากนั้นยังเสริมความสนุกในสไตล์แนว ๆ ฉบับคนรู้กันแบบคนคลาสสิกด้วยการใช้ บอม ธนา นายแบบมาดเซอร์อนาคตไกล กับฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ซีรี่ย์ "Prestige"

นอกจากนั้น ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ เพื่อนใหม่จากฮอนด้าหัวฉีดคันนี้ ยังมีรูปโฉมสอดรับกับสไตล์ที่ไม่ธรรมดาในแบบฉบับความเก๋าโมเดิร์น ซึ่งได้รับการถ่ายทอด DNA ความ "โค้งมน น่ารัก สนุก" ลุคออรินอลจากญี่ปุ่นแท้ ผสานกับการพัฒนาความทันสมัยเหนือใคร กับไฟหน้าชุดใหญ่ที่ให้ความสว่างแบบมีมิติดีไซน์แบบสองโคมที่ Built-in ไปกับตัวรถอย่างลงตัว ด้วย "บิ๊กอาย" ไฟหน้าส่องสว่างดวงโต และ "มินิอาย" ไฟหรี่ดวงเล็กแบบโปรเจคเตอร์ (Round Grand Headlight) นับเป็นครั้งแรกของการดีไซน์ไฟหน้ากับรถจักรยานยนต์ ให้ได้ลุคแบบมินิคาร์ย้อนยุคสุดฮิต พร้อมด้วย Superior Front Bushing กรอบเฟรมบังลมหรู ดีไซน์แยกชิ้น ที่มากับ Chic Mirror กระจกข้างดีไซน์เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร จะถอดปรับเปลี่ยนสีเปลี่ยนลุค เพิ่มความชิค! ความฟัน! บวกกับดีไซน์ไฟเลี้ยวแบบแยกส่วน (Modern Classic Winker) ช่วยย้ำภาพความคลาสสิคโดดเด่นทุกมุม ทั้งหน้า-หลัง ได้ลุคทั้งโก๋และเก๋าเป็นตำนานหนึ่งเดียวไฟเลี้ยวเฉพาะตัวแบบนี้ ฮิตแน่! พร้อมโดดเด่นกับ Duo Dashing Classic Meter เรือนไมล์มิเตอร์คู่ดีไซน์สวย ทั้งแนวสนุก น่ารัก เรียบหรู กับไฟแสดงความพร้อมของเครื่องยนต์ ที่มาพร้อมกับ Deluxe Tail-Light ไฟท้ายขนาดใหญ่ และมือจับหลังชุบโครเมี่ยม รับรองไม่ว่าจะมาแนวไหนก็สะท้อนตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่เบาะนั่ง ถูกดีไซน์ในสไตล์ "คอมฟอร์ท ซีท" ให้ความกว้างสูงกำลังดี พร้อมกล่องเก็บของอเนกประสงค์ใต้เบาะนั่ง (U-Box) ที่ให้เก็บของได้จุใจกว่า พร้อมฝาปิดเพิ่มความมั่นใจ และเอาใจคนชอบเก็บของจุกจิกกับ Front Inner Box ที่เก็บของด้านหน้า สะดวกสบายลงตัวกับตัวรถ, Curvy Muffler Cover แผ่นกันความร้อนท่อไอเสีย ทรงรี, Front Disk Brake ดิสก์เบรกหน้า ลูกสูบเดี่ยว หยุดสนิท มั่นใจ, Color Caliper คาลิเปอร์สีแดงในซีรีย์ "Fun" และสีทองในซีรีย์ "Cute" และ "Prestige", Front-Rear Shock Absorber โช้คหน้า-หลัง รับแรงกระแทกดีเยี่ยม สนุก สมูททุกจังหวะ สีเงินด้านในซีรีย์ "Prestige" และ "Cute" สีแดงในซีรีย์ "Fun"

ทั้งหมดนี้เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยในมาตรฐานฮอนด้าที่เหนือชั้นกว่าใคร ทั้งระบบกุญแจนิรภัยสองชั้น (Automatic Key Shutter) ที่ถูกออกแบบให้มีม่านปิดอัตโนมัติทันทีที่ล็อคคอรถ พร้อมพรายน้ำเรืองแสงช่วยให้มองเห็นได้ง่ายในยามค่ำคืน, Brake Lock Lever สวิตซ์ล็อคล้อขณะจอด ไม่ลื่นไถล แม้ทางลาดชัน, Side Stand Switch สวิตซ์ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ เมื่อเอาขาตั้งข้างลง เพื่อป้องกันการบิดคันเร่งในขณะจอด

สำหรับซีรีย์ความสนุกมันส์ในแบบ "สกู๊ปปี้ ไอ" นี้ได้ออกตัวมาป่วนความสนุกตามแต่ละสไตล์แนวใครแนวมันส์ กันถึง 7 ลวดลายหลากสีสันใน 3 ซีรีย์ ไม่ว่าจะเป็นซีรีย์แรก "Fun" ความสนุก...ลุคสปอร์ต แบบพิเศษเฉพาะแนวนี้กับกราฟิกอิมเมจรถแข่งคันงาม เบาะนั่งทูโทน มีสีสัน 3 แบบ คือ ขาว-แดง (White-Red), ดำ-แดง (Black-Red) และ น้ำเงิน-ดำ (Blue-Black) ซีรีย์ที่สอง "Cute" ความสนุกที่มาพร้อมกับความน่ารักแสบซน พิเศษเฉพาะแนวกับกราฟิกไอวี ร็อคโคโค่ กับแฟชั่นมงกุฏสุดเปรี้ยว มีสีสัน 2 แบบคือ ชมพู-ขาว (Pink-White) และ เขียว-ขาว (Green-White) และ ซีรีย์ท้ายสุด "Prestige" ความสนุกเท่มีระดับ พิเศษเฉพาะแนวกับ Cover Center สีทอง เพิ่มความมีระดับกับไฟหรี่สีขาว มีสีสัน 2 แบบ คือ ดำ-น้ำตาล (Black-Brown) และ ขาว-น้ำตาล (White - Brown)

ในส่วนด้านเครื่องยนต์นั้น ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ มาพร้อมกับเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI เครื่องยนต์ 110 ซีซี 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้อัตราการประหยัดน้ำมันมากถึง 49 กม./ลิตร พร้อมคุณประโยชน์ต่างๆ จากฮอนด้าหัวฉีดครบถ้วน ทั้งประหยัดน้ำมัน, ให้ไอเสียที่สะอาดผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ 6 รองรับน้ำมัน E20, ได้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น, ใช้งานนานหายห่วงกับการรับประกันคุณภาพอุปกรณ์ระบบหัวฉีด PGM-FI นานถึง 5 ปี หรือที่ 50,000 กิโลเมตร และพร้อมพรั่งด้วยคุณภาพอะไหล่แท้กับช่างระดับมาตรฐานที่มีรองรับทั่วประเทศ

และเพื่อเป็นการตอบสนองความสนุกในแบบที่เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร โดนใจวัยมันส์ขึ้นอีก ทางฮอนด้ายังได้สร้างสรรค์อุปกรณ์ตกแต่ง (C-parts) และเครื่องแต่งกาย (Honda Collection) มารองรับความแตกต่างของรูปแบบไลฟ์สไตล์ เติมเต็มความเป็นแฟชั่นให้กับคาแรกเตอร์ของรถรุ่นนี้

ทั้งนี้ สำหรับในด้านแผนการจำหน่าย ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน นี้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 44,300 บาท ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายทั้งสิ้น 150,000 คันต่อปี พร้อมพิเศษสุด! ด้วยแคมเปญรับความสนุกสุดมันส์เหนือใคร สำหรับ 10,000 คันแรก รับชุดของขวัญมันส์ๆ "Scoopy i Collection" ทั้งชุดแจ็คเก๊ต และหมวกกันน็อคสีสันเดียวกับตัวรถ ให้ได้นำแฟชั่นเท่ๆ ก่อนใคร วันนี้ ถึง 15 ตุลาคมนี้ หรือจนกว่าของจะหมด

ยิ่งไปกว่านั้น ในปีนี้ ฮอนด้ายังมีแผนการแนะนำรถรุ่นใหม่อีก 1 รุ่น ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์แนวคิดพรีเมี่ยม ระดับโลก ภายใต้ชื่อรุ่น "Honda PCX" เพื่อเป็นการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ให้กับวงการจักรยานยนต์ไทย โดย "Honda PCX" นี้จะอยู่ในฐานะของ Top of Scooter รถจักรยานยนต์มูลค่าเพิ่มสูงเป็นยนตรกรรมระดับ World Class ที่มีแผนการวางจำหน่ายครอบคลุมความต้องการไปยังทั่วโลก และมีโปรแกรมอวดโฉมความหรูหรา ความมีระดับให้ปรากฏแก่สายตาผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลก ในเร็วๆ นี้ มั่นใจรถทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ สามารถช่วยกระตุ้นตลาดในไตรมาสสุดท้ายของปี พร้อมยึดครองความเป็นผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ในทุกเซ็กเมนต์

สัมผัสความยิ่งใหญ่ของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าก่อนใคร ทั้งสไตล์ความสนุกมันส์แบบ "ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" หรือจะเป็นความหรูหรามีระดับของ "Honda PCX" พร้อมด้วยกองทัพความสนุกในเวอร์ชั่นอื่นๆ อีกมากมาย ให้พิสูจน์กันเต็มตาในงาน "Honda Fun United Festival" เทศกาลความสนุกของคนรู้กัน จัดต่อเนื่อง 3 แห่งยิ่งใหญ่ติดกัน ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา วันที่ 19 กันยายน 2552, ณ สวนสาธารณะพืชสวนโลก จ. เชียงใหม่ วันที่ 26 กันยายน 2552 และหาดนพรัตน์ธารา จ.กระบี่ วันที่ 3 ตุลาคม 2552 นี้

เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

twitter กับ mocycEasy

ในที่สุดก็ได้ลองใช้ twitter กับเค้าเสียที ได้ยินมาก็ตั้งนาน เอาเป็นว่าเป็นอีกช่องทางนึงในการรับข่าวสารล่ะกัน และถ้าเพื่อนๆ ยังสงสัยว่ามันคืออะไรก็ไปฟังนายป้อม ผู้ก่อตั้ง Thai2hands อธิบายด้านล่างให้ฟังล่ะกันครับ

ติดตามเราได้ที่ -->http://twitter.com/mocyceasy

Twitter.com เป็นบริการส่งข้อความเป็นประโยคสั้นๆ ที่คุณส่งไปนั้นจะเป็นการบอกว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่? ในตอนนั้น เพื่อเป็นบันทึก ณ. ช่วงเวลานั้นว่าคุณทำอะไรอยู่ ลงไปในเว็บไซต์ของ Twitter.com เช่น "กำลังจะกินข้าว" "กำลังจะออกจากบ้าน" เป็นต้น

และเมื่อคุณส่งประโยคสั้นๆ ไปเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่คุณมีเวลา และสามารถทำได้ เมื่อกลับมาอ่านมัน ข้อความทั้งหมด มันจะก็จะสามารถประติดประต่อ บอกเรื่องราวว่าคุณทำอะไรไปบ้างช่วงวันหนึ่งๆ ซึ่งจะสะดวกกว่าการ มานั่งหลังคดหลังแข็งมานั่งเขียนบล๊อก ทั้งวัน นี้แหละที่ Twitter.com เลยเข้ามาทดแทนและช่วยให้คนไม่ชอบเขียน บล๊อก หันมาใช้บริการพวกนี้เยอะมากขึ้น อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆ คนคง งงว่าทำไมต้องมานั่งเขียนบอกลงไปด้วย (วะ) ความสนุกไม่ได้อยู่ตรงนี้ ครับมาดูกันต่อ

แต่สิ่งหนึ่งที่มาช่วยให้ Twitter มีประโยชน์ และสนุกมากขึ้น ก็คือ คุณสามารถติดตาม (Follow) คนอื่นๆ ที่เค้าเขียนข้อความลงไปใน Twitter ของเค้าได้ ว่าเค้าคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ โดยเมื่อคุณ ติดตาม (Follow) เค้าแล้ว เมื่อคนนั้นเค้าทำอะไรและพิมพ์อะไรลงไปใน Twitter คุณก็ได้รับข้อความเหล่านั้นด้วยไปพร้อมๆ กัน และก็สามารถติดตามได้ทีละหลายๆ คน ซึ่งก็จะทำให้คุณทราบว่าเค้าเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ในขณะนั้นทันที

เพิ่มเติม http://www.pawoot.com/twitter

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

ฮอนด้า กดราคา "สกู๊ปปี้ ไอ" ชน "ฟีโน่"

เอ.พี.ฮอนด้า เปิดศึกตลาดจักรยานยนต์แนวย้อนยุค ส่ง "สกู๊ปปี้ ไอ" ชนแชมป์เก่า "ฟีโน่" ประเดิมเกมราคา เคาะถูกกว่า 1,200 บาท หวังยอดขาย 1.5 แสนคัน/ปี ระบุภาพรวมตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัว พร้อมปรับเพิ่มประมาณการยอดขายตลาดรวม 1.47 ล้านคัน

นายเซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้าเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ สกู๊ปปี้ ไอ (Scoopy i) เพื่อเจาะตลาดรถแฟชั่นย้อนยุค ที่กำลังได้รับความนิยม โดน สกู๊ปปี้ ไอ ใช้เครื่องยนต์ 110 ซีซี 4 จังหวะ จ่ายเชื้อเพลิงระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยอากาศ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 49 กม./ลิตร มาตรฐานไอเสียระดับ 6 รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 ซึ่งเป็นการใช้ระบบหัวฉีดอีก 1 รุ่น หลังจากที่ฮอนด้าประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2551 ว่ารถจักรยานยนต์ทุกรุ่นจะเปลี่ยนมาใช้ระบบหัวฉีด

"สกู๊ปปี้ ไอ ดีไซน์จากแนวคิด โค้งมน น่ารัก สนุก ไฟหน้าชุดใหญ่ดีไซน์แบบสองโคม ไฟเลี้ยวดีไซน์แยกส่วน เรือนไมล์มิเตอร์คู่ ไฟท้ายขนาดใหญ่ กล่องเก็บของใต้เบาะนั่ง ช่องเก็บของจุกจิกด้านหน้า แผ่นกันความร้อนท่อไอเสีย ดิสก์เบรกหน้า ระบบกุญแจนิรภัยสองชั้น สวิตช์ล็อกล้อขณะจอด สวิตช์ตัดการทำงานเครื่องยนต์เมื่อเอาขาตั้งข้างลง" นายซากุราอิ กล่าวว่า ฮอนด้ามีกำหนดวางจำหน่ายสกู๊ปปี้ ไอในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ราคาเริ่มต้น 4.43 หมื่นบาท โดยตั้งเป้าจำหน่ายทั้งสิ้น 1.5 แสนคัน/ปี และเตรียมสร้างการรับรู้ในตัวสินค้า ด้วยการผลิตอุปกรณ์ตกแต่ง และเครื่องแต่งกายแฟชั่นคาแรคเตอร์ของรถรุ่น สกู๊ปปี้ ไอ รองรับความแตกต่างของรูปแบบไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมการสื่อสารการตลาดครบวงจร เช่น โปรโมชั่นพิเศษ ลูกค้าสกู๊ปปี้ ไอ 1 หมื่นคันแรก รับชุดของขวัญ Scoopy i Collection ทั้งชุดแจ๊คเก็ต และหมวกกันน็อคสีเดียวกับตัวรถ เป็นต้น และเลือก “มาริโอ้ เมาเร่อ” นักแสดงชื่อดังและ “ตีน่า-พิมพ์นารา ไรท์” นักร้องดาวรุ่ง และ “บอม ธนา” นายแบบดาวรุ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์

ทั้งนี้ราคาจำหน่ายฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ที่ 4.43 หมื่นบาทนั้น ตั้งไว้ต่ำกว่าคู่แข่งที่อยู่ในตลาดก่อนอย่างยามาฮ่า ฟีโน่ ที่มีราคา 4.55 หมื่นบาท หรือต่ำกว่า 1,200 บาท เป็นการบ่งบอกถึงการพยายามตีตลาดนี้ให้ได้หลังจากที่ปล่อยให้ยามาฮ่าครองตลาดนี้มายาวนาน และส่งผลให้ส่วนแบ่งในตลาดรวมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนอีกด้วย อย่างไรก็ตามสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่ายซูซูกิ ก็เปิดตัว เจลาโต้ รถในรูปแบบเดียวกันนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับ สกู๊ปปี้ ไอ เป็นรถจักรยานยนต์ที่พัฒนาและถอดแบบดีไซน์ทรงกลมย้อนยุคมาจากรถรุ่นสกู๊ปปี้ 50 ซีซี ที่วางตลาดในปี 2535 ในประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนั้น ฮอนด้ายังเปิดตัว รถจักรยานยนต์พรีเมียม “Honda PCX” เพื่อเปิดเซ็กเมนท์ใหม่ในฐานะ Top of Scooter มีแผนวางจำหน่ายในเดือนพ.ย. เพื่อกระตุ้นตลาดในไตรมาสสุดท้าย และส่งออกไปทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป และ สหรัฐอเมริกา

นายซากุราอิ กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ ว่า จากปัจจัยบวกต่างๆ ในขณะนี้เชื่อว่าจะส่งผลให้ตลาดรถจักรยานยนต์ในครึ่งปีหลังเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ดังนั้นฮอนด้าได้ปรับการคาดการณ์ตลาดรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.47 ล้านคัน จากเดิมเมื่อต้นปีที่คาดการณ์ไว้ 1.35 ล้านคัน โดยปัจจัยสำคัญคือการที่ค่ายรถต่างผลักดันกลยุทธ์การตลาด และพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาโดยตลอด เช่น เมื่อครั้งที่ฮอนด้าประกาศเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ระบบหัวฉีดเมื่อต้นปี เป็นต้น

ที่มา กรุงเทพฯธุรกิจออนไลน์

เทศกาลรถฮาเลย์-เดวิดสันครั้งแรก และครั้งยิ่งใหญ่แห่งประเทศไทย

คณะบุคคล บี.บี.ดับบลิว กรุ๊ป เผยการจัดงานสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล ไบค์ วีค 2009 งานเทศกาลรถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสันครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี และครั้งแรกของประเทศไทยที่รวมนักขับขี่รถฮาเลย์ฯ ทั้งไทยและต่างชาติกว่า 3 พันคน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ และฟื้นความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจไทย และสถานการณ์ของประเทศ พบกับกิจกรรมไฮท์ไลท์เด็ดภายในงาน เช่น นิทรรศการรถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์ฯ นำขบวนเสด็จ ทีได้รับพระราชทานนามว่า “อัศวิน” และกิจกรรม Ride for the King การจัดขบวนรถฮาเลย์ฯ 250 คัน เป็นสีธงชาติไทย และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่จัดเอาใจคนรัก ฮาเลย์ฯ อย่างแท้จริง

นายชัยภัฎ จันทร์วิไล ประธานคณะบุคคล บี.บี.ดับบลิว กรุ๊ป ผู้จัดงานสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล ไบค์ วีค 2009 กล่าวว่า รถมอเตอร์ไซค์ ฮาเลย์-เดวิดสัน เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมายาวนาน ในแง่ความสง่างาม ความคลาสสิค เสียงดังกระหึ่มน่ายำเกรง มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย รถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน เคยเป็นรถมอเตอร์ไซค์นำขบวนเสด็จของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชอาคันตุกะ และกลายเป็นที่นิยมแพร่หลายในบุคคลชั้นนำของสังคม และบุคคลทั่วไป ส่งผลให้ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน กว่า 10,000 คัน

นายชัยภัฎ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความนิยมรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายประเภทส่งผลให้เกิดการจัดงานเทศกาลรถมอเตอร์ไซค์ ที่เรียกว่า “ไบค์ วีค” ขึ้นเป็นจำนวนมากในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้รักการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้มาร่วมบันทึกเส้นทางการขับขี่ทั่วโลกเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเอง รวมทั้งประเทศไทยเอง ยังมีการจัดงานเทศกาลรถมอเตอร์ไซค์ต่าง ๆ ในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศตลอดทั้งปี แต่ยังไม่เคยมีงานเทศกาลรถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน โดยเฉพาะ อีกทั้งยังไม่เคยพบงานใดจัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่มีความสวยงาม เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของประเทศไทย และเป็นศูนย์รวมผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน ดังนั้น ทางคณะบุคคล บี.บี.ดับบลิว กรุ๊ป จึงริเริ่มจัดงานสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล ไบค์ วีค 2009 ขึ้น โดยมุ่งหวังให้เป็นงานเทศกาลรถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน ครั้งยิ่งใหญ่ระดับสากล และจัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี

งานสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล ไบค์ วีค 2009 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา 08.00-24.00 น. ณ สยามสแควร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมนักขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน กว่า 3 พันคันจากชาติต่าง ๆ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ดีขึ้น และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกรุงเทพมหานคร อันเป็นเมืองที่มีความครึกครื้น เศรษฐกิจมีความคึกคัก ประชาชนรักและสามัคคีกันสื่อสารออกไปทั่วโลก ผ่านการจัดกิจกรรมเทอดพระเกียรติองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เช่น กิจกรรม Honorable “Ride for the King” คือการจัดขบวนขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน ของนักขับขี่ชาวไทย และชาวต่างชาติ จำนวน 250 คัน เป็นสีธงชาติไทย การจัดนิทรรศการรถ “อัศวิน” เพื่อแสดงประวัติรถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน ที่เคยเป็นรถนำขบวนเสด็จ และได้รับพระราชทานนามว่า “อัศวิน” นายชัยภัฎ กล่าว

“นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก เช่น งาน HD. Legend V.I.P Dinner โดยจัดขบวนแห่รถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน รุ่นคลาสสิคที่มีอายุกว่า 50 ปีมาแสดงถึงศักยภาพของรถที่มีโครงสร้างสวยงามมีเสน่ห์ไม่เสื่อมไปตามกาลเวลา อีกทั้งยังแข็งแรงคงทน และทรงพลัง การจัดกิจกรรม Hall of Fame ประกาศรายชื่อผู้มีชื่อเสียงและมีเกียรติในสังคม ซึ่งเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน พร้อมจัดประมูลของที่ระลึกของผู้มีชื่อเสียงทางสังคมเพื่อการกุศลอีกด้วย” นายชัยภัฎ กล่าว

นายชัยภัฎ กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งจุดเด่นภายในงานที่พลาดไม่ได้กับการแสดงรถมอเตอร์ไซค์ฮาเลย์-เดวิดสัน รุ่นคลาสสิค และรุ่นคัสตอม จากประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะรถคัสตอมจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสวยงามและหาชมได้ยาก กิจกรรมคอนเสิร์ต การประกวดแข่งขัน โดยเฉพาะการประกวด Miss Siam International Bike Week สำหรับการจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หน่วยงานประชาสัมพันธ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้สนับสนุนโครงการ เช่น Harley-Davidson of Bangkok Thailand, Road Bomber เมืองไทยประกันชีวิต สิงห์ คอร์ปอเรชั่น ลีวายส์ เครื่องดื่มแฮงค์ ฯลฯ ผู้ที่สนใจสามารถรับทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.siaminternationalbikeweek.com/

ที่มา http://www.newswit.com/

โฆษณา Honda Scoopy-i

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

ททท.มาเลย์ชวนนักท่องเที่ยวลุ้นความเร็วใน World MotoGP

การท่องเที่ยวมาเลเซีย ประจำประเทศไทย เชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทย เตรียมตัวเดินทางไปชมความเร้าใจด้วยความเร็วเหนือระดับของการแข่งขันรถจักรยานยนต์ของแชมป์โลก หรือ World MotoGP Series for 2009 ณ สนาม Sepang Internation Circuit สนามแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รองรับการแข่งขันระดับโกลด์สุดคลาสสิก ในครั้งนี้ ในวันที่ 25 ต.ค.52

ทั้งนี้ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ระดับโลกมาตั้งแต่ปี 1991 และสนามที่ 16 นี้นับเป็นความตื่นเต้นสุดยอดของฤดูการแข่งขัน ผู้ชมจะได้ลุ้นว่า Valentino Rossi จะสามารถนำทีมของเขาชนะเลิศเพิ่อนำไปสู่สนามสุดท้ายที่ Valencia ได้หรือไม่

การท่องเที่ยวมาเลเซีย ระบุว่าเพื่อร่วมลุ้นแบบติดขอบสนาม บริษัทนำเที่ยวชั้นนำในเมืองไทยได้เสนอแพคเก็จทัวร์ในราคาพิเศษพร้อมการเดินทางสะดวกสบาย 5 รูปแบบเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของการเดินทาง ด้วยราคาเริ่มต้น (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) สำหรับการเดินทาง 3 วัน 2 คืน นักท่องเที่ยวยังจะได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมายที่สนาม Sepang Internation Circuit ที่ได้จัดเตรียมไว้มากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sepangcircuit.com

ส่วนที่เหลือ

ขนส่งกาฬสินธุ์เผยพิษเศรษฐกิจ

ขนส่งกาฬสินธุ์เผยพิษเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลให้คนแห่ใช้และจดทะเบียนรถจักรยานยนต์แทนรถยนต์เพิ่มมากขึ้น เหตุต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ระบุยอดชำระภาษีทะลุเป้าได้มากกว่า 91 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 15 เปอร์เซ็นต์

กาฬสินธุ์/ นายสุเทพ นิติวัฒนานนท์ ขนส่ง จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบันส่งผลให้ประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ต่างปรับเปลี่ยนวีถีการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะ ซึ่งจะเห็นได้จากการเข้ามาจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี แต่รถยนต์กลับลดน้อยลง โดยจากข้อมูลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ถึงปัจจุบัน มีประชาชนเดินทางเข้ามาจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ 13,330 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 525 คัน รถเก๋งมีผู้มาจดทะเบียน 956 คัน ลดลง 67 คัน และรถปิกอัพมีผู้มาจดทะเบียน 1,703 คัน ลดลงจากปีที่แล้วเมื่อช่วงเดียวกันจำนวน 725 คัน

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า คาดว่าสาเหตุที่ประชาชนนำรถจักรยานยนต์มาจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง และไม่กล้าใช้เงินฟุ่มเฟือยเหมือนเดิม เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นจึงหันมาใช้รถจักรยานยนต์แทนรถเก๋งและรถปิกอัพ ซึ่งสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าหลายเท่า อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจตกต่ำแต่ยังมีประชาชนเดินทางมาชำระภาษีกับสำนักงานขนส่ง จ.กาฬสินธุ์ โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 จนถึงปัจจุบันรวมยอดชำระภาษี 91,792,351 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 15 เปอร์เซ็นต์

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้สำนักงานขนส่ง จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมมือกับกรมการปกครองในการเรียกข้อมูลทะเบียนราษฎรจากระบบฐานข้อมูลของกรมการปกครองเพื่อใช้เป็นหลักฐานแทน โดยประชาชนที่เดินทางมาจดทะเบียนรถ โอนกรรมสิทธิ์รถ แจ้งย้ายแก้ไขรายการทางทะเบียน หรือขอรับใบอนุญาตขับรถ ไม่ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมา ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ทางสำนักงานขนส่งกาฬสินธุ์ยังได้นำเอาเทคโนโลยีเครื่องบาร์โค้ดมาใช้ในการอ่านและบันทึกข้อมูลทะเบียนรถ ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการดำเนินการจดทะเบียนรถได้เร็วขึ้นเป็นอย่างมากอีกด้วย

ที่มา www.banmuang.co.th

ยักษ์ "จักรยานยนต์" เครื่องร้อน ศึกชิงส่วนแบ่ง "เรโทสไตล์" เดือด

จากการประเมินตัวเลขยอดขายในปีนี้ ที่ว่ากันว่ารถจักรยานยนต์จะมีความสามารถอยู่ในระดับแค่ ล้านกว่าคัน ทำให้ทุกค่ายต้องออกแรงกันอย่างหนัก และตลาดที่ลูกค้าให้การตอบรับมากที่สุด ยังคงเป็นตลาดครอบครัว ด้วยรูปลักษณ์รถจักรยานยนต์แบบย้อนยุค ก่อให้เกิดกระแส "เรโทฟีเวอร์"

ตลอดช่วงระยะเวลาเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดนี้กินส่วนแบ่งไปแล้วกว่า 5 แสนคัน หรือเกือบ 40% ในตลาดออโตเมติก ดังนั้นใครมองข้ามตลาดนี้ "สอบตก" แน่นอน

ตลาดเรโทที่กำลังถูกจับตามอง เราคงต้องยกความดีทั้งหมดให้ผู้นำเทรนด์อย่าง "ยามาฮ่า" ที่กล้าตัดสินใจส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติก "ยามาฮ่าฟีโน" ที่ปล่อยรถรุ่นนี้ออกสู่ตลาดเมื่อเดือนกันยายน 2549 จนทำให้ตอนนี้ ไม่ว่ายักษ์ใหญ่อย่าง ฮอนด้า หรือเบอร์สาม ซูซูกิ ก็พร้อมใจกันลงสนามนี้กันอย่างเต็มตัว

ย้อนหลังกลับไปนิด การสร้างกระแส "เรโทฟีเวอร์" ไปในกลุ่มลูกค้า แทบจะเรียกได้ว่ายามาฮ่าเขาทำได้โดนใจกันไป ทุกเพศ ทุกวัย ด้วยดีไซน์ของตัวรถออกแนวโมเดิร์นดีไซน์แบบย้อนยุค ส่งผลให้ ยามาฮ่าค่อยๆ ตีกินส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น เห็นได้จากสัดส่วนยอดขายของรถจักรยานยนต์ในกลุ่มเกียร์อัตโนมัติ จะพบว่ายามาฮ่ามีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 53% ตามมาด้วยฮอนด้า 44% และซูซูกิ 2% ส่งผลให้ยามาฮ่ากลายเป็นเจ้าตลาด และตีตื้นยอดขายรวมได้อย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่ง กรณีศึกษา แม้ว่าก่อนหน้านี้ ค่ายเบอร์หนึ่งอย่าง "ฮอนด้า" เองเคยออกมาประกาศเสียงดังฟังชัดว่าไม่มีนโยบายเอารถ ประเภทนี้มาทำตลาดอย่างแน่นอน แต่ผลความสำเร็จของ "ยามาฮ่า" ทำให้ทั้ง "ฮอนด้า" และ "ซูซูกิ" ต้องขอเกาะกระแส "เรโท" ด้วย ข่าวแว่วว่าค่ายฮอนด้า ซุ่มศึกษาตลาดมานานพอสมควร แต่ช่วงที่ซุ่มศึกษา ก็ปล่อยให้ "ยามาฮ่า" กวาดยอดแบบผูกขาดไว้คนเดียวมาตลอด 3 ปี

ความร้อนแรงของ "เรโทฟีเวอร์" เดือดปุดๆ ขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันนี้ "ซูซูกิ" ขอส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติกแนวเรโทสไตล์อย่าง "เจลาโต้" ออกสู่ตลาด ด้วยรูปลักษณ์และดีไซน์ที่ย้อนยุค ผสานกับความทันสมัย เก๋ไก๋ ของรถคูลๆ คันนี้ จะช่วยให้ยอดขายของซูซูกิที่อยู่ในช่วงขาลง ดีดกลับมียอดขายเปลี่ยนเป็นขาขึ้นกับเขาบ้าง

ภายใต้แนวคิดรถต้นแบบ 2 รุ่นมารวมกัน คือ "ซูซูกิเจลลี่" และ "ซูซูกิลาเต้" มาผสมไว้ด้วยกันจนออกมาเป็นรถ"เจลาโต้" คันนี้ ส่วนแผนการรุกตลาด ของ "เจลาโต้" นั้น ซูซูกิเตรียมจัดโรดโชว์ทั่วประเทศไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ โดยเริ่มต้นเดินสายจากกรุงเทพฯไปยังหาดใหญ่, เชียงใหม่, โคราช, พัทยา และปิดท้ายด้วยกรุงเทพฯ

งานครั้งนี้ ซูซูกิยังได้ส่ง "นิชคุณ" พรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดร่วมนำพาความสนุก ความสดใสของ "เจลาโต้" ไปให้ลูกค้าทั่วประเทศ ภายใต้เป้าหมายยอดขายที่ 5,000-6,000 คันต่อเดือน

จะเห็นได้ว่า ตลอดช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่าน ค่ายซูซูกิเองได้พยายามเดินหน้าสร้างแบรนด์และปรับปรุงโชว์รูมร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความหวังที่จะผลักดันให้ยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดขยับเพิ่มอันดับขึ้น

ขณะที่ค่ายฮอนด้าก็เกาะกระแส "เรโทสไตล์" เช่นเดียวกัน แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็เริ่มมีการสร้างกระแสให้กับ "ฮอนด้าสกู๊ปปี้" กัน เห็นได้จากทีเซอร์ภาพยนตร์โฆษณาสั้นๆ ผ่าน หน้าจอ ขณะเดียวกันก็มีการสื่อสารให้เห็นถึงความเป็นมาของรถรุ่นใหม่ว่ามีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี 1992 ชนิด ที่เรียกว่า "ฮอนด้า" ขอออกตัวแบบแรง ชี้ให้เห็นชัดๆ ว่า "สกู๊ปปี้" คันนี้มิใช่ผู้ตามแต่อย่างใด เห็นได้จากพัฒนาการที่มีมาอย่างยาวนานนั่นเอง สำหรับ "สกู๊ปปี้" คันนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "โค้งมน น่ารัก สนุก" ไปกับระบบหัวฉีด PGM-FM กับความสนุก มันส์ รู้กัน ฟันยูไนเต็ด

ใส่กันแรงๆ แบบนี้...คงต้องติดตามกันต่อว่า ความเป็นเจ้าตลาดบวกกับการสร้างกระแสจุดพลุให้กับรถคันนี้ โดยถ่ายทอด ผ่านพรีเซ็นเตอร์ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" และ "แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา" พร้อมทั้งเตรียมเดินสายสร้าง กระแสผ่านเสียงเพลง ด้วยการเข้าไปเป็น ผู้สนับสนุนคอนเสิร์ตที่มีศิลปินชื่อดัง อาทิ โมเดิร์นด็อก, บิ๊กแอส, ที-โบน ที่จะเดินสายไปยัง 4 จังหวัด 4 ภูมิภาค คือชะอำ, เชียงใหม่, เขาใหญ่ และกระบี่ เช่นกันจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด

เมื่อ 3 ค่ายยักษ์ประกาศตัวพร้อมที่จะวิ่งสู้ฟัดกันใน "เซ็กเมนต์" นี้ แน่นอนเจ้าตลาดอย่าง "ยามาฮ่า" ก็คงต้องเตรียมไม้เด็ดรับน้องใหม่ทั้ง "ฮอนด้า" และ "ซูซูกิ" ไว้เป็นอย่างดี "ยามาฮ่า" คงจะอยู่นิ่งไม่ได้และโดยวิสัยของ "ยามาฮ่า" ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนร่วมกับกิจกรรมทางการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าภาพการแข่งขันในสมรภูมิของรถจักรยานยนต์ "เรโทสไตล์" จะสนุกและขับเคี่ยวกันไม่น้อยไปกว่าสมรภูมิการแข่งขันในตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวม

ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติ

ฟีโน่-เจลาโต หลบไป “สกู๊ปปี้ ไอ”มาแล้ว

วันนี้ (14 ก.ย.) บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดตัวรถจักรยานยนต์ออโตเมติก รุ่นใหม่ “สกู๊ปปี้ ไอ” สไตล์แฟชั่นคลาสสิค ชูจุดเด่นเครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI ออปชัน-สีสันมีให้เลือกเพียบ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้าขาย 150,000 คันต่อปี
“สกู๊ปปี้ ไอ” ได้รับการถ่ายทอด DNA ความ “โค้งมน น่ารัก ” ลุคออรินอลจากญี่ปุ่นแท้ ผสานความทันสมัย กับไฟหน้าชุดใหญ่ดีไซน์แบบสองโคมที่ Built-in ทั้ง“บิ๊กอาย” ไฟหน้าส่องสว่างดวงโต และ “มินิอาย” ไฟหรี่ดวงเล็กแบบโปรเจคเตอร์ (Round Grand Headlight) นับเป็นครั้งแรกของการดีไซน์ไฟหน้ากับรถจักรยานยนต์ พร้อม Superior Front Bushing กรอบเฟรมบังลมหรู ดีไซน์แยกชิ้น ที่มากับ Chic Mirror กระจกข้างดีไซน์เก๋ สามารถจะถอดปรับเปลี่ยนได้

ด้านไฟเลี้ยวดีไซน์แยกส่วน (Modern Classic Winker) ช่วยย้ำภาพความคลาสสิค โดดเด่นกับ Duo Dashing Classic Meter เรือนไมล์มิเตอร์คู่ดูเรียบหรู กับไฟแสดงความพร้อมของเครื่องยนต์ ที่มาพร้อม Deluxe Tail-Light ไฟท้ายขนาดใหญ่ และมือจับหลังชุบโครเมี่ยม

เบาะนั่งสไตล์ “คอมฟอร์ท ซีท” พร้อมกล่องเก็บของอเนกประสงค์ใต้เบาะนั่ง (U-Box) รวมถึงCurvy Muffler Cover แผ่นกันความร้อนท่อไอเสีย ทรงรี, Front Disk Brake ดิสก์เบรกหน้า ลูกสูบเดี่ยว พร้อมคาลิเปอร์สีแดงในซีรีย์ “Fun” และสีทองในซีรีย์ “Cute” และ “Prestige”
สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยมีทั้ง ระบบกุญแจนิรภัยสองชั้น (Automatic Key Shutter) มีม่านปิดอัตโนมัติทันทีที่ล็อคคอรถ พร้อมพรายน้ำเรืองแสงช่วยให้มองเห็นในยามค่ำคืน, Brake Lock Lever สวิตซ์ล็อกล้อขณะจอด ไม่ลื่นไถล แม้ทางลาดชัน, Side Stand Switch สวิตซ์ตัดการทำงานเครื่องยนต์ เมื่อเอาขาตั้งข้างลง ป้องกันการบิดคันเร่งขณะจอด

“สกู๊ปปี้ ไอ” มีให้เลือก 7 ลวดลายหลากสีสันใน 3 ซีรีย์ คือ “Fun” ความสนุก...ลุ๊คสปอร์ต แบบพิเศษกับกราฟิกอิมเมจรถแข่งคัน เบาะนั่งทูโทน มีสีสัน 3 แบบ คือ ขาว–แดง (White-Red), ดำ–แดง (Black-Red) และน้ำเงิน–ดำ (Blue-Black) ซีรีย์ที่สอง “Cute” ความสนุกควบความน่ารัก พร้อมกราฟิกไอวี ร็อคโคโค่ กับแฟชั่นมงกุฏสุดเปรี้ยว มีสีสัน 2 แบบคือ ชมพู–ขาว (Pink-White) และเขียว–ขาว (Green-White) และซีรีย์ท้ายสุด “Prestige” ความสนุกเท่มีระดับ พิเศษเฉพาะแนวกับ Cover Center สีทอง เพิ่มความมีระดับกับไฟหรี่สีขาว มีสีสัน 2 แบบ คือ ดำ–น้ำตาล (Black-Brown) และ ขาว–น้ำตาล (White – Brown)

ด้านเครื่องยนต์ 110 ซีซี 4 จังหวะ พร้อมหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยอากาศ ประหยัดน้ำมันมากถึง 49 กม./ลิตร ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ 6 รองรับน้ำมัน E20 ได้การรับประกันคุณภาพอุปกรณ์ระบบหัวฉีด PGM-FI นานถึง 5 ปี หรือที่ 50,000 กิโลเมตร

ฮอนด้าเตรียมวางขาย “สกู๊ปปี้ ไอ” อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 25 กันยายนนี้ สนนราคาเริ่มต้น 44,300 บาท และพิเศษสำหรับลูกค้าที่ออกรถ 10,000 คันแรก จะได้รับชุดของขวัญ “Scoopy i Collection” กับชุดแจ็คเก๊ต หมวกกันน็อคสีสันเดียวกับตัวรถ จนถึง 15 ตุลาคมนี้ หรือจนกว่าของจะหมด

ที่มา http://www.manager.co.th/

“อินสไพร์ฯ” จับมือ “ซูซูกิ” เปิดเวทีแห่งฝัน “Miss Teen Thailand 2009 by Suzuki Jelato

บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการประกวด Miss Teen Thailand เวทีการประกวดอันดับหนึ่งของสาวใสวัยทีนจับมือกับ “ซูซูกิ“ จัดงานแถลงข่าวการประกวด “Miss Teen Thailand 2009 By Suzuki Jelato” เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้วัยรุ่นยุคใหม่ ได้มีโอกาสแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ พร้อมผลักดันให้ก้าวสู่เวทีการประกวดในระดับสากลต่อไปใน อนาคต

การประกวด “Miss Teen Thailand” คือเวทีแห่งความฝันกับรางวัลสู่ดวงดาว กับการประกวดอันดับ หนึ่งของสาววัยทีนทั่วประเทศ โดยคัดเลือกสาวสวยวัยใสที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี ที่มีความน่ารักสดใสตามแบบ ฉบับสาวรุ่นใหม่มาประชันความสามารถ ซึ่งการประกวด “Miss Teen Thailand 2009 By SuzukiJelato” ปีนี้จัด ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Glamorous Princess” เปรียบสาวน้อยวัยทีนเป็น “เจ้าหญิงแห่งความฝันผู้เจิดจรัส” ดุจประกายความน่ารักของสาววัยทีน ในดินแดนแห่งนี้ ที่สามารถตามหาความฝันของตัวเองจนเป็นจริงได้


ภายในงานแถลงข่าวการจัดการประกวด “Miss Teen Thailand 2009 By Suzuki Jelato” พร้อมการ เผยโฉมของรถจักรยานยนต์ออโต้หัวฉีดอัจฉริยะสไตล์แฟชั่นสุดน่ารักล่าสุดของเมืองไทย “Suzuki Jelato 125” และจากความโดดเด่นที่แตกต่าง ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัยอินเทรนด์ ของ “Suzuki Jelato 125” ที่ได้นักร้องสุดฮอตระดับเอเชียอย่าง “นิชคุณ” เป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งเพิ่มภาพลักษณ์ของแบรนด์ “Suzuki Jelato 125” ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นที่รักแฟชั่นสุด Cute ได้อย่างดีเยี่ยม โดยการเข้าร่วมกับกิจกรรมนี้ ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ และโอกาสที่ดีแก่ กลุ่มเซกเมนต์ ที่เป็นผู้หญิงวัยทีนได้อย่างครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งมีกิจกรรมมากมายที่จะตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของวัยทีน เพื่อให้ได้สัมผัสกับรถจักรยานยนต์ “Suzuki Jelato 125” อย่างใกล้ชิด ร่วมไปกับการแสดงออกถึงความน่ารัก ของสาววัยทีนในแต่ละภาค เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ชนะเลิศการประกวด “Miss Teen Thailand 2009 By Suzuki Jelato” และได้รับตำแหน่ง “Miss Suzuki Jelato” พร้อมรางวัลรถจักรยานยนต์ “Suzuki Jelato 125” ไปครองด้วยเช่นกัน การประกวด “Miss Teen Thailand 2009 By Suzuki Jelato” จะทำการประกวดรอบตัดสิน ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม 2552 โดยสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จะถ่ายทอดรอบตัดสินให้ผู้ชมได้รับชมกัน สาว
สวยวัยทีนที่คว้าตำแหน่งจากเวทีการประกวด “Miss Teen Thailand 2009 By Suzuki Jelato” จะได้รับเงินรางวัล 120,000 บาท, มงกุฎเพชร, สายสะพาย, เข็มกลัด, รถจักรยานยนต์ “Suzuki Jelato 125” ฯลฯ


ที่มา http://www.spsuzuki.com/

ยามาฮ่าร่วมสร้างศิลปินประดับวงการ ใน HOT MUSIC AWARDS ครั้ง

ยามาฮ่าร่วมสร้างศิลปินระดับมัธยมศึกษา - อุดมศึกษาประดับวงการ ใน HOT MUSIC AWARDS ครั้งที่ 14 พลิกประวัติศาสตร์ค้นหาสุดยอดวงดนตรี 2 รุ่นบนเวทีเดียว!!

ยามาฮ่า ผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติก สนองกลยุทธ์ “มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง” (Music Marketing) จับมือ Hot FM 91.5 ร่วมเป็นหนึ่งในการก้าวสู่เส้นทางดนตรีของคนรุ่นใหม่ กับ “HOT MUSIC AWARDS” เป็นปีที่สองติดต่อกัน

“HOT MUSIC AWARDS” การประกวดวงดนตรีครั้งสำคัญ ของเด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษา และในปีนี้ยังเปิดโอกาสให้ระดับอุดมศึกษาสามารถสมัครเข้าร่วมประกวดเป็นครั้งแรก เพื่อค้นหาสุดยอดวงดนตรีหน้าใหม่ และสนับสนุนให้ เป็นศิลปินจริง เป็นนักดนตรีจริง ออกผลงานเพลงจริง เป็นอัลบั้มแรกของชีวิต อัลบั้มแรกแห่งศักดิ์ศรี จากเวทีอันทรงเกียรติ “HOT MUSIC AWARD ครั้งที่ 14”

“HOT MUSIC AWARDS”โครงการที่ได้รับการยอมรับให้เป็นเวทีสร้างคนดนตรีมืออาชีพตัวจริง ด้วยศิษย์รุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ อาทิ BODYSLAM / CLASH / กะลา / มะลิ / No More Tear และอีกมากมาย จึงเป็นเครื่องการันตีศักยภาพและความยิ่งใหญ่ของเวทีแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน

เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 2 ตุลาคมนี้เท่านั้น
• ประกาศผล 30 วง ที่ผ่านการคัดเลือก ในวันอังคารที่ 6 ตุลาคม 52
• ประกวดรอบรองชนะเลิศ ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 17-18 ตุลาคม 52 ณ The Mall งามวงศ์วาน
• ประกาศผลวงที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ ในวันพุธที่ 21 ตุลาคม 52
• ประกวดรอบชิงชนะเลิศ ในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 52 ณ อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก พร้อมชมคอนเสิร์ตจากศิลปินรุ่นพี่อย่าง BODYSLAM / CLASH / KALA / RETROSPECT / NO MORE TEAR

ที่มา http://www.yamaha-motor.co.th/

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

ใช้แล้วรวย

รุกเข้มไปอีกขั้น

สำหรับค่ายพี-ไบค์ (P-bike) ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ "สตาเลี่ยน" (STALLION) ยนตรกรรมร่วมทุนระหว่างกลุ่มทุนยานยนต์ของจีนและยามาฮ่า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น

โดยภายหลังจากเริ่มทำตลาดรถจักรยานยนต์สตาเลี่ยนในบ้านเราตั้งแต่เมื่อต้นปีนี้ เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย เพราะได้ "น้องอร" อุดมพร พลศักดิ์ ฮีโร่สาวผู้สร้างประวัติศาสตร์โอลิมปิก "เหรียญทองแรกของหญิงไทย" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สตาเลียน รุ่นบัดดี้ให้กระหึ่มลั่น

"เสี่ยย้ง" เกรียงไกร ลาภจตุรพิธ กรรมการผู้จัดการค่ายพี-ไบค์ ได้เพิ่มระดับการทำตลาดให้เข้มข้น ด้วยการนำรถจักรยานยนต์สตาเลียนมาติดล้อพ่วงข้าง เพื่อให้เป็นรถพ่วง พร้อมดัดแปลงเป็นรถค้าขาย ใช้ทำมาหากินได้หลากหลายธุรกิจ

ไม่ว่าจะเป็นรถขายน้ำผลไม้ปั่น รถขายกาแฟ รถขายไอศครีม รถขายผลไม้ รถขายหนังสือพิมพ์ และรถซุบเปอร์มาร์เกตเคลื่อนที่ขนาดย่อม เป็นต้น

เรียกว่าโดนใจเถ้าแก่เอสเอ็มอียุคใหม่!! โดยพี-ไบค์พร้อมรับออกแบบและรังสรรค์ให้ตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า พร้อมการันตีคุณภาพเพราะทำจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ISO 9001

สำหรับล้อพ่วงข้างยังเป็นล้อแม็ก มีเบรกล้อที่สาม พร้อมไฟเลี้ยว และไฟท้ายเสริม จึงไว้ใจได้ในเรื่องความปลอดภัย และยังสามารถจดทะเบียนได้

ระบบกันสะเทือนมีทั้งแบบโช๊คหรือแหนบให้เลือก รับน้ำหนักได้เป็นเยี่ยม ขณะที่ตัวพ่วงข้าง สามารถถอดแยกออกจากตัวรถได้แบบชิวๆ แค่เพียงถอดนอต 3 ตัวเท่านั้น

ในส่วนของตัวรถเป็นสตาเลียน รุ่นบัดดี้ ขนาด 102 ซีซี 4 จังหวะ สุดยอดประหยัดน้ำมัน ขณะนี้พี-ไบค์ได้จับมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และแม็คโคร ร่วมสนับสนุนโครงการเสริมสร้างอาชีพ เสริมรายได้

เพื่อให้ผู้ว่างงาน, นักศึกษาจบใหม่ และผู้กำลังมองหาอาชีพเสริมมาถอยรถจักรยานยนต์สตาเลียนบัดดี้ เอสเอ็มอี ด้วยเงื่อนไขสบายๆ ทั้งนี้ ระหว่าง 11-13 ก.ย.นี้ ค่ายพี-ไบค์จะโชว์สตาเลียน บัดดี้ เอสเอ็มอี รถพ่วงข้างทำมาหากิน ในงานตลาดนัดโชห่วย ที่อิมแพค เมืองทองธานี

น่าสนใจไม่น้อย!!

ที่มา หนังสิอพิมพ์ไทยรัฐ

"ฟีม" เผยบดกับ "เดอ โรซา" จนแหกโค้งที่มิซาโน

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ จีพี เผยเบื้องหลังอุบัติเหตุที่ทำให้ต้องหลุดโค้งจนไม่จบการแข่งขันที่ซานมาริโน เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมยอมรับสุดผิดหวังแต่ยังไม่ท้อ โดยเจ้าตัวเตรียมบินกลับเมืองไทยในวันที่ 9 ก.ย.นี้

หลังจากที่ "เจ้าฟีม" ต้องพลาดเก็บคะแนนสะสมในศึกมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกรุ่น 250 ซีซี เป็นสนามที่ 2 ติดต่อกันหลังประสบอุบัติเหตุในช่วง 5 รอบสุดท้าย ขณะที่กำลังบิดอยู่ในอันดับที่ 8 ในศึกซานมาริโน จีพี ที่สนามมิซาโน

ล่าสุดนักบิดไทยฮอนด้า-พีทีที-แซค ออกมาเผยถึงเบื้องหลังว่า "มันเป็นสิ่งที่น่าอายอีกครั้งที่รถล้มและจบการแข่งขันโดยไม่มีแต้ม ผมพลาดที่จะจบอันดับที่ดีอีกครั้งทั้งๆที่มีโอกาส ผมพยายามสุดๆที่จะแซงคู่แข่งข้างหน้า จังหวะที่ผมแซงเฟาเบลขึ้นไปที่ 8 ผมต้องเสียอันดับให้ ราฟาเอล เดอ โรซา"

"ซึ่งต่อมา เมื่อผมต้องหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับเขา มันทำให้ล้อหลังผมปัดพร้อมกับเสียการควบคุมเรซของผมจบลงตั้งแต่วินาทีนั้น สภาพร่างกายของผมมีรอยถลอกที่หลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ที่เจ็บใจที่สุดคือการต้องออกทั้งที่เรากำลังทำผลงานได้ดี" ฟีมร่ายยาว

พร้อมกันนี้ "เจ้าลิงน้อย" ยังเผยถึงการพักเบรกร่วม 1 เดือนก่อนจะแข่งสนามต่อไปที่โปรตุเกสวันที่ 4 ต.ค.นี้ว่า "จากนี้ไปผมจะกลับไปฟื้นฟูสภาพร่างกายที่เมืองไทย รวมถึงเรียกความมั่นใจครั้งสุดท้ายเพื่อเก็บแต้มให้ได้ใน 4 เรซสุดท้ายของปี"

สำหรับ รัฐภาคย์ ที่พลาดไม่จบการแข่งขันมา 2 สนามติดต่อกัน หล่นจากอันดับ 14 ในตารางแชมเปียนชิป รุ่น 250 ซีซี ไปอยู่อันดับที่ 15 ด้วยการมี 43 คะแนนตามหลังคาเรล อับบราฮัม อยู่ 1 แต้ม โดยเจ้าตัวมีคิวกลับถึงเมืองไทย วันที่ 9 ก.ย.นี้

ที่มา http://www.manager.co.th/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง