วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ยามาฮ่าร่วมส่ง 2 นักกีฬาทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตวอลเลย์ระดับโลก

คุณพรสรรค์ กำลังเอก นายกสมาคมฟุตวอลเลย์ (นั่งกลาง) ดร.กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ทรูวิชั่นส์ (นั่งขวา) และคุณอัญชลี ศรีพิทักษ์ ตัวแทนจาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (นั่งซ้าย) ร่วมถ่ายภาพ และให้กำลังใจกับคณะผู้ฝึกสอน และนักกีฬา เพื่อเข้าแข่งขันในรายการ “โอเพ่น อินเตอร์เนชั่นแนล ฟุตวอลเลย์2009” ณ เมืองมาร์กเซย์ ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 30 ก.ค. – 2 ส.ค. นี้

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=1004

มอบแล้ว! รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกไอ ลายเซ็นลิเวอร์พูล คันเดียวในโลก

รถจักรยานยนต์คันเดียวในโลก: ดร. อรรณพ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด มอบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกไอ มีเพียงคันเดียวในโลกเท่านั้น ที่มีลายเซ็นต์นักฟุตบอลทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มอบให้กับแฟนบอลชาวไทยผู้โชคดี คุณพรชิตา ธรรมสังวาลย์ ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3

เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2009/2009_page120.asp?id=2085

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วาเลนติโน่ รอสซี่ บิด M1 เข้าอันดับ 5 แต่คะแนนสะสมยังคงนำโด่งต่อไป

ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “MotoGP 2009” สนามที่ 10 จัดขึ้น ณ สนามแข่งโดนิงตันปาร์ค ประเทศอังกฤษ ตัวแปรสำคัญในสนามนี้อยู่ที่สภาพอากาศมีฝนตกลงมาเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันอย่างยิ่ง โดยสองนักแข่งทีมยามาฮ่าเฟี๊ยต ต่างพลาดล้มด้วยกันทั้งคู่ แต่ “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ ยังนำรถเข้าแข่งขันต่อได้และจบด้วยอันดับที่ 5 อย่างไรก็ดี ยามาฮ่ายังรั้งตำแหน่งบนโพเดี้ยมได้ทุกสนาม 100% เมื่อ คอลิน เอ็ดเวิร์ด ทีมยามาฮ่า Tech3 ฟอร์มเยี่ยม คว้าอันดับ 2 มาครอง เมื่อรวมคะแนนสะสม รอสซี่ยังครองอันดับ 1 ด้วยคะแนน 187 แต้ม ส่วนลอเรนโซ่ก็ยังรั้งอันดับ 2 มี 162คะแนน

หากไม่นับสภาพอากาศ 2 นักบิดยามาฮ่าเฟี๊ยตทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่วันซ้อม ก่อนรอสซี่จะนำยามาฮ่า YZR-M1ควอลิฟายมาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 1 นาที 28.116 วินาที แม้จะมีปัญหาเรื่องยาง ส่วนลอเรนโซ่ก็ไม่ธรรมดา ติดปัญหาเรื่องยางควอลิฟายเช่นกัน แต่ท้ายสุด ก็ยังออกสตาร์ทในอันดับ 3 เวลา 1 นาที 28.402 วินาที ดูแล้วน่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่สนุกเร้าใจอย่างแน่นอน

แต่เอาเข้าจริง ปรากฏว่ามีฝนตกลงมา แม้จะหยุดแล้ว แต่แทร็คยังหมาด และอาจมีฝนตกได้ทุกเมื่อ ทำให้ทีมมีปัญหาเรื่องการเลือกยางพอสมควร เกมออกสตาร์ทมา “เดอะด็อกเตอร์” รอสซี่ ทะยานเข้าโค้งแรกได้ก่อนใคร แต่สภาพสนามที่ยังชื้น ทำให้รอสซี่ไม่กล้าขับขี่เต็มที่ เป็นโอกาสให้กลุ่มหลังไล่บวกจนโทนี่ อิไลอัส แซงขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงเมื่อจบรอบแรก ตามด้วยลอเรนโซ่ และรอสซี่ ถัดจากนั้นมาอีก 2-3 รอบ ตำแหน่ง 5 อันดับแรกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จนถึงรอบที่ 5 ลอเรนโซ่ได้จังหวะแซงขึ้นมาเป็นผู้นำ ส่วนรอสซี่ก็สวนแดเนี่ยล เปโดรซ่า และอังเดร โดวิซิโอโซ่ ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 เกมดูจะเป็นหนังม้วนเดิมอีกครั้งจนถึงรอบที่ 9 ลอเรนโซ่ไหลออกไปทับเส้นขาวช่วงขาออกโค้งสุดท้าย ลื่นล้ม ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย

คู่ชิงจึงตกอยู่กับรอสซี่ และโดวิซิโอโซ่ ซึ่งทั้งคู่บวกหนีกลุ่มหลังได้อย่างน่ากลัว กระทั่งรอบท้ายๆ จุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น เมื่อฝนเริ่มปรอยลงมา ทำให้ในรอบที่ 20 รอสซี่ล้มพับในโค้งซะดื้อๆ แต่ยังนำรถกลับเข้าแข่งขันต่อได้ แต่อันดับร่วงไปอยู่ที่ 11หลังจากนั้น ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนนักแข่งบางคนตัดสินใจเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางน้ำ แต่รอสซี่ไม่เปลี่ยน ก่อนแซงเจมส์ โทสแลนด์ คว้าอันดับ 5 มาครอง แม้สนามนี้รอสซี่ไม่สามารถคว้าแชมป์มาครอง แต่ตัวเต็งคนอื่นก็ทำอันดับได้ไม่ดีเช่นกัน โดยแชมป์ตกเป็นของโดวิซิโอโซ่ อันดับ 2 คอลิน เอ็ดเวิร์ด นักบิดสังกัดยามาฮ่า Tech3 และอันดับ 3 แรนดี้ เดอ ปูเนี๊ยต

เดอะด็อกเตอร์ รอสซี่ ยังมีคะแนนสะสมนำเป็นจ่าฝูง ทิ้งห่างอันดับสองลอเรนโซ่ 25 แต้ม ทิ้งสโตนเนอร์อันดับ 3 ถึง 37แต้ม ส่วนอันดับ 4 เปโดรซ่า ก็โดนทิ้งห่างถึง 72 แต้มเลยทีเดียว ซึ่งรอสซี่ให้สัมภาษณ์ว่า “ในจังหวะที่ลอเรนโซ่ล้ม ผมคิดว่าตำแหน่งแชมป์ไม่น่าจะหนีไปไหน แต่ภายใต้สภาพอากาศที่ไม่สามารถกำหนด อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ผมแซงโดวิซิโอโซ่ การขับขี่ภายใต้สถานการณ์ฝนตกด้วยยางสลิคเป็นอะไรที่เสี่ยงมาก โค้งซ้ายที่เราล้มเป็นจังหวะใช้หน้ายางเย็นสัมผัสพื้น ทำให้ผมลื่นล้ม โชคดีที่ผมล้มเบาๆ รถไม่เสียหายมาก ทำให้ขับขี่ได้ต่อ และผมไม่ตัดสินใจเปลี่ยนยาง ทำให้เราคว้า11 คะแนนมาได้ สุดท้ายผมขอแสดงความยินดีกับโดวิซิโอโซ่ โดยเฉพาะเอ็ดเวิร์ด เขาขับขี่ได้เยี่ยมยอดมาก”

ทางด้านลอเรนโซ่ก็ออกมากล่าวถึงเกมว่า “ผมออกสตาร์ทได้ดี ขับขี่ได้ดีในรอบแรกๆ และไม่รู้สึกกดดันเมื่อขึ้นนำ น่าผิดหวังที่โค้งสุดท้ายของรอบ 9 ผมทำพลาดนิดหน่อย ขี่ไลน์ผิด ทำให้รถวิ่งทับเส้นขาวที่ลื่นมาก และผมไม่สามารถควบคุมรถได้แล้วรถเสียหายมาก ต้องออกจากการแข่งขัน แน่นอนว่าผมทั้งผิดหวัง และเสียใจ วันนี้ไม่ใช่วันของเรา ช่วงวันหยุดผมจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ และกลับมาแข่งขันอีกด้วยศักยภาพที่สูงกว่านี้ที่เบอร์โน่”

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=1003

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

หนึ่งเดียวในโลก Click i Liverpool

หนึ่งเดียวในโลก: บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ตอบรับกระแสความสนุกครั้งใหม่ ทุ่มเอาใจคอบอลชาวไทยโดยเฉพาะ เนรมิตรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกไอรุ่นพิเศษ ที่มีลายเซ็นต์นักฟุตบอลทีมลิเวอร์พูล ให้กับแฟนบอลและแฟนๆ ชาวเดอะค๊อบทั่วประเทศ โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคันพิเศษดังกล่าวนี้ มีเพียงคันเดียวในโลกเท่านั้น ซึ่งได้เปิดโอกาสให้แฟนบอลทั่วประเทศร่วมสนุกลุ้นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกไอรุ่นพิเศษ ลายเซ็นต์นักฟุตบอลทีมลิเวอร์พูลนี้ ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ที่ผ่านมา

เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2009/2009_page119.asp?id=2084

โครงการ สถานีมอเตอร์ไซค์ น้ำใจงาม ถวายพ่อหลวง

นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานรับมอบ/และเปิดสถานีมอเตอร์ไซค์ น้ำใจงาม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา แห่งแรก ณ ส่วนป่าวิภาวดี จากบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ช่วยฯ ที่ปรึกษารมว. อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมเปิดตัว พร้อมปล่อยวินมอเตอร์ไซด์น้ำใจงามที่ผ่านการฝึกอบรมแล้วรุ่นแรกจำนวน 200 คน

นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในปัจจุบันพบว่า อุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์มีตัวเลขสูงถึงปีละประมาณ 9,000 ราย คิดเป็น 70% ของอุบัติเหตุทั้งหมด ดังนั้นเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงร่วมกับ กรุงเทพมหานคร บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สมาคมประกันวินาศภัย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย มุ่งสร้างความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนที่ใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง ภายใต้โครงการ “สถานีมอเตอร์ไซค์ น้ำใจงาม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระชนมพรรษา 84 พรรษา” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงของเรา เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ท่านมีพระชนม์มายุครบ 84 พรรษา โดยจัดหลักสูตรการเรียนรู้และเข้าใจถึงหลักการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้องและปลอดภัย สร้างจิตสำนึกในการให้บริการ เคารพกฎจราจร มีน้ำใจขับขี่ปลอดภัยเอื้อเฟื้อแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรม ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวิน มอเตอร์ไซค์และร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างยั่งยืนด้วย

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทกลางฯ ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยได้ดำเนินการจัดทำสถานีมอเตอร์ไซค์ น้ำใจงาม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระชนมพรรษา 84 พรรษา จำนวน 84 สถานี และมอบให้กับกรุงเทพมหานคร จำนวน 60 สถานี เพื่อติดตั้งสถานีใน 50 เขตที่คัดเลือก ขนาดสถานีมอเตอร์ไซค์ กว้าง 4 เมตร ลึก 2.70 เมตร มีไฟส่องสว่าง มีที่นั่งสำหรับประชาชน มีบอร์ดติดรูปถ่ายของผู้ขับขี่ในวินฯทุกคน ติดราคาค่าโดยสารตามระยะทาง ที่แขวนหมวกนิรภัย สำหรับผู้โดยสาร บอร์ดประชาสัมพันธ์สำหรับสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ. เมื่อประสบอุบัติเหตุจากรถจะได้รับความคุ้มครองเท่าไร และต้องทำอย่างไร อีกทั้งยังมีกิจกรรม สุภาพบุรุษวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อค้นหาสุภาพบุรุษวินมอเตอร์ไซค์ที่ให้บริการดี ไม่มีการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการ กิจกรรมสถานีมอเตอร์ไซค์สะอาด ปลอดภัย เพื่อค้นหาสถานีมอเตอร์ไซค์ที่ดูแลรักษา ให้สถานีฯ สะอาด ปลอดภัย ดูแลรักษาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ในปี 2553 จะขยายผลการดำเนินการในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัดอีก 24 สถานี รวมพื้นที่ดำเนินโครงการ 84 สถานี

นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ในส่วนของกรมฯ รับหน้าที่ฝึกอบรมผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เน้นนำทักษะและความรู้จากการอบรมมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยได้มอบหมายให้ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานกรุงเทพมหานครดำเนินการฝึกอบรมให้แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในเขตกรุงเทพมหานครจาก 50 เขต โดยในปี 2552 จัดฝึกอบรม 15 รุ่น 15 เขต จำนวนรุ่นละ 200 คน รวม 3,000 คน และในปี 2553 จะจัดฝึกอบรมเพิ่มจนครบ 50 เขต โดยใช้พื้นที่การอบรมของกรุงเทพมหานคร

สำหรับการฝึกอบรมรุ่นแรก นำร่องให้กับวินมอเตอร์ไซด์ เขตดินแดงจำนวน 200 คน หัวข้อสิทธิประโยชน์ของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 การรับมือเมื่อประสบภัยจากรถ หลักการทำงานแบบมีส่วนร่วมในสังคม โดยมี คุณคริสโตเฟอร์ แจ็ค เบญจกุล ผู้ที่มีประสบการณ์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยตรงเป็นวิทยากรให้ข้อคิดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ในตอนท้าย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้น ได้สนับสนุนจัดหากลุ่มเป้าหมาย สถานที่ฝึกอบรม อำนวยความสะดวกในการติดตั้งสถานีมอเตอร์ไซค์ โดยพิจารณาจุดที่มีความพร้อมตั้งสถานีซึ่งต้องไม่กีดขวางการจราจร ดำเนินการนำร่องเขตละ 1 จุด รวม 60 จุด ทั่วกรุงเทพฯ จุดแรกที่ได้มีการเปิดตัวสถานี คือ สวนป่าวิภาวดีรังสิต หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ถนนมิตรไมตรี ส่วนจุดอื่นๆ ต้องพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ต่อไป คาดว่าจะสร้างเสร็จทั่วกรุงเทพฯ ภายในสิ้นปีนี้

เพิ่มเติม http://www.dsd.go.th/index.php?option=com_content&view=article&catid=1%3Aciafss&id=948%3A-1-&lang=th

'เด็กแว้น' ชีวิตติดหล่ม

วันที่พ่อแม่มีความสุขหลังจากซื้อรถมอเตอร์ ไซค์ให้ลูกตามคำขอ คล้อยหลังไม่นานก็รู้สึกผิด หลังจากลูกซิ่งมอเตอร์ไซค์จนเสียชีวิต บทเรียนราคาแพงที่แลกมาด้วยชีวิต กี่หยาดน้ำตาต้องเสียใจเพราะมารู้ทีหลังว่า ลูกเป็น “เด็กแว้น” แต่ยังมีเด็กรุ่นใหม่เข้ามาวงการนี้ ไม่หยุดหย่อน ต่อแถวเพื่อก้าวไปสู่การเป็น “ตัวขี่” ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักบิดสนามเถื่อน

ดูเหมือนปัญหา “เด็กแว้น” กับสังคมไทยเรื้อรังมานานและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่สังคมตีตราสิงห์นักบิดเหล่านี้ ไม่ต่างจากขยะสังคม ความจริง เด็กพวกนี้ชีวิตอาจกำลังติดหล่ม รอคอยให้ผู้ใหญ่ฉุดเขาขึ้นไปสู่สิ่งที่ดีกว่า หากย้อนกลับไปมีความพยายามของหลายหน่วยงานยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่ไม่นานก็หายไป 5 ปี กับการเป็นเด็กแว้น ชอบท้าประลองความเร็วบนถนนย่านเพชรเกษมและพุทธมณฑล ก้าวมาสู่ “ตัวขี่” ซึ่งเด็กแว้นใช้เรียกนักขับฝีมือดีอย่าง เช่น โอ (นามสมมุติ) วัย 25 ปี เล่าว่า ตอนแรกไม่มีรถก็อาศัยซ้อนรุ่นพี่ก่อน พอหลังจากนั้นก็ขอให้แม่ซื้อรถให้และเริ่มแต่งรถอย่างจริงจัง แรงจูงใจคือ ต้องการให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มยอมรับและอยากมีชื่อเสียงในหมู่เด็กแว้น

คุณสมบัติของ “ตัวขี่” น้ำหนักตัวต้องเบา ขับรถไม่ประมาท ที่สำคัญใจต้องถึง วันแข่งส่วนใหญ่เป็นวันศุกร์, เสาร์ เวลากลางคืน โดยการแข่งมี 2 แบบคือ แบบแรก ระยะที่ยังไม่มีชื่อเสียงจะใช้รถตัวเองขี่ โดยตระเวนไปกับเพื่อนประมาณ 10 คัน ขับวนไปในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการแข่งประจำ พอไปเจอฝ่ายตรงข้ามจึงพยายามสังเกตตัวรถและเสียงเครื่องยนต์ หากมองดูแล้วสามารถสู้ได้ก็จะท้าประลอง อาจมีเงินเดิมพันหรือไม่มีก็แล้วแต่จะตกลงกัน ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี เป็นพื้นที่เถื่อนสุด เพราะหลายครั้งไปแข่งแล้วตนชนะ ฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมจ่ายเงินเดิมพัน แต่กลับใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าหรือยิงใส่คนอื่น

แบบที่ 2 เมื่อเริ่มมีชื่อ ร้านแต่งรถจะโทรฯ มาตามให้ไป ขี่รถของร้านไปแข่งกับร้านอื่น เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับร้าน โดยร้านจะเตรียมรถที่แต่งไว้แล้วมาให้ เดิมพันต่ำสุด 5,000 ถึง หลักแสน ซึ่งถ้าแข่งชนะจะได้เงินส่วนแบ่ง 10% แต่ละครั้งได้เงินมาก็เอาไปแต่งรถตัวเองหมด

ร้านแต่งรถแข่งส่วนใหญ่จะไม่ซ่อมให้รถธรรมดา เพราะถือว่าเสียเวลา ส่วนใหญ่ร้านมีขนาดเล็ก ๆ หลบอยู่ตามซอยต่าง ๆ ภายในร้านมีวัยรุ่นมั่วสุมหรือหน้าร้านจะมีรถที่แต่งไว้แล้วโชว์อยู่ ตอนนี้ร้านเหล่านี้เปิดกันมากขึ้น ช่างเองพยายามแสดงฝีมือเพื่อดึงดูดเด็กให้มาแต่งรถที่ร้าน ช่างส่วนใหญ่ไม่จบด้านนี้โดยตรง แต่อาศัยอยู่ในร้านที่แต่งรถมาก่อน แล้วลักจำสูตรการแต่งรถมาเปิดร้านเอง เนื่องจากในตำราเรียนไม่มีการสอนแต่งรถเพื่อแข่ง แต่ร้านเหล่านี้จะมีตำราการแต่งเป็นสูตรที่ตายตัวคิดขึ้นเอง หรือบางร้านแต่งเครื่องไม่เป็นก็ไปจ้างอีกร้านทำเครื่องแล้วมาประกอบ

“การแต่งตัวเมื่อไปแข่งก็ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนธรรมดา ที่สำคัญจะไม่ใส่หมวกกันน็อกเพราะทำให้รถหนัก รถที่ร้านแต่งจะเปลือยตัวถังหมดเพื่อให้รถเบาที่สุด ส่วนความเชื่อก่อนแข่งต้องไหว้แม่ย่านางรถและขอเจ้าที่เจ้าทางก่อนแข่งเสมอ แต่หากวันไหนเราเห็นคนอื่นตายจะไม่แข่งเพราะถือว่าวันนั้นฤกษ์ไม่ดี เวลาเห็นเพื่อนตายรู้สึกธรรมดาคิดเสียว่า โชคชะตาเขามีแค่นี้” โอ เล่า

การแต่งรถ หากทำเครื่องราคาจะอยู่ที่หมื่นกว่าบาท ตกแต่ง ภายนอกอีกตกเดือนละ 2,000-4,000 บาท ส่วนรถที่เอาไปแข่งบ่อย ๆ อายุงานเครื่องยนต์อยู่ได้แค่ 2 เดือน เงินที่ใช้ในการแต่งรถได้จากการขอแม่และเก็บออมเงิน แต่บางคนไม่มีเงินแต่งรถ ก็ไปขายยาบ้า คนพวกนี้มักแฝงตัวอยู่ในแก๊งต่าง ๆ

บ่อยครั้งที่เด็กแว้นแข่งรถแล้วประสบอุบัติเหตุ โอ มองว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการที่รถมอเตอร์ไซค์เกี่ยวกัน เนื่องจาก “ตัวขี่” นิยมใช้เทคนิคการขี่แบบ “ลมดูด” เพราะเชื่อว่า การขี่รถจี้ไปด้านหลังคู่แข่งหรือรถที่อยู่บนท้องถนน รถที่ตนขี่อยู่จะไม่โต้ลมทำให้ลดแรงเสียดทาน เมื่อจี้เข้าไปใกล้มากที่สุดแล้วก็หักรถขึ้นแซงคันหน้า เชื่อว่าจะมีแรงลมช่วยส่งให้รถแรงขึ้นเบียดแซงคู่แข่ง บางคันโชคร้ายก็เกี่ยวกันล้มหรือมองไม่เห็นรถฝั่งตรงข้ามพอขึ้นแซงจึงถูกชนประสานงา บางครั้งรถคันหน้าไม่อยากให้ใช้ “ลมดูด” ก็ขี่รถแกว่งไปมาเพื่อหนี แต่รถดันมาเสียหลักล้ม ส่วนเทคนิค “ลักไก่” เมื่อออกตัวก็ประสบอุบัติเหตุมาก เพราะ “ตัวขี่” พยายามออกตัวก่อนคู่แข่ง แล้วรถมันสะบัด หากทรงตัวไม่ดีรถคว่ำมาแล้วหลายราย

สิ่งที่มันส์มากที่สุดของ “เด็กแว้น” คือ การขี่รถหนีตำรวจตื่นเต้นกว่าขี่แข่งกันเอง เพราะต้องลุ้นว่าจะรอดหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดอุบัติเหตุรถเกี่ยวกัน เสี่ยงต่อการเสียชีวิตเนื่องจากเมื่อรถล้มมีรถอีกหลายคันวิ่งตามมาพร้อมทับเราทุกเมื่อ ขณะเดียวกันช่วงชุลมุนอาจมีเสียงปืนดังขึ้น ไม่รู้มาจากพวกเดียวกันหรือตำรวจ แต่เพื่อนเคยโดนลูกหลงตายมาแล้วโดยไม่รู้ว่าใครยิง

“พวกสาวสก๊อยส่วนใหญ่เด็กแว้นพามาอวดกันมากกว่า แต่ก่อนเคยมีบางแก๊งแข่งโดยเอาสก๊อยเป็นเดิมพัน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เราเองเมื่อแข่งจะไม่พาไปเพราะจะได้หนีตำรวจได้สะดวก ยิ่งกว่านั้นผู้หญิงบางคนพอเห็นผู้ชายหล่อมีรถสวยก็ใช้เวลาช่วงเรากำลังแข่ง แอบไปขอเบอร์โทรฯ ฝ่ายตรงข้าม แต่ต้องทำใจผู้หญิงพวกนี้รักใครไม่ได้นาน”

โอ ทิ้งท้ายว่า หลายคนอาจมองเด็กแว้น เป็นขยะสังคม แต่เราก็มีจิตใจ แค่อยากโชว์รถ ภาครัฐเองก็ไม่เคยมีนโยบายชัดเจนในการสนับสนุนเด็กให้แข่งรถ ซึ่งหากมีการจัดการแข่งจริง ๆ จะช่วยลดปัญหาเด็กแว้น ได้บางส่วน ขณะที่เจ้าของร้านแต่ง รถมอเตอร์ไซค์ย่านชานเมือง แห่งหนึ่งเล่าว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นวัยรุ่นมาแต่งเยอะสุดช่วงต้นเดือน และเทศกาลต่าง ๆ รายได้ ต่อเดือนตกอยู่ที่ 4-5 หมื่นบาท สิ่งที่เด็กแว้นมาแต่งมากที่สุดคือ 1.เปลี่ยนล้อ เนื่องจากทำง่ายราคาถูก 2.ยัดลูกสูบ ทำให้รถมีแรง อัดเพิ่มขึ้นวิ่งได้แรงกว่าเดิม 3. แต่งสวยงาม เช่น ปาดเบาะหรือทำท่อ 4.ทำเครื่อง ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพอะไหล่ที่ใช้ ขณะที่บางคนสนิทกับร้านสามารถแต่งรถไปก่อนแล้วผ่อนส่งได้ เช่น อะไหล่ราคา 5,000 บาท จ่ายก่อน 3,000 บาท ที่เหลือผ่อนเป็นรายเดือนได้

“บางครั้งเห็นเด็กที่รู้จักกันแต่งรถที่ร้านแล้วออกไปซิ่งรถ คว่ำตาย เราเองก็เสียใจเหมือนกัน แต่เข้าใจว่าเป็นช่วงวัยรุ่น ใจร้อนชอบท้าทาย แต่ก็ต้องรู้จักนึกถึงความปลอดภัยบ้าง จึงอยากให้รัฐบาลจัดกิจกรรมที่ให้วัยรุ่น ได้แข่งขันกันอย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องไปเสี่ยงวิ่งบนท้องถนน เพราะนอกจากเสี่ยงชีวิตแล้วยังเสี่ยงติดคุกด้วย” เจ้าของร้านกล่าว

นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวถึงปัญหาเด็กแว้นว่า เกิดจากเด็กไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว พ่อแม่ชอบตำหนิและบ่นลูกอยู่เป็นประจำ เด็กจึงออกไปหาการยอมรับจากภายนอกในรูปแบบต่าง ๆ โดยไม่คำนึงว่าถูกหรือผิด ดังนั้นครอบครัวควรมีกิจกรรมให้ลูกได้แสดงออกในทางบวกและชื่นชมในความสามารถเพื่อให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจ

ด้านครอบครัวที่สงสัยว่า เด็กกำลังเข้าสู่วงจรนี้ควรสังเกตพฤติกรรมลูกว่า เริ่มหายหน้าหายตาในเวลากลางคืนหรือไม่ ขณะเดียวกันเด็กเริ่มพูดภาษามอเตอร์ไซค์ต่าง ๆ มากขึ้น และร้องขอให้ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ให้ เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นครอบครัวไม่ควรตำหนิเด็ก แต่ต้องพูดคุยด้วยทีท่าที่พร้อมรับฟังและเสนอแนะข้อถูกผิด ประกอบกับศึกษาพฤติกรรมของลูกไปเรื่อย ๆ

สำหรับกรณีที่พ่อแม่มีลูกเป็น “เด็กแว้น” สิ่งแรกต้องทำคือ ผู้ปกครองควรให้กำลังใจตัวเองก่อน เพราะทุกคนย่อมคาดหวังในตัวลูกสูง เมื่อผิดหวังอาจท้อแท้หรือทำร้ายจิตใจเด็กให้แย่ลง ควรคิดในแง่บวกว่า คนในครอบครัวสามารถทำให้ลูกเป็นเหมือนเดิมได้ ต่อมาจึงให้กำลังใจเด็กโดยพยายามรับฟัง และเสนอแนะการกระทำที่ถูกแล้วจึงหากิจกรรมสร้างสรรค์ทำในครอบครัว เช่น ท่องเที่ยว, เล่นกีฬา “การเปลี่ยนพฤติกรรมลูกที่เป็นเด็กแว้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องใช้เวลา โดยผู้ปกครองควรให้ความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราเองด้วย จึงอยาก ฝากให้สังคมหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้กับ เด็กเหล่านี้ได้มีพื้นที่แสดงออก อย่างสร้างสรรค์”

ในทางตรงกันข้ามตำรวจเองไม่ควรใช้ความรุนแรงในการ จับเด็กบ่อยจนเกินไป เพราะเมื่อเกิดความรุนแรงสะสมบ่อยขึ้น เด็กพวกนี้จะรวมกลุ่มกันเพื่อแก้แค้นเจ้าหน้าที่ ดังนั้นควรใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น ฉะนั้น ปัญหา “เด็กแว้น” เรื้อรังมานานยังคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากภาครัฐ หลายครั้งจุดประเด็นขึ้นมาตื่นตัวเป็นพัก ๆ แต่ที่น่าเศร้าคือ ผู้ใหญ่ไม่เคยตั้งโต๊ะคุยกับเด็กถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเรื้อรังนี้

เพิ่มเติมhttp://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=10551&hilight=อะไหล่

"ฟีม" อันดับโลกรูดหลังวืดแต้ม 2 สนามติด

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดไทย-ฮฮนด้า-พีทีที-แซค จากประเทศไทย สุดเซ็งกับสภาพรถ RS25RW ที่ไม่สามารถบิดได้อย่างใจต้องการในสนามล่าสุด จนต้องวืดแต้มเป็นเรซที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมทั้งตกมารั้งอันดับ 14 ของตารางคะแนนรุ่น 250 ซีซี

"เจ้าฟีม" ที่มีลุ้นจบการแข่งขันในกลุ่มหน้าหลังควอลิฟายได้ดีถึงอันดับที่ 8 ทว่า จากการออกสตาร์ทที่ย่ำแย่ประกอบกับอาการของรถฮอนด้าคู่ใจที่ไม่เสถียร ทำให้นักบิดไทยทำเวลาต่อรอบแบบลุ้นไม่ขึ้น จนต้องนำรถกลับเข้าพิตและออกจากการแข่งขันในที่สุด

โดยฟีมเผยหลังวืดแต้มเป้นสนามที่ 2 ติดต่อกันว่า "นี่คือวันที่ผมอยากจะลืมให้เร็วที่สุด ผมออกตัวได้แย่มากขณะที่รถก็ดูจะไม่เป็นใจเลย ผมไม่รู้ใว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถที่เซ็ตไว้ลงตัวแล้วในช่วงเช้า แต่ตอนแข่งกลับไม่เหมือนเดิมเลย"

"มันทำให้ผมมีปีญหาในการเปลี่ยนเกียร์ในช่วงออกโค้ง ซึ่งผมทำความเร็วไม่ได้เลย ผมจึงตัดสินในที่จะขับเข้าพิตและออกจากการแข่งขันดีกว่าที่จะเลี่ยงล้มกับอาการของรถที่เป็นเช่นนี้" นักบิดวัย 21 ปี ร่ายยาว

จากการไม่จบการแข่งขัน 2 สนามล่าสุดส่งผลให้เจ้าฟีมยังคงมีคะแนนสะสมในรุ่น 250 ซีซี อยู่ที่ 38 แต้มเช่นเดิม ตกจากอันดับ 11 ลงมาอยู่อันดับ 14 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีแต้มตามหลังโรแบร์โต โลตาเตลลี อันดับ 10 อยู่ 27 คะแนน

สำหรับฟีมมีคิวบินกลับมาพักผ่อนและรักษาสภาพร่างการที่บาดเจ็บในประเทศไทยในวันพุธที่ 29 ก.ค.นี้ ก่อนจะกลับไปยังฝั่งยุโรปอีกครั้งในช่วงกลางเดือนสิงหาคม เพื่อลงแข่งสนามต่อไปรายการ เช็ก กรังด์ปรีซ์ ที่ บรูโน เซอร์กิต สาธารณรัฐเช็ค ในวันที่ 16 ส.ค.

เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000084770

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สัดส่วนยอดจดทะเบียนรถมอไซค์ ประจำเดือน มิ.ย.52


ยอดจดทะเบียนทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 16%

Yamaha +17%
Honda +15%
Suzuki +21%
Kawasaki +16
*เทียบกับเดือน พ.ค.52

ที่มา http://www.mocyceasy.com/

Suzuki Grand Opening “Suzuki Skydrive SP Limited 2009”

บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ (ยกเว้น 14 จังหวัดภาคใต้) จัดงานเปิดตัวรถ Suzuki Skydrive 125 กราฟิกใหม่ “Suzuki Skydrive RIDE IT SP Limited 2009” เพื่อเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของบริษัทฯ เมื่อเร็วๆ นี้

ดีเดย์ไปเมื่อ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี่เอง เป็นวันแรกของการวางจำหน่าย พร้อมกับการจัดงานเปิดตัว “Suzuki Skydrive RIDE IT SP Limited 2009” พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรูปโฉมใหม่ที่เร้าใจ กว่าของ “Suzuki Skydrive RIDE IT SP Limited 2009” ผลงานการออกแบบ โดยสำนักแต่งชื่อดังอย่าง RIDE IT ด้วยรูปแบบของรถจักรยานยนต์อัจฉริยะ เกียร์อัตโนมัติ 125 ซีซี. เครื่องยนต์ Super CVT ล้ำทันสมัยด้วยระบบ หัวฉีด DCP-Fi (ดีซีพี เอฟไอ) ตกแต่งพิเศษเพื่อความสุดๆ ของชีวิต ใหม่ด้วยลายกราฟิกสุดซ่าตลอดคัน นอกจากนี้ ยังได้มีการเพิ่มเติมอุปกรณ์ตกแต่งที่การันตีคุณภาพกว่า 30 รายการ มีทั้งอุปกรณ์เสริมความสวยงาม อุปกรณ์เพิ่ม ความสะดวกสบาย และอุปกรณ์เพิ่มสมรรถนะ (ชุดสายพาวเวอร์ไลน์) ตามแบบฉบับของรถ Limited ผลิตเพื่อคุณคน พิเศษโดยเฉพาะ!!

Suzuki Skydrive RIDE IT SP Limited 2009 สะท้อนถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ขับขี่ พร้อมให้คุณ Limited ได้ 2 แบบ ซ่าที่ 1 : SP Limited Full Option เพียง 500 คันเท่านั้น และซ่าที่ 2 ให้คุณ Limited กับ SP Limited Standard เพียงแค่ 700 คัน เท่านั้น สำหรับบรรยากาศของงานเปิดตัวในแต่ละพื้นที่ของผู้แทน จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ เต็มไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน Freak & Fun ไม่แพ้กันทีเดียว...อย่าลืมไปติด ตามชมประมวลภาพทั้งหมดได้ที่ SPSUzuki.com

อีกหนึ่งความพิเศษสุด Freak !! ที่บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) พร้อมจัดให้เป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่ต้อง การความเป็นที่สุด และต้องการสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบเหนือชั้นกว่าใคร เชิญสัมผัสและจับจองเป็น เจ้าของได้ที่ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ ในเขตการดูแลของ บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) เท่านั้น คำเตือน ระวังช้าหมด..อด..แรง !!

เพิ่มเติม http://www.spsuzuki.com/Community/Thai/News/Detail/News09-0713.asp

โฆษณาฟีโน่ตัวใหม่ My Fino,My Experience

กระแสตอบรับแรงสุดๆ แคมเปญ My FINO, My Experience กอล์ฟ ไมค์ สิงโตและซูเปอร์จูเนียร์ขี่รถฟีโน่เที่ยวทั่วไทยกับภาพยนตร์โฆษณาใหม่ชุดที่ 2 ตอบ สนองทุกไลฟ์

ยามาฮ่า ฟีโน่ สุดยอดแห่งรถออโตเมติกที่ขายดีที่สุดในขณะนี้ที่ได้พลิกโฉมการดีไซน์ตัวรถแบบ เดิมๆ สร้างความแตกต่างโดดเด่นอย่างชัดเจน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าตั้งแต่เปิดตัว สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นที่น่าพอใจ ในปี 2550 ฟีโน่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ตัวรถใหม่สดใสขึ้นพร้อมกับเน้นไอเดียการตกแต่งที่หลากหลาย ด้วยแคมเปญ My Style, My Fino ทำให้ยอดขายฟีโน่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมา ฟีโน่สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยแคมเปญยักษ์ระดับอินเตอร์ อินเทรนด์ตามกระแสวัยรุ่นซึ่งมีความชื่นชอบเพลงและศิลปินเกาหลี นำเอากลุ่มศิลปินซูเปอร์จูเนียร์13 คนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ร่วมกับ กอล์ฟ และไมค์ ในคอนเซ็ปท์ Fino is More (ฟีโน่ เป็นอะไรได้อีกเยอะ) ได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้น ทั้งภาพลักษณ์ของฟีโน่ และเป็นการเพิ่มกระแสความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นทั่วประเทศ มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในประเภทรถออโตเมติก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเฉพาะประเภทรถออโตเมติกสูงถึง 55% มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 2.4% ทำให้ยามาฮ่ามีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเป็น 28% นับได้ว่าเป็นผู้นำตลาดรถออโตเมติกตัวจริง

ในปี 2552 นี้ ฟีโน่ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยแคมเปญใหม่ My FINO, My Experience เนื่องจากลูกค้าของเรามีจำนวนมากทั่วประเทศ ทุกคนมีเอกลักษณ์ด้วยสไตล์ที่โดดเด่นของตัวเอง มีความชื่นชอบ และสนุกกับการขับขี่รถฟีโน่ นอกจากในชีวิตประจำวันแล้ว ยามาฮ่าต้องการเชิญชวนให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกอยากขับขี่รถจักรยานยนต์ท่องเที่ยวทั่วไทยสร้างให้เกิดวัฒนธรรมการขับขี่อย่างมีความสุข ซึ่งการเดินทางแต่ละครั้ง เราเชื่อว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ สร้างให้เกิดความประทับใจอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น กับกลุ่มเพื่อนๆ กับคนรู้ใจ และเดินทางไปพร้อมกับ ฟีโน่รถคู่ใจ

โดยในส่วนของภาพยนตร์โฆษณามีด้วยกันหลายเรื่อง แต่ละเรื่องก็จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวไปกับรถฟีโน่ ซึ่งความสนุกสนาน ก็จะเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในการเดินทางที่จะประทับใจจนยากที่จะลืม สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดแรกชื่อว่า “Mountain” ออกอากาศไปเมื่อตอนต้นเดือนกรกฎาคม ที่ได้ 3 หนุ่ม กอล์ฟ ไมค์ และสิงโต-เดอะสตาร์ เป็นเจ้าบ้านพาเพื่อนๆ SUPER JUNIOR ทั้ง 4 คน นำทีมโดย ดงเฮ อีซอล ซองมิน และ ฮันเกิน เดินทางท่องเที่ยวภาคเหนือกันแบบชิลชิล ไปกันที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกับฟีโน่คันโปรด โลดแล่น ขึ้นเขา ชื่นชมธรรมชาติ และได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าประทับใจตลอดเส้นทาง หลังจากที่ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องแรกได้ออกอากาศไปได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ จากลูกค้าทุกกลุ่ม ลูกค้าของเราเกิดความรู้สึกอยากขับขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจท่องเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณายามาฮ่าฟีโน่ชุดที่ 2 นี้ มี 3 หนุ่ม เจ้าบ้าน กอล์ฟ ไมค์ และสิงโต ที่อาสาพา 4 หนุ่ม SUPER JUNIOR นำทีมโดย ซีวอน เยซอง เรียวอุค และคยูคยอน ไปขี่รถฟีโน่คู่ใจท่องเที่ยวแบบชุ่มฉ่ำในบรรยากาศหาดทราย ชายทะเล เปิดประสบการณ์ใหม่กับรถฟีโน่ ถึง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาในเดือนนี้ และกลุ่มพรีเซ็นเตอร์ก็จะมาพูดคุยถึงเบื้องหลังการถ่ายทำโฆษณาชุดที่ 2 นี้อย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวไปกับรถฟีโน่คู่ใจ ที่ศูนย์การค้าคริสตัล พาร์ค ในวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2552 โดยสามารถติดตามภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ได้ในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำการทำตลาดแบบไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง เดินหน้ารุกกิจกรรมด้านมิวสิกมาเก็ตติ้ง จัด คอนเสิร์ตเทศกาลดนตรีฤดูฝน “FINO RAINY MUSIC FESTIVAL”ครั้งแรกในโลก กับรูปแบบการแสดงคอนเสิร์ตแนวใหม่ท่ามกลางสายฝน ในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2552 ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก ในงานนี้ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของการรวมพลของกองทัพรถฟีโน่ และกองทัพยามาฮ่าคลับจากทั่วประเทศที่จะมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แบบที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเคยทำมาก่อน อาทิ

* ครั้งแรกของรถฟีโน่มาร่วมกันทำสถิติโลก “FINO Makes the World Record” โดยการรวมตัวกันสร้าง ขบวนรถฟีโน่ที่ยาวที่สุดในโลก บนสันเขื่อนขุนด่านปราการชล
* การรวมพลของกองทัพรถฟีโน่ และกองทัพยามาฮ่าคลับมากกว่า 5,000 คัน ขี่รถยามาฮ่าคู่ใจ ทัวร์ริ่งเข้ามาในงาน

* ชมการแปรขบวนด้วยรถฟีโน่ ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ


นอกจากนี้ยังมีการแสดงคอนเสิร์ตท่ามกลางสายฝนของกองทัพศิลปิน ROCK ปะทะศิลปิน HIP HOP ระดับแนวหน้าทั่วฟ้าเมืองไทย อาทิ เช่น Clash (แคลช), Silly Fool (ซิลลี่ฟูลส์), Slot Machine (สล็อตแมชชีน), Flure (ฟลัว), J Jetrin (เจ เจตริน), Paradox (พาราด็อกซ์), Hangman (แฮงแมน), Blackhead (แบล็คเฮด), Buddha Bless(บูดาเบส), Joey Boy (โจอี้ บอย), Noi Pru (น้อย พรู), โป่ง The Sun, The Paper (เดอะ เปเปอร์), Art Floor (อาร์ทฟลอร์) ที่จะมาระเบิดความมันส์ ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ร่วมเป็นหนึ่งกับปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ที่ใครๆ ก็พลาดไม่ได้


ทั้งหมดนี้เป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของยามาฮ่า ฟีโน่ โฉมใหม่ สุดยอดแห่งรถออโตเมติกดีไซน์ สไตล์แฟชั่น ที่ขายดีที่สุดในขณะนี้ บริษัทฯ ได้ทำการตลาดที่แตกต่างมาโดยตลอด ทั้งในด้านสินค้า และกิจกรรมรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=1002

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ฝนทำพิษ! "ฟีม" แข่งไม่จบที่โดนิงตัน พาร์ค

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์จีพี ประสบปัญหาอีกครั้งในแข่งขันที่ประเทศอังกฤษ เมื่อฝนตกลงมาก่อนการแข่งขัน จนไม่สามารถเซตรถได้ลงตัว ก่อนจะต้องออกจากการแข่งขันในช่วง 9 รอบสุดท้ายพร้อมกับไร้แต้มติดมือ

จักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามที่ 9 ของรุ่น 250 ซีซี ประจำฤดูกาล 2009 แข่งขันกันที่โดนิงตัน พาร์ค ประเทศอังกฤษ ระยะทางต่อรอบ 4.023 กิโลเมตร ดวลกันทั้งสิ้น 27 รอบสนาม ซึ่งก่อนการแข่งขันมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้แต่ละทีมต้องวิ่งวุ่นในการเซตอัพรถสำหรับทางเปียก

โดยผลงานของนักบิดสังกัดไทย-ฮอนด้า-พีทีที-แซค สนามนี้ต้องวืดแต้มติดมือเป็นเรซที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากออกตัวจากกริดที่ 8 แต่อันดับรูดลงไปถึงที่ 14 เมื่อผ่านรอบแรก จากนั้นฟีมไม่สามารถทำความเร็วได้ ก่อนจะต้องนำรถกลับเข้าพิตและออกจากการแข่งขันในรอบที่ 19 เท่านั้น

ขณะที่ผู้ชนะสนามนี้ตกเป็นของ ฮิโรชิ อาโอยามา ผู้นำคะแนนสะสมจากทีมสก็อตฮอนด้า ที่ทำเวลาฉีกคู่แข่งกระจุย ก่อนจะเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ด้วยเวลารวม 45 นาที 17.516 วินาที โดยมี อัลบาโร เบาติสตา และ มาร์โก ซิมอนเชลลี ตามเข้าป้ายเป็นที่ 2 และ 3 ตามลำดับ

สรุปคะแนนสะสม รุ่น 250 ซีซี
1.ฮิโรชิ อาโอยามา (ญี่ปุ่น / ฮอนด้า) 159
2.อัลบาโร เบาติสตา (สเปน / อพรีเลีย) 144
3.มาร์โก ซิมอนเชลลี (อิตาลี / กิเลรา) 115
4.เฮคตอร์ บาร์เบรา (สเปน / อพรีเลีย) 114
5.แมทเทีย ปาซินี (อิตาลี / อพรีเลีย) 80
*14 รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ (ไทย / ไทย ฮอนด้า พีทีที แซค) 38

เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000084544

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เปิดเว็บไซต์รับมือ โจรขโมยรถ

ปัญหาการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไม่เคยหมดไปจากสังคมไทย ตรงกันข้ามกลับพัฒนารูปแบบและวิธีการจนยากต่อการป้องกัน หรือสืบสวนติดตามรถยนต์ของผู้เสียหายกลับคืนมา ด้วยเหตุนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จึงเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อรับมือแก๊งโจรกรรมรถ ให้ประชาชนได้รู้เท่าทันทั้งรูปแบบ วิธีการ ตลอดจนรถคันไหนที่ประกาศขายตามท้องตลาดถูกหรือผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ติดตามประเมินผลการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกหน่วยงานพบว่า คดีโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์มีแนวโน้มสูงขึ้น เมื่อคำนวณพบว่าในรอบ 1 ปี จะมีรถหายทั้งประเทศราวๆ 7,000 คัน ซึ่งปัจจัยสำคัญคือความต้องการของตลาดรถโจรกรรมมีสูงขึ้น ทั้งในรูปของการแยกอะไหล่และต้องการทั้งคัน ด้วยการส่งไปขายตามร้านซ่อมรถที่มีอยู่ทั่วไป รวมถึงการนำไปสวมซากทะเบียนกับรถที่เกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวชายแดนติดกับไทยมีความต้องการใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. จึงมีนโยบายเร่งรัดสืบสวนปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.(ปป.) และ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.สปจร.ตร. รับผิดชอบ โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.ทำหน้าที่ หน.ศปจร.น. และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 รอง หน.ศปจร.น. ดำเนินการเชิงรุกจัดโครงการฝึกอบรมการสืบสวนปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ เป้าหมายของโครงการดังกล่าวนี้คือ ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน ที่ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายป้องกันปราบปราม ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายจราจร เข้ารับการอบรมกว่า 700 นาย รวม 3 รุ่น เพื่อฝึกอบรมให้มีความรู้ความสามารถในการสืบสวนป้องกัน และปราบปรามการโจรกรรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในระดับผู้มีทักษะด้านการสืบสวนและสอบสวน เพื่อเป็นตัวแทนในการให้คำปรึกษาสำหรับปฏิบัติงาน และถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ปฏิบัติอื่นๆ ของแต่ละกองบังคับการในสังกัด บช.น.

นอกจากนี้ ศปจร.น.ยังได้จัดทำเว็บไซต์ www.mpblostcar.com และ www.rodthai.com เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมการป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ ภายในเว็บไซต์จะข้อมูลเกี่ยวกับสถิติรถที่ถูกโจรกรรม ฐานข้อมูลบุคคลที่มีพฤติการณ์ในการโจรกรรมรถหรือแก๊งโจรกรรมรถ ฐานข้อมูลรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมและรถที่ถูกตรวจยึดตามสถานีตำรวจต่างๆ ฐานข้อมูลบุคคลที่มีหมายจับข้อหาโจรกรรมรถ ตลอดจนข้อแนะนำถึงวิธีป้องกันไม่ให้รถถูกโจรกรรม การซื้อขายรถอย่างถูกกฎหมาย กฎ ระเบียบ รวมถึงวิธีปฏิบัติในการตรวจยึดรถต้องสงสัย

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 รอง หน.ศปจร.น. อธิบายเพิ่มเติมว่า ในเว็บไซต์จะมีข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรถทุกชนิดที่ประกาศขายในท้องตลาด เช่น หมายเลขทะเบียน หมายเลขเครื่องยนต์ และหมายเลขตัวถัง ถ้าใครจะซื้อรถและไปดูรถแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นรถที่ถูกขโมยมาหรือไม่ หรือถูกสวมซากหรือไม่ ก็สามารถมาตรวจสอบข้อมูลกับเว็บไซต์ได้

"ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมาก นอกจากจะเท่าทันวิธีโจรกรรมแล้ว ยังได้เรียนรู้ถึงการป้องกัน และตรวจสอบรถยนต์ที่เราต้องการจะซื้อได้ด้วยว่า เป็นรถขโมยมาหรือเปล่า หรือถ้าสงสัยอะไรก็สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 0-2354-6182" พล.ต.ต.วิชัย กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก.ศส.บช.น. เปิดเผยว่า บช.น.มีเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง แต่ขณะนี้ยังไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีข้อสงสัยเข้ามาตั้งกระทู้สอบถาม เนื่องจากเป็นเพียงช่วงเริ่มต้น ส่วนในอนาคตจะเปิดให้บริการตรงจุดนี้ด้วย ข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏในเว็บไซต์เป็นประโยชน์สำหรับประชาชน เจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์รายใดถูกโจรกรรมสามารถเข้ามาแจ้งข้อมูล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตรวจสอบ หรือค้นหาข้อมูลด้านอื่นๆ เกี่ยวกับการซื้อขายรถก็ได้

ขณะที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พูดถึงวิธีโจรกรรมรถในปัจจุบันว่า คนร้ายได้เปลี่ยนรูปแบบวิธีการกระทำความผิด เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม มีการนำเครื่องมือและอุปกรณ์สมัยใหม่มาใช้สำหรับโจรกรรมรถ ถึงแม้ว่าเจ้าของรถจะมีอุปกรณ์ป้องกัน แต่คนร้ายก็ยังมีขีดความสามารถโจรกรรมเอารถไปได้ และแยกชิ้นส่วนได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งเจ้าของรถที่ทำประกันภัยไว้แล้ว แจ้งรถหายเพื่อฉ้อฉลเอาเงินประกัน ฉ้อฉลประชาชนในรูปแบบแชร์รถยนต์ ส่งผลให้สถิติรถหายเพิ่มสูงขึ้น

"โครงการฝึกอบรมครั้งนี้จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ตำรวจต้องมีแผนยุทธศาสตร์ ไม่ว่าจะบูรณาการภารกิจทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การนำเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารสมัยใหม่ การประสานงานต่างๆ ที่สำคัญต้องมีการพัฒนาความรู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานสืบสวนปราบปราม ต้องมีความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ แนวโน้ม ตลอดจนแผนประทุษกรรมของคนร้าย การตรวจสอบเอกสารประกอบตัวรถ และระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนปราบปราม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวนจับกุม การก้าวสกัดจับ รวมถึงด้านการข่าวด้วย" ผบช.น.ให้ความเห็น

เพิ่มเติม: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

Life Style ก่อนจะมาเป็นวันนี้ของ อนันดา เอเวอริ่งแฮม

อนันดา เอเวอริ่งแฮม พรีเซ็นเตอร์คนสำคัญของ SUZUKI ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ Life Style ที่สนามบางกอกเรซซิ่งเซอร์กิต BRC

" วันนี้ก็เป็นโอกาสดีอีกครั้งที่จะได้มาเรียนรู้การขับขี่ที่ถูกวิธีกับ ชาติชาย แซ่ลิ้ม ซึ่งเป็นบุคคลที่ในวง การคนรักความเร็ว และนักแข่งนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี ถ้าจะถามถึง Life Style ส่วนตัวของผม ...เอ่อ ค่อนข้างที่จะ กว้างมากๆ แต่ถ้าจะเอาแบบคร่าวๆ แล้วก็น่าจะพูดถึงได้ ผมก็เป็นแบบที่ทุกคนเห็นๆ กันอยู่ เป็นนักเดินทางชอบ ความท้าทาย ชอบฟังเพลงและมีกิจกรรมอีกมากมายให้ค้นหาอยู่ตลอด ส่วนเรื่องความชอบในตัวรถจักรยานยนต์ ของผมน่าที่จะเริ่มขึ้นในตอนเด็กๆ เลย เพราะพ่อของผมเป็นคนออสซี่เขามีรถจักรยานยนต์ และมีเป้าหมายเล็กๆ ในการที่ขับขี่เจ้ารถคันนั้นจากออสเตรเลียไปยังทวีปยุโรป ความชอบในรถจักรยานยนต์ของผมเริ่มเพิ่มขึ้นมากๆ จนในที่สุดก็แอบขโมยรถคู่ใจของพ่อออกไปขี่ หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกอะไร แต่รถดันล้มแถม ยังโดนพ่อบ่นไปนานเลยทีเดียว หลังจากนั้นความกลัวก็เริ่มก่อตัวขึ้นทุกๆ ครั้งที่เห็นรถจักรยานยนต์ "

" แต่ก็ไม่น่าแปลกนะครับที่คนเราจะกลัว เพราว่าคนเราทุกคนย่อมมีความกลัวอยู่แล้ว แต่ถ้าจะถามถึง เรื่องของมอเตอร์ไซค์สำหรับผม เป็นอะไรที่สามารถนำเราออกไปนอกกรอบ อิสระ และการเดินทาง แต่ผมมักที่จะ ชอบขับขี่คนเดียวมากกว่า ผมมีรถมอเตอร์ไซค์อยู่คันนึงที่เชียงใหม่ และได้ไปทำธุรกิจที่พักที่เกาะเสม็ด ก็ได้ขับขี่ รถจักรยานยนต์อีกครั้ง คราวนี้จะเป็นรถวิบากไปเลย เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศของเกาะแล้ว รถแบบอื่นคงจะ ไม่สามารถใช้งานได้ดีเท่ารถวิบาก เหตุการณ์มันส์ๆ ก็มีเยอะครับสำหรับที่นั่น ทั้งแหกโค้ง เข้าข้างทาง เรียกได้ว่า เจออุบัติเหตุซะจนชาชินไปเลย แต่ก็เป็นอุบัติเหตุแบบเบาๆ ขำๆ เอาไว้คุยแบบฮาๆ ในหมู่เพื่อนฝูง แต่ถ้าถามถึง ความชอบในการขับขี่ว่าจะต้องเป็นแบบไหนนั้น ผมชอบการขับขี่มากที่สุด และไม่เลือกด้วยว่ารถที่นำมาขับขี่จะเป็น แบบไหน แต่ถ้าจะให้เปรียบรถเป็นเหมือนกับผู้หญิง ใครๆ ก็มักจะชอบเปรียบกันอย่างนี้ ...ผมชอบแบบภายนอก เรียบๆ แต่ต้องมีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เร้าใจ..."

" แล้วถามถึงเรื่องการได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของ SUZUKI ถือว่าได้ใกล้ชิดกับรถมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง ยิ่ง คำว่า Way of Life มันก็เข้ากับการใช้ชีวิตของผมมากๆ แล้วน่าที่จะตรงกับอีกหลายๆ คนที่ชอบการขี่มอเตอร์ไซค์ เหมือนผม ส่วนรถที่ตอนนี้ผมสนใจ และตัดสินใจสั่งซื้อ คือ SUZUKI GSX-R 1000 K9 เพราะว่าผมชอบที่ สมรรถนะของเครื่องยนต์ และรูปแบบของตัวรถที่มีความเป็นสปอร์ตขนานแท้ แต่จะว่าไปแล้ว SUZUKI ออกแบบ รถได้น่าสนใจตรงที่รูปแบบของ Dimension และ Position ของ SUZUKI ออกแบบมาได้เหมาะเจาะ ช่วยให้เรา สามารถขับขี่ได้ง่ายและดูเก่งขึ้น ผมว่า Way of Life นั้นตรงที่สุดแล้วสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ "

" ผมว่าความปลอดภัยและเทคนิคการขับขี่เป็น 2 เรื่องที่ต้องมีควบคู่กันไป การได้มาเรียนขับขี่ในวันนี้ ช่วยทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นในการขับขี่ และรู้ท่าทางที่ถูกต้องขณะขับขี่ ส่วนเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้ผมจดจำมาก ที่สุดก็คือ วันนั้นผมกลับมาถึงบ้านดึก แต่พอดีเกิดหิวเลยสตาร์ทรถแล้วออกไปร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย ซึ่งระยะ ห่างจากบ้านถึงปากซอยก็แค่ 200-300 เมตรเท่านั้น ผมจึงไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคออกไป ในขณะที่กำลังจะเลี้ยวก็มี รถจักรยานยนต์อีกสองคันพุ่งเข้ามาใส่ผม กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็กองอยู่บนพื้นแล้ว มารู้สึกอีกครั้งที่ห้องฉุกเฉิน เป็น เครื่องเตือนใจให้ผมนึกอยู่เสมอว่าอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ที่ใช้ในการขับขี่มีความจำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการสำนึก แห่งความปลอดภัย เพราะถ้าเราขับขี่ปลอดภัย แต่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันแล้วเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ (อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ) ขึ้นมา ความรุนแรงจะมาปะทะกับตัวเราแบบเต็มๆ ไม่มีอะไรมารองรับ หรือช่วยลดความรุน แรงได้เลย "

" การได้มาเรียนขับขี่ในวันนี้เป็นการสอนขับขี่แบบเบื้องต้น มีการสอนวางท่าทางนั่งและการใช้คันเร่ง ในเวลาที่เข้า-ออกโค้ง แรกๆ ก็ฝืนๆ ครับ แต่พอได้สักระยะเริ่มที่จะเข้าใจและคล่องมากขึ้น ช่วยให้เราได้เรียนรู้ว่า รถคันใหญ่ๆ ที่มีแรงม้าและสมรรถนะเครื่องยนต์สูงๆ นั้น ขับขี่ง่ายกว่าที่คิด อย่างวันนี้ผมได้ใช้รถ SUZUKI GSX 1300 R Hayabusa ครั้งแรกก็มีความเกร็งๆ อยู่เหมือนกันว่า เราจะสามารถขี่ได้จริงๆ หรือเปล่า เพราะ Hayabusa นั้นเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก และมีขนาดใหญ่ แต่นั่นเป็นความรู้สึกในครั้งแรกที่ได้เห็น พอได้มา เรียนรู้การขับขี่จาก ชาติชาย แซ่ลิ้ม รู้สึกว่าทุกเรื่องดูจะเป็นเรื่องง่ายไปหมด การบังคับรถให้เลี้ยวตามทิศทางที่เรา ต้องการนั้นจะต้องใช้ท่าทางและสายตาควบคู่กันไป มีการสลับท่านั่งเพื่อเข้าโค้งซ้าย-ขวาแบบสั้นๆ เพื่อนทดสอบการ ควบคุมคันเร่งและตัวรถ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นพื้นฐานในการขับขี่แบบ Racing แต่ก็สามารถที่จะนำไปพัฒนาใช้ได้ใน ชีวิตประจำวันอย่างการเข้า-ออกโค้งแบบที่ถูกวิธี การใช้เบรคด้วยน้ำหนักที่ต่างกันเพื่อหยุดหรือว่าชะลอ นับว่าเป็น โอกาสที่ดีมากๆ ในการได้เรียนรู้ "

" อยากให้ฝากบอกถึงคนที่กำลังจะซื้อรถว่าควรที่จะมาเรียนแบบนี้ก่อนหรือไม่ ควรที่จะมาเรียนอย่างยิ่ง ครับ เพราะรถที่เราซื้อไปนั้นมีทั้งสมรรถนะ และแรงม้าที่มาก หากไม่ได้รับการเรียนรู้ที่ถูกต้องจากผู้ฝึกสอนที่มี ประสบการณ์แล้ว ผมว่าคงจะเป็นการยากที่จะใช้รถ Hayabusa ได้อย่างเต็มสมรรถนะ อีกทั้งการตัดสินใจแก้ไข สถานการณ์ต่างๆ เวลาขับขี่ก็จะไม่สามารถทำได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการมาเรียนไม่จำเป็นว่าทุกๆ คนจะต้องเรียน เพื่อ มาเป็นนักแข่ง หรือใช้หลักการที่ได้เรียนมาแค่ในสนามเท่านั้น แท้ที่จริงแล้วการเรียนรู้ในสนามเป็นแค่พื้นฐาน มันสามารถที่จะปรับเปลี่ยนไปใข้ในการขับขี่ที่ต่างกันออกไปได้..."

เพิ่มเติม http://www.spsuzuki.com/Community/Thai/News/Detail/News09-0712.asp

ยามาฮ่าพาผู้บกพร่องทางการได้ยิน ชมโชว์จากเกาหลี “Cooking Nanta สับ หั่น มัน ซ่า ฮา ตะหลิวปลิว”

เพื่อเป็นการมอบโอกาสและคืนกำไรให้กับสังคม ยามาฮ่าได้พาผู้ที่บกพร่องทางการได้ยิน มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนหูหนวกไทย ชมการแสดงโชว์ “Cooking Nanta สับ หั่น มัน ซ่า ฮา ตะหลิวปลิว” รอบพิเศษ ให้กับมูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนหูหนวกไทย ณ สยามพารากอนฮอล์ล โดยมีคุณธนกร แสงรัศมี ผู้จัดการอาวุโสแผนกบริหารสมาชิก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด สมาชิกยามาฮ่าคลับและคุณเนล ทอมป์สัน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซีเทโร จำกัด ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ทั้งนี้คุณกำพล สุวรรณรัต ประธานมูลนิธิ ได้มอบของที่ระลึกให้กับยามาฮ่าด้วย

นันทา เป็นการแสดงที่ไม่ใช้คำพูด แต่ใช้ภาษาท่าทางในการดำเนินเรื่อง เป็นเรื่องราวที่สนุกสนาน ตลก ขำขัน นันทา เป็นโชว์ที่เอาอุปกรณ์เครื่องครัวชิ้นต่างๆ มาเคาะ มาสับให้เป็นจังหวะดนตรี โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับภารกิจสุดหินของ 2 พ่อครัวหัวเห็ด และแม่ครัวสุดเซ็กซี่ ที่ต้องเตรียมอาหารสำหรับงานแต่งงาน ให้เสร็จภายในเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งพวกเขาไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังต้องสอนหลานชายที่ไม่ได้ความเรื่องการทำอาหาร ของผู้จัดการร้านอารมณ์ร้ายที่นำมาฝากไว้อีกด้วย เรื่องราววุ่นๆ จึงเกิดขึ้นอย่างสนุกสนาน ขำกันแบบหัวทิ่มหัวตำ ด้วยต้นตำรับความฮา...สูตรแท้รสแซ่บจากเกาหลี

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=1000

"Honda Click i Reggae on the Rock" มหกรรมความมันส์สุดฮิต ที่ใครว่าร๊อคห้าม ฮิก!!! หรือ Chick ka Chick ห้ามว๊าก!!!

เตรียมระเบิดความมันส์แบบแนวๆ ผสมผสานแนวดนตรี 2 ขั้ว "ร็อก" และ "เร็กเก้ สกา" ที่ซัดกันเพียวๆ สไตล์ on the rock เมื่อรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ร่วมกับ "เทศบาลเมืองชะอำ" พร้อมด้วยรายการ "ไฟว์ไลฟ์ และ โอไอซี" เนรมิตมหกรรมดนตรี ร็อกๆ เร็กๆ ริมทะเล ครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่ใน "Honda Click i Reggae on the Rock" กับเหล่าสาวกศิลปินสุดแนวทั้ง 12 วง นำทีมฮิกๆ ในแบบฉบับสกาโดยพี่ใหญ่ T-Bone, Jofax, Teddy Ska Band, Madagascar 11 Circle, Sriracha Rocker ร่วมประชันแนวดนตรีกับสุดยอดศิลปินขาโจ๋แนวร็อกอย่าง Big Ass, Moderndog, Klear, Playground, Plastic Surgery, SIX C.E. และ The Mousses ในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2552 ตั้งแต่เวลา 14.00 - 24.00 น. ณ ริมทะเล ชายหาดชะอำฝั่งเหนือ จ.เพชรบุรี งานนี้เต้นกันเต็มที่ ให้ลมทะเลกระทบหน้า การรันตีความสนุกแบบล้นเหลือกับมหกรรมความมันส์สุดฮิต ที่ใครว่าร๊อคห้าม ฮิก!!! หรือ Chick ka Chick ห้ามว๊าก!!!

นางจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด ส่วนงานวางแผนธุรกิจ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงกิจกรรมความมันส์ที่จะถึงในครั้งนี้ว่า "งานนี้เป็นมหกรรมดนตรีริมทะเลครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของประเทศ ที่มีการผสาน 2 ขั้วแนวดนตรีที่แตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายร่วมกันที่จะสร้างสรรค์ความสุข ความสนุกให้เกิดขึ้นในทุกๆ มิติ ซึ่งตรงจุดนี้มีความสอดคล้อง และเข้ากันกับกลยุทธ์ทางการตลาดภายใต้แคมเปญ "C'mon Let's Have Fun ก็มันสนุกอะ" ที่ทางฮอนด้าได้สนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังสะท้อนถึงกลิ่นอายของการผสมผสานสิ่งของ 2 สิ่งที่ขัดกัน แต่เมื่อถูกนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็สามารถผสานกันได้อย่างสวยงามและลงตัว คล้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกไอ สีดำ-ส้ม รุ่น B.O. Project โดยงานในครั้งนี้นับว่าเป็นกิจกรรมดีๆ ที่มีความแปลกใหม่และมีความน่าสนใจสำหรับวัยรุ่นทุกแนว รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการจับมือกันครั้งแรกของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยฮอนด้า B.O. โปรเจค เทศบาลเมืองชะอำ และรายการ ไฟว์ไลฟ์ และโอไอซี ซึ่งเมื่อที่สุดของที่สุดเจอกัน รับรองจะมีแต่ความสนุกคึกครื้นแบบไม่มียั้งอย่างแน่นอน"

สำหรับกติกาการเข้าชม เพียงส่ง SMS พิมพ์คำว่า Honda เว้นวรรคแล้วตามด้วย ชื่อ-นามสกุล ส่งมาที่ 480266 จากนั้นนำ SMS ตอบกลับมาแสดงที่บริเวณทางเข้างาน เพื่อรับสิทธิมันส์กับดนตรีแนวๆ ริมทะเล 2 ท่าน และพิเศษสุดๆ ทุก SMS ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกไอ ระบบหัวฉีด PGM-Fi ไปขี่สนุกกันอย่างง่ายๆ

ได้เวลาสนุกกับฮอนด้าหัวฉีด และมหกรรมดนตรี "Honda Click I Reggae on the Rock" ในวันที่ 8 สิงหาคม 2552 ณ ริมทะเล ชายหาดชะอำฝั่งเหนือ จ.เพชรบุรี รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ในรายการ "ไฟว์ไลฟ์" สด ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 00.15 น. ทางช่อง 5 กับ "โอไอซี" สด ทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 12.30 น.ทางช่อง 5 และทางเคเบิ้ลทีวี "แบง แชนแนล" ช่องวาไรตี้วัยรุ่น 24 ชั่วโมง หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ gmmtv.gmember.com หรือ http://www.bangchannel.com/

เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2009/2009_page118.asp?id=2083

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Honda Radio วิทยุออนไลน์สไตล์ Honda

และแล้วก็ได้เวลาเปิดตัวเว็บไซต์วิทยุออนไลน์ของ Honda เสียที ซึ่งจะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2552 นี้เป็นต้นไป รายการจะออกอากาศทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น. ใครอยากทราบข่าวสารโปรโมชั่นฮอนด้าก่อนเพื่อน ห้ามพลาด!

เชิญรับฟังได้ที่ http://www.hondaradio.net/

โฆษณา Yamaha Spark Nano

ล่าสุดกับโฆษณาของรถมอไซค์ยามาฮ่า สปาร์ค นาโน รุ่นใหม่ ที่ได้วงโปงลางสะออนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์



วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การพัฒนาทีมขายเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญ ตลอดมา เห็นได้จากการจัดกิจกรรมอบรมเพิ่มพูนความรู้ และทักษะด้านการขายให้กับพนักงานขาย ของผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพราะทาง บมจ. เอส.พี.ซูซูกิ เชื่อ มั่นว่าพนักงานขายถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะนำโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไปสู่ความสำเร็จสูงสุดใน ด้านการขาย ล่าสุดได้จัดการแข่งขันยอดนักขายซูซูกิประจำปี 2552 (Suzuki Topmost Salesman Contest 2009) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้แทนจำหน่ายที่ส่งน้องๆ พนักงานขายเข้าอบรมมากกว่าทุกๆ ครั้ง จึงต้องจัดแบ่งออกเป็น 2 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 จัดขึ้นในวันที่ 13-15 กรกฎาคม และรุ่นที่ 2 ในวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2552 ณ ศูนย์ฝึกอบรม บมจ. เอส.พี.ซูซูกิ

ในครั้งนี้ คุณสถิตย์พงษ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) เป็น ประธานในพิธีเปิดการอบรม พร้อมบรรยายหัวข้อ “100 ปี กับซูซูกิ นวัตกรรมที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ถ่ายทอด ประสบการณ์และเทคนิคการสร้างสายสัมพันธ์จัดการกับข้อร้องเรียนของลูกค้า” การทำ CSI & CRM เพื่อการขาย แบบมืออาชีพ (Customer Satisfaction Index and Customer Relationship Management) โดยอาจารย์ไพบูลย์ ล้วนวรวัฒน์ จากสถาบัน Nine Development and Service ร่วมบรรยายให้ผู้เข้าอบรมได้รู้จัก และเข้าใจใน ความต้องการของลูกค้าที่แท้จริง วิธีการวัดค่า และการประเมินผลความพึงพอใจของลูกค้า แนวทางการพัฒนา ความพึงพอใจของลูกค้าในเป็นความปลื้มปิติ หลักการสำคัญและขบวนการของ CRM หลังจากที่ผู้เข้าอบรมร่วม อบรมกันมาทั้งวันแล้ว ทีมงานจึงปล่อยให้ผู้เข้าอบรมได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ฟิตร่างกายเตรียมพร้อมเข้าอบรม ในวันต่อไปการอบรมในเช้าวันที่สอง นำเข้าสู่เส้นทางนักขายมืออาชีพ (Way of Life!...Way of Salesman!) โดย อาจารย์ สุทธิพงศ์ เมธาภิวัฒน์ จากสถาบันพัฒนาบุคคลและระบบคุณภาพในเรื่องพัฒนาตนเอง และทีมในส่วน ของการฝึกภาวะของการเป็นผู้นำและการพัฒนาบุคลิกภาพนักขาย ทักษะการสื่อสาร การสร้างแรงจูงใจ และเทค นิคการนำเสนออย่างมืออาชีพ ผู้เข้าร่วมอบรมสนุกสนาน เฮฮากับการอบรมในหัวข้อนี้มาก เพราะนอกจากจะได้ รู้เทคนิคในการพูด การยืน และการเดินมาปรับใช้กับตนเองให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าเราสามารถปรับปรุงได้ เราก็จะมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น มีความมั่นใจ กล้าที่จะพูดชักชวนให้ลูกค้าสนใจสินค้า ต่างๆ มากขึ้น ส่วนในวันสุดท้ายของการอบรม ผู้เข้าอบรมจะได้ทราบถึงกลยุทธ์การกำหนดเงื่อนไนการขายอย่าง ชาญฉลาด โดย คุณธีรพล พิบูลย์ผล ผู้จัดการแผนกขายภาคกลางและตะวันออก บมจ. เอส.พี.ซูซูกิ ร่วมแนะนำ เทคนิคการเป็นสุดยอดนักขายแบบง่ายๆ พร้อมเทคนิคการคำนวณ อาทิ การคำนวณค่างวด จำนวณงวด และ อัตราดอกเบี้ย กลยุทธ์การกำหนดเงื่อนไขการขายโดยใช้การคำนวณ

หลังจากพักรับประทานของว่างเสร็จเรียบร้อย ทีมวิทยากรได้แบ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันออกเป็นกลุ่มๆ โดยนำทฤษฎี หลักการต่างๆ ที่วิทยากรได้บรรยายมาปรับประยุกต์ใช้ในการแข่งขันตามหัวข้อที่ทางทีมงานได้จัด เตรียมไว้ เพื่อให้แต่ละคนแต่ละทีมได้ฝึกใช้ความคิด เรียนรู้วิธีการเขียนแผนงานอย่างสร้างสรรค์และยังได้ฝึก ทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม พร้อมการนำเสนอแผนงานอย่างมีระบบ

ปิดท้ายงาน โดย คุณสถิตย์พงษ์ พรประภา มอบเกียรติบัตรแก่ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันยอดนักขาย ซูซูกิประจำปี 2552 และการร่วมถ่ายภาพหมู่ที่ระลึกเก็บเป็นความทรงจำ ที่ได้ร่วมฟันฝ่าอุปสรรคด้วยกัน

ทาง บมจ.เอส.พี.ซูซูกิ มุ่งหวังว่าการจัดอบรมครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาศักยภาพของพนักงานก้าวขึ้นไปสู่ การเป็นหัวหน้าทีมขาย และสามารถนำเอาสิ่งที่ได้รับการอบรมนำไปใช้ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานประจำวัน ได้ยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่แต่ละองค์กรได้วางไว้ อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน)

เพิ่มเติม http://www.spsuzuki.com/Community/Thai/News/Detail/News09-0711.asp#


"ฟีม" ขอทุ่ม 110 เปอร์เซนต์ฝืนเจ็บบิดบริติช จีพี


รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดไทย-ฮอนด้า-พีทีที-แซค ประกาศขอฝืนอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลังลงแข่งขันรายการบริติช กรังด์ปรีซ์ 2009 ที่ประเทศอังกฤษในสุดสัปดาห์นี้ แม้ว่าเพิ่งจะประสบอุบัติเหตุรถล้มจากศึกเยอรมัน จีพี ก็ตาม

"เจ้าฟีม" โชคร้ายสุดขีดเมื่อรถฮอนด้าคู่ใจสะบัดล้มในโค้งแรกของรอบแรก จนต้องออกจากการแข่งขันที่สนามแซสเซนริง ประเทศเยอรมนี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังทีมสต็อปแอนด์โก (แซค) ลงมติไม่ให้นำรถลงไปแข่งขันต่อ เพื่อรักษาสภาพร่างกายเอาไว้สำหรับสนามต่อไป

โดยศึกมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกมีคิวแข่งขันต่อเนื่องในสุดสัปดาห์นี้ ที่โดนิงตัน พาร์ค ประเทศอังกฤษ ซึ่งแม้ว่าฟีมจะยังคงมีอาการปวดหลังจากอุบัติเหตุแต่ก็ยืนยันว่าจะลงบิดที่ประเทศอังกฤษอย่างแน่นอน

"ผมยังอยู่ในช่วงพักพื้นจากอาการเจ็บหลังจากอุบัติเหตุในโค้งแรกที่แซนเซนริง แต่ผมมั่นใจว่าสภาพร่างกายของผมจะพร้อมลงแข่งขันที่โดนิงตันพาร์คในวันอาทิตย์นี้ได้อย่างแน่นอน ผมจำเป็นต้องทุ่มเท 110 เปอร์เซนต์ เพื่อลบความผิดหวังให้ได้" ฟีมเผย

สำหรับ "เจ้าลิงน้อย" เคยประเดิมผลงานดีที่สุดในปี 2007 ซึ่งเป็นปีแรกที่เข้าแข่งขันแบบเต็มตัวด้วยการจบอันดับที่ 8 ในรายการนี้ โดยศึกบริติช กรังด์ปรีซ์ 2009 รุ่น 250 ซีซี จะดวลความเร็วกันในวันอาทิตย์ที่ 26 ก.ค.นี้เวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082766

เปิดตัวยิ่งใหญ่ “ยามาฮ่าสปาร์ค นาโน สะออนทั่วไทยกับโปงลางสะออน” ครั้งที่ 3 จ.กระบี่

ครั้งที่ 3 กับกิจกรรมเปิดตัวรถสปาร์ค นาโน ครั้งนี้ล่องใต้มากันที่ จ.กระบี่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เริ่มต้นกิจกรรมตั้งแต่ช่วงบ่ายโดยมีกลุ่มยามาฮ่าคลับร่วมทานอาหารกลางวัน และร่วม Meet & Greet รวมทั้งเล่นเกมส์มันๆ กับศิลปินโปงลางสะออนกันที่ร้านไก่ย่างเนื้อทอง ก่อนตั้งขบวนทัวร์ริ่ง เดินทางมายังผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า หจก.มหาราชมอเตอร์ไซค์ สาขาตลาดเก่า เพื่อร่วม Meet & Greet แล้วเดินทางต่อเพื่อมอบโชคให้กับ “ผู้โชคดีขี่ยามาฮ่า” ที่ตลาดสดเทศบาลเหนือคลอง และเข้าสู่กิจกรรมของงานนี้ซึ่งจัดขึ้นที่สนามฟุตบอลโรงเรียนเหนือคลองประชาบำรุง โดยมีกิจกรรมสนุกสุดมันส์มากมายอาทิ เกมซูเปอร์คุ้มคูณ 3 ซึ่งผู้นำชุมชนได้แสดงฝีมือควบคุมรถผ่านอุปสรรคต่างๆ เพื่อไปนำผลไม้มาชั่งน้ำหนักให้ได้ตามที่กำหนด, เกมยามาฮ่าใกล้ชิดโรงเรียนซึ่งมีทั้งแข่งชักเย่อ และวิ่งเปี้ยว

ช่วงค่ำบนเวทีใหญ่คุณสมพงษ์ เอ่งฉ้วน ผู้จัดการ หจก.มหาราชมอเตอร์ไซค์ ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสาขาเหนือคลองได้มอบทุนการศึกษา 5,000 บาท ให้แแก่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 1 ก่อนพบกับไฮไลท์ของงาน "โปงลางสะออน" ที่เล่นกับผู้ชมได้อย่างสนุกสนานเรียกเสียงฮาจากผู้ชมที่เข้าชมกันอย่างเนืองแน่น ในครั้งหน้าพบกับกิจกรรมมันส์ๆแบบนี้อีกครั้งที่ อ.กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=998

ซีพีเล็งซื้อโรงงานผลิตจยย.ในจีน

ซีพี เล็งซื้อกิจการมอเตอร์ไซค์ในจีน ชี้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง แนะรัฐบาลเร่งแก้การเมือง ดูดนักลงทุนมาไทย

ธนากร เสรีบุรีนายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการ และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจยานยนต์ อุตสาหกรรมทั่วไปและการเงิน เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า ซีพีกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าเทกโอเวอร์กิจการรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการกว่า 100 ราย และหลายรายกำลังประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เน้นตลาดส่งออก

ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตจะ มีผู้ประกอบการไม่เกิน 20 ราย ซึ่งซีพีมองว่าภายใน 2 ปี จะ ขยายโรงงานผลิตรถมอเตอร์ไซค์เพิ่ม เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศจีน ที่ปัจจุบันซีพีมีโรงงานผลิตรถมอเตอร์ไซค์ 3 โรงงาน ลงทุนไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศจีนของซีพี ภายใต้แบรนด์ต้าหยางและต้ายวิ่น ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากเน้นตลาดภายในประเทศส่งออกเพียง 25% จากยอดขาย 1.5 ล้านคัน ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ทิศทางของเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้ยอดขายในปีนี้จะอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน หรือเติบโต 10%

สำหรับกลุ่มธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมของซีพีในประเทศจีน มียอดขายประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่วนซูเปอร์แบรนด์มอลล์ห้างค้าปลีกในเมืองเซี่ยงไฮ้ คาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท

นายธนากร กล่าวว่า รัฐบาลและนักธุรกิจไทยควรหันมาให้ความสำคัญในการขยายตลาดไปประเทศจีน เพราะคนจีนยังมี กำลังซื้อโดยเฉพาะผลไม้ไทย และควรดึงนักลงทุนจากเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต่อยอดจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือนและเคมี

“ตอนนี้นักธุรกิจจีนให้ความสนใจมาลงทุนในไทยค่อนข้างมาก เพราะรัฐบาลให้สิทธิพิเศษในการขยายกิจการ แต่เขาดูเรื่องความมั่นคงทางการเมืองด้วย เพราะปัญหาการเมืองเท่าที่ผ่านมาทำ ให้คนจีนย้ายไปลงทุนในมาเลเซียและอินโดนีเซียบ้างแล้ว” นาย ธนากร กล่าว

เพิ่มเติม http://www.posttoday.com/business.php?id=57081

รัฐทุ่ม19ล้านดันมอเตอร์ไซค์ใช้โซฮอล์ 91

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ สนพ.จะเริ่มดำเนินกิจกรรมรณรงค์การใช้แก๊สโซฮอล์อีกระลอกหนึ่ง โดยจะเน้นกลุ่มรถจักรยานยนต์ เนื่องจากพบว่า รถจักรยานยนต์ที่มีอยู่ในประเทศขณะนี้ จำนวนกว่า 20 ล้านคัน มีสัดส่วน 80-90% ที่ใช้เบนซิน 91 ทั้งๆ ที่เป็นรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะที่ผ่านมา ภาครัฐยังไม่ได้เน้นรณรงค์และสร้างความเชื่อมั่นแก่กลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ มากเท่าที่ควร ดังนั้นในการส่งเสริมแก๊สโซฮอล์รอบใหม่ และ สนพ.ได้รับงบประมาณสนับสนุนปี 2552 วงเงิน 19 ล้านบาท ก็จะเน้นไปที่กิจกรรมสร้างความมั่นใจและรณรงค์ให้กลุ่มรถจักรยานยนต์ใช้แก๊สโซฮอล์เป็นหลัก

ด้านแหล่งข่าวจาก กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ส่งเสริมรถ FFV หรือรถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ ที่มีส่วนผสมเอทานอลไม่น้อยกว่า 85% หรือ รถอี 85 โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อชดเชยภาระภาษีสรรพสามิตรถยนต์ FFV 3% พบว่าปัจจุบันมีค่ายวอลโว่ยื่นเสนอเข้าโครงการแล้ว และจะมีค่ายรถอื่นๆ อยู่ระหว่างพิจารณาเข้าร่วมโครงการนี้อีก

"ตอนนี้นอกจาก วอลโว่ จีเอ็ม และ ฟอร์ดแล้ว ยังมีค่ายรถยนต์นอกกลุ่มยุโรปอีกค่ายหนึ่ง พร้อมจะเข้ามาผลิตและทำตลาดรถ FFV เพิ่มด้วย หลังจากเห็นว่ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะส่งเสริมใช้รถและน้ำมันอี 85" แหล่งข่าว กล่าว

อย่างไรก็ตาม ค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องยื่นเอกสาร 2 ขั้นตอน ขั้นแรกจะต้องยื่นกำลังผลิต และใบรับรองต่างๆ ที่ยืนยันว่าเป็นรถ FFV ตามข้อกำหนด และส่วนที่สองเมื่อเริ่มจำหน่ายให้กับผู้แทนจำหน่ายแล้วให้ยื่นเอกสารเพื่อขอรับเงินชดเชยอีกครั้ง และในวันที่ 22 ก.ค. นี้ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น กระทรวงการคลัง กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และค่ายรถยนต์ เพื่อรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคของการส่งเสริมรถ FFV รวมถึงหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ด้าน นายปุณณชัย ฟูตระกูล ผู้จัดการฝ่ายตลาดก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากราคาน้ำมันขยับขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ พบว่าปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) สูงขึ้น เฉลี่ย 3,500 ตันต่อวัน จากไตรมาสแรกอยู่ที่ 3,300 ตันต่อวัน ยอดติดตั้งเพิ่มจาก 30-40 คันต่อวัน เป็น 80-90 คันต่อวัน โดยคาดปีนี้จะมีรถติดตั้งเอ็นจีวีประมาณ 3.8 หมื่นคัน จากที่ปีก่อนที่มียอดติดตั้งถึง 7.2 หมื่น คัน รวมขณะนี้มียอดติดตั้งเอ็นจีวีไปแล้ว 1.47 แสนคัน

ยามาฮ่าตอกย้ำความเป็นผู้นำ คว้าแชมป์รุ่น Automatic และ Family 2 รายการซ้อน ชิงแชมป์ถ้วยพระราชทานฯ และ ชิงแชมป์ประเทศไทย

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงถ้วยพระราชทานฯ รายการ “Motorcycle Mag. Road Racing Championship 2009” ที่ทำการแข่งขันเมื่อวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2552 ณ สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต พัทยา ที่ผ่านมา

งานนี้ทีมร่วมของยามาฮ่ายกทัพลงทำการแข่งขันในรายการนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ทีม Yamaha IRC DID คอมดาวGazi น้ำบาน โก๋ท่ามะกา , Yamaha IRC DID สมาร์ทสปอร์ต สนองไซเคิลเรซ , Yamaha Hi-Speed Veerubber ทีม , ยามาฮ่า ประดิษฐ์พงศ์ สายพิณผ้าไหม สุราษฎร์ธานี ไฮสปีค YSS NGK หนุ่มเกียร์โยง เบิร์ด เพชรเกษม และ ยามาฮ่า พีเอ็มไซเคิล 2002 คำนวนบำรุงพืช Gazi ไฮสปีค วรวุฒิทีม

เมื่อการแข่งขันในรุ่น Automatic Novice เริ่มขึ้น วาริช วรธนานนท์ นักแข่งจากทีม Yamaha IRC DID สมาร์ทสปอร์ต สนองไซเคิลเรซ นำม้วนเดียวจบ ทะยานผ่านธงหมากรุกเป็นอันดับ 1

ส่วนในรุ่น Automatic C นัฐพล สินชัย จากทีม Yamaha IRC DID คอมดาวGazi น้ำบาน โก๋ท่ามะกา ขึ้นนำถึงรอบสุดท้าย อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ มาแซงเพียงไม่นาน ณัฐพล สินชัย ยกคันเร่งทะยานผ่านธงหมากรุกได้สำเร็จ

รุ่น Family B ชานนท์ ชุ่มใจ จากทีม Yamaha Hi-Speed Veerubber คว้าธงหมากรุกในรุ่น ตามด้วยเพื่อนสังกัดทีมเดียวกันอย่าง ธเนศ สุขเจริญ จากทีม ยามาฮ่า ประดิษฐ์พงศ์ สายพิณผ้าไหม สุราษฎร์ธานี ไฮสปีด YSS NGK หนุ่มเกียร์โยง เบิร์ด เพชรเกษม ตามมาเป็นอันดับ 2 ส่วนในรุ่น

รุ่น Family C ธเนศ สุขเจริญ จากทีม ยามาฮ่า ประดิษฐ์พงศ์ สายพิณผ้าไหม สุราษฎร์ธานี ไฮสปีด YSS NGK หนุ่มเกียร์โยง เบิร์ด เพชรเกษม คว้าธงหมากรุกในรุ่น Family C ตามด้วยกรรณสูตร สิทธิเสนา จากทีมยามาฮ่า พีเอ็มไซเคิล 2002 คำนวนบำรุงพืช Gazi ไฮสปีด วรวุฒิทีม ทะยานผ่านธงหมากรุกเป็นอันดับ 2

นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของทีมร่วมของยามาฮ่า ที่สามารถคว้าแชมป์ทั้ง 2 รายการ มาครองได้สำเร็จ สำหรับรายการMotorcycle Mag Road Racing Championship 2009 สนามที่ 3 จะทำการแข่งขันในวันที่ 29-30 สิงหาคม 2552 ที่จะถึงนี้ ส่วนผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง

ผลการแข่งขัน รายการ Motorcycle Mag Road Racing Championship 2009 สนาม 2
รุ่น Automatic Novice
1. วาริช วรธนานนท์ Yamaha IRC DID สมาร์ทสปอร์ต สนองไซเคิลเรซ Yamaha Y.Mio
2. มุกข์ลดา สุขมาก Suzuki IRC X-Tech CDI Yss ตี๋ปากน้ำ Suzuki S.Step
3. ธิติ โชครัตนกุล พนมอะไหล่ C.D.I X-5 Yss เบาะหน่อยวัดด่าน กีต้าร์ เรซซิ่งทีม Honda H.Click

รุ่น Automatic C
1. ณัฐพล สินชัย Yamaha IRC DID คอมดาวGazi น้ำบาน โก๋ท่ามะกา Yamaha Y.Mio
2. อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ฮอนด้า วีรับเบอร์ NJT Gazi ทีม Honda H.click
3. วาริช วรธนานนท์ Yamaha IRC DID สมาร์ทสปอร์ต สนองไซเคิลเรซ Yamaha Y.Mio

รุ่น Family B
1. ชานนท์ ชุ่มใจ Yamaha Hi-Speed Veerubber Yamaha Y.Spark
2. ธเนศ สุขเจริญ ยามาฮ่า ประดิษฐ์พงศ์ สายพิณผ้าไหม สุราษฎร์ธานี ไฮสปีด YSS NGK หนุ่มเกียร์โยง เบิร์ด เพชรเกษม Yamaha Y.Spark
3. สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง Castrol Honda IRC DID Yss ดิเรกทีม Honda H.Wave

รุ่น Family C
1. ธเนศ สุขเจริญ ยามาฮ่า ประดิษฐ์พงศ์ สายพิณผ้าไหม สุราษฎร์ธานี ไฮสปีด YSS NGK หนุ่มเกียร์โยง เบิร์ด เพชรเกษม Yamaha Y.Spark
2. กรรณสูตร สิทธิเสนา ยามาฮ่า พี่เอ็มไซเคิล 2002 คำนวนบำรุงพืช Gazi ไฮสปีด วรวุฒิทีม Yamaha Y.Spark
3. จักรกฤษณ์ แสวงสวาท Honda Dunlop Yss Osaki Yasaki หนุ่ยเกียร์โยง แดงบางทราย Honda H.Wave

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=997

6คำถามกับ"ฮอนด้า-ยามาฮ่า"มองเหมือนหรือมองต่าง?

“ธีระพัฒน์ จิวะพงศ์” กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด และ “ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด

ปิดตลาดรถจักรยานยนต์ครึ่งแรกของปี 2552 เหมือนเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เมื่อยอดขายตกต่ำน้อยกว่าที่คาดไว้ ดังนั้นทิศทางตลาดในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นเช่นไร? และมีกลยุทธ์ชิงยอดขายยังไงบ้าง? สองค่ายสองล้อคู่แข่งสำคัญ “ฮอนด้า” ในฐานะเบอร์หนึ่ง และ “ยามาฮ่า” เบอร์สอง จะมาเปิดอก แล้วจะรู้ว่าคู่แข่งที่ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด!... เขามองเหมือน หรือมองต่างกันอย่างไร?


ในส่วนของฮอนด้าส่ง “ธีระพัฒน์ จิวะพงศ์” กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด และยามาฮ่ามี “ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เป็นตัวแทนของทั้งสองค่าย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในระยะเวลาห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ และ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้นำคำตอบในคำถามเดียวกันมาลง เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นมุมมองของทั้งสองยี่ห้อ...

ประเมินตลาดปีนี้ใหม่อย่างไร
ธีระพัฒน์ – เดิมเราคาดว่าตลาดปีนี้จะลดลงจากปีที่แล้ว 20-30% แต่สถานการณ์หลังครึ่งปีแรกที่ลดลงเพียง 15% และทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ของตลาด ทำให้เชื่อว่าตลอดทั้งปีน่าจะอยู่ลดลงไม่เกิน 15% หรือมียอดขายประมาณ 1.4 ล้านคัน และอาจจะถึง 1.45 ล้านคัน ส่วนฮอนด้าคาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน
ประพันธ์ – ยามาฮ่าประเมินตลาดเมื่อต้นปีอยู่ที่ 1.45 ล้านคัน หรือลดลงจากปีที่แล้ว 15% ผ่านไปครึ่งปีเป็นไปตามที่ประเมินไว้ แต่เมื่อสถานการณ์ตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น เราจึงได้ปรับใหม่เป็นลดลงเพียง 12% หรือยอดขาย 1.5 ล้านคัน และในส่วนยามาฮ่าปรับเป้าการขายจาก 4 แสนคันในปีนี้ เพิ่มเป็น 4.2 แสนคัน

ทิศทางของรถแบบหัวฉีด
ธีระพัฒน์ – ฮอนด้าเริ่มรุกรถหัวฉีดจริงจังเมื่อต้นปี กับรุ่นคลิก ไอ ช่วงแรกลูกค้ารู้สึกลังเล แต่เมื่อได้ใช้และรับรู้ถึงประสิทธิภาพ ปัจจุบันกระแสจึงดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้รถหัวฉีดเป็น 70% ของยอดขายฮอนด้าทั้งหมด
ประพันธ์ – ปัจจุบันลูกค้ายังต้องการความหลากหลายของสินค้า กระแสยังไม่ใช่ไปทางรถหัวฉีดทั้งหมด ฉะนั้นจึงยังมีเวลาของมันอยู่ โดยยามาฮ่ามีแผนที่จะปรับเปลี่ยนเป็นระบบหัวฉีดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

สินค้าใหม่ที่จะรุกตลาดปีนี้
ธีระพัฒน์ - ในช่วงครึ่งปีหลังฮอนด้าจะมีการแนะนำรถอีก 2-3 รุ่นสู่ตลาด โดยเป็นรถรุ่นใหม่หมด
ประพันธ์ – มีแน่นอน และล่าสุดเพิ่งแนะนำ ยามาฮ่า สปาร์ค นาโน สู่ตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายรถมีเกียร์

ตลาดรถออโต้กับแบบเกียร์
ธีระพัฒน์ – ปัจจุบันตลาดรถแบบออโตเมติกมีสัดส่วน 45% และรถเกียร์(โซ่) 65% ซึ่งในส่วนของรถเกียร์ ฮอนด้ามีส่วนแบ่งตลาดกว่า 90% ขณะที่ตลาดรถออโตเมติกฮอนด้าก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ประพันธ์ – ยามาฮ่าเป็นผู้นำตลาดรถออโตเมติก ครองส่วนแบ่งกว่า 52% และล่าสุดเปิดตัวรุ่นสปาร์ค นาโน จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดรถเกียร์ของยามาฮ่าได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 5%

กิจกรรมรุกตลาดในช่วงนี้
ธีระพัฒน์ – เนื่องในโอกาสรถจักรยานยนต์ออนด้าคลิก มียอดขายมุ่งสู่ 1 ล้านคัน เพื่อตอบแทนลูกค้าจึงได้จัดแคมเปญ “คลิกแจกใหญ่ ได้ไม่ต้องลุ้น” เพียงซื้อรถฮอนด้า คลิก ไอ รุ่นใดก็ได้ มีสิทธิ์เลือกรับของขวัญฟรี 1 เซ็ท จากทั้งหมด 5 เซ็ท รวมมูลค่าแจกทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนนี้
ประพันธ์ – เราเพิ่งเปิดตัวรุ่นฟีโน่ ใหม่ พร้อมกับแนะนำแคมเปญ My FINO, My Experience สู่ตลาด โดยใช้งบประมาณ 100 ล้านบาทรองรับ ทั้งการทำกิจกรรม โฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ และล่าสุดจัดกิจกรรม “ยามาฮ่า สปาร์ค นาโน สะออนทั่วไป กับโปงลางสะออน” ใช้งบกว่า 40 ล้านบาท

การรุกตลาดและภาพลักษณ์
ธีรวัฒน์ – เป็นนโยบายของฮอนด้าที่เน้นกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ดังจะเห็นจากการสนับสนุน “ฟิม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับเวิลด์กรังปรีซ์ ซึ่งก็พัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ หรือล่าสุดได้เข้าไปสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมชาติไทยและลิเวอร์พูล เพราะเรามองว่ากีฬาเป็นสิ่งที่ไม่ตายและเข้าได้กับทุกเพศทุกวัย ส่วนเหตุผลที่ฮอนด้าไม่ใช้พรีเซ็นเตอร์เกาหลี หรือต่างชาติ เนื่องจากเราทำธุรกิจมีกำไรในเมืองไทย ดังนั้นจึงอยากคืนให้กับคนไทย และเงินก็ยังคงอยู่กับประเทศไทย
ประพันธ์ – สาเหตุที่ยามาฮ่าเน้นกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง เพราะเป็นสิ่งที่มันไม่ตาย ไปได้ในทางการตลาด ที่ผ่านมาเราจึงเน้นตรงนี้ แต่ไม่ใช่มีพรีเซ็นเตอร์ต่างประเทศเท่านั้น ดารานักร้องนักแสดงไทยเราก็นำมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ อย่างรุ่นสปาร์ค นาโน ยามาฮ่าก็ใช้วงโปงลางสะออน เพราะเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและตลาด เป็นที่ชื่นชอบตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวผลิตภัณฑ์มากกว่า สิ่งไหนเหมาะสมกับอะไร และต่อมาเราก็เริ่มมีกิจกรรมสปอร์ตขยายเข้าหากลุ่มลูกค้ามากขึ้นเช่นกัน

เพิ่มเติม http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082035

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มอเตอร์ไซค์เมินโซฮอล์91 ปตท.กุมขมับยอดไม่ขยับ

ปตท. ยอมรับยอดขายแก๊สโซฮอล์ 91 ไม่ขยับ รัฐต้องนำร่องเร่งสร้างความมั่นใจเรื่องคุณภาพเครื่องยนต์ โดยเฉพาะค่ายรถมอเตอร์ไซค์ไม่ยอมรับ

นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการตลาดค้าปลีก บริษัท ปตท. เปิดเผยถึงปริมาณการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ว่า ในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในอัตราคงที่ไม่ได้ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากลูกค้ายังไม่มีความมั่นใจผลกระทบที่จะมีต่อเครื่องยนต์ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้มีการใช้มากขึ้นเพื่อทดแทนเบนซิน 91

ทั้งนี้ การส่งเสริมให้รถจักรยานยนต์ หันมาเติมแก๊สโซฮอล์ 91 ภาครัฐจะต้อง เข้ามาสร้างความเชื่อมั่นเอง ในขณะที่บริษัทน้ำมันไม่ควรเข้ามาจัดทำแคมเปญส่งเสริมการจำหน่ายได้ อาจถูกมองว่ามีผลประโยชน์ในเชิงธุรกิจ ซึ่งยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 ของปตท. เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 1 ล้านลิตรเท่านั้น

“ปตท. คงไม่เข้าไปกระตุ้นยอดขายแก๊สโซฮอล์โดยตรง เนื่องจากเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ ส่วนการขยายหัวจ่ายแก๊สโซฮอล์ก็ต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งคลังเก็บน้ำมัน การสต๊อกน้ำมัน ตลอดจนระบบการขนส่ง เพราะยิ่งมีจำนวนชนิดน้ำมันมากขึ้นก็ต้องวางระบบการจัดเก็บให้ดีด้วย และไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไป อย่างกรณีแก๊สโซฮอล์ อี20 ตอนนี้หยุดขยายปั๊มไปก่อน เพราะยอดขายไม่เพิ่มขึ้น หากลงทุนมากเกินไปจะไม่คุ้ม” นายวิทยา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังคงไม่ขยายตัวมากนัก โดยพยายามรักษาค่าการตลาดน้ำมันให้ได้ 1.50 บาท/ลิตร ใกล้เคียงกับปีก่อน ในขณะที่ค่าการตลาดเฉลี่ยครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1.30 บาท/ลิตรเท่านั้น ส่วนภาพรวมธุรกิจปั๊มน้ำมันในปีนี้คงไม่มีการแข่งขัน เพราะไม่มีแรงจูงใจให้มีการลงทุนเพิ่มเติม โดยส่วนใหญ่จะพยายามรักษามาตรฐานการให้บริการไว้รองรับลูกค้า

รายงานข่าวจากกรมธุรกิจพลังงาน แจ้งว่ายอดจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 ในเดือนมิ.ย. อยู่ที่วันละ 3.7 ล้านลิตร เทียบกับเบนซิน 91 มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 7.8 ล้านลิตร/วัน แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 7.7 ล้านลิตร/วัน เบนซิน 95 อยู่ที่ 5.3 แสนลิตร/วัน ส่วนแก๊สโซฮอล์ อี20 อยู่ที่ 2.2 แสนลิตร/วัน โดยความนิยมในการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ยังไม่ขยายตัวเท่าที่ควร เนื่องจากตามเป้าหมายของแผนพลังงานทดแทน 15 ปี กำหนดเป้าหมายว่าในปี 2552 ยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 จะต้องอยู่ที่ 5.69 ล้านลิตร/วัน

เพิ่มเติม http://www.posttoday.com/news.php?id=57938

ตลาดรถมอไซค์สารคามคึกยอดโตสวนทาง10%

ทึ่ง ! ตลาดรถมอเตอร์ไซค์เมืองสารคาม 2 ไตรมาสคึกสวนกระแส ยอดพุ่งกว่า 10% เผยได้อานิสงส์จากนโยบายอัดฉีดเงินจากภาครัฐและกำลังซื้อจากกลุ่มโจ๋นักศึกษา ค่ายฮอนด้าสบช่องวิ่งเจาtกลุ่มลูกค้าชิงยอดปลายปี เผย "ดาวน์ต่ำ" เวิร์ก

นายเอกนริน ชัยคณารักษ์กูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ที โอ เอช มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม 5 สาขา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว แต่ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ยอดขายสินค้าหมวดรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเพิ่ม 20% ถือว่าโตแบบผิดปกติ เมื่อวิเคราะห์จึงรู้ว่าได้รับอานิสงส์จากนโยบายการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น เงิน 2 พันบาทช่วยผู้มี รายได้น้อยรวมทั้งนโยบายเรียนฟรี น้ำฟรี ไฟฟ้าฟรี ฯลฯ ส่งผลให้ชาวบ้านมีเงินมาจับจ่ายสินค้า ประกอบกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายวางดาวน์ต่ำเพียง 2-3 พันบาทก็เอารถไปใช้ได้เลย ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถเร็วขึ้น

นายเอกนรินเปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ไตรมาส 3 กำลังอยู่ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษายอดขายอาจลดลงบ้างไม่เฉพาะตลาดภาคอีสาน รวมทั้งตลาดภาคเหนือก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน เนื่องจากประชาชนจะหันไปจับจ่ายทางด้านศาสนา แต่ยอดก็คงจะตกไม่มากเพราะจำนวนประชากร นักศึกษากว่า 7 หมื่นคน ยังช่วยกระตุ้นกำลังซื้อสินค้าต่างๆ ในพื้นที่อยู่ตลอดเวลา

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เนื่องเพราะ 2 ไตรมาสสุดท้ายการต่อสู้จะรุนแรงมาก ทางร้านเน้นกลยุทธ์ให้บริการหลังการขาย สร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อรถคันที่ 2 และบริการซ่อมบำรุง ขณะนี้ได้ร่วมกับบริษัทฮอนด้านำสินค้าออกไปแนะนำตามสถานศึกษา หมู่บ้าน สถานประกอบการ ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี คาดว่ายอดขายน่าจะเป็นไปตามเป้า

ทางด้านนายสุริยา ไชยสิทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายขายห้างหุ้นส่วนจำกัด อารีมิตรยนตการ เปิดเผยว่า ยอดขายรถจักรยานยนต์ 2 ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และจากกำลังซื้อลูกค้ากลุ่มเกษตรกรที่มีผลผลิตการเกษตรพวกข้าวได้ราคาดีจากมาตรการรับจำนำของรัฐบาลและกลุ่มลูกค้านักศึกษา ประกอบกับเป็นร้านเก่าแก่จึงมีลูกค้าขาประจำจำนวนมาก

"เราเป็นร้านเดียวที่ไม่มีการโฆษณาทางสื่อใดๆ แต่ใช้กลยุทธ์การขายหน้าร้านพูดคุยเป็นกันเอง ราคาสามารถยืดหยุ่นได้ รวมทั้งการให้บริการหลังการขายเมื่อลูกค้าเกิดความประทับใจ สำหรับ 2 ไตรมาสสุดท้ายและต่อเนื่องไปจนถึงปี 2553 ยอดขายคงน่าจะยังไปได้เรื่อยๆ แต่ก็คงต้องดูว่าพวกพืชผลการเกษตรจะได้ผลเต็มเม็ดหน่วยหรือไม่ รวมทั้งนโยบายการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะออกมาอีกหรือไม่ เพราะถ้ามีก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคมากยิ่งขึ้น" นายสุริยากล่าว

ทางด้านนายวิฑูรย์ เอี่ยมศรี ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดห้างหุ้นส่วนจำกัด สุพัฒน์มอเตอร์ เปิดเผยว่า ช่วง 2 ไตรมาสหลังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหลายอย่าง เช่น นำรถเก่ามาตีเทิร์น วางดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยถูก โดยมุ่งเจาะลูกค้ากลุ่มเกษตรกรและนักศึกษาเป็นหลัก สำหรับภาพรวมยอดขายปี 2552 มุ่งรักษาเป้ายอดขายเก่าเอาไว้เท่านั้น เพราะเพิ่งมาเปิดสาขาใหม่ใน จ.มหาสารคาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม มีนักศึกษาพำนักอยู่กว่า 7 หมื่นคน มีร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ทั้งรายเล็กและใหญ่ที่เป็นดีลเลอร์เปิดอยู่เกือบ 10 แห่ง และแต่ละร้านจะมีการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการขายอย่างรุนแรงต่อเนื่องตลอดปีเพื่อครองส่วนแบ่งการตลาด

เพิ่มเติม http://www.matichon.co.th/prachachat/view_news.php?newsid=02phu03200752&sectionid=0211&day=2009-07-20

ตลาดสองล้อครึ่งปีแรกยังไหว

ยอดจดทะเบียนในช่วงครึ่ปีแรกของตลาดมอเตอร์ไซค์พบว่ามียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 743,224 คันลดลงเมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 872,646 คัน โดยรถยอดนิยมที่ขายดียังคงเป็น รถแบบครอบครัวที่มียอดจดทะเบียน 368,675 คัน ตามมาด้วยรถเอ.ที.หรือรถเกียร์อัตโนมัติ 344,603 คัน, รถแบบแฟมิลี่สปอร์ต 18,289 คัน, รถแบบออฟโรด 6,011 คันและสปอร์ต 5,646 คัน ขณะที่ยอดขายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่ายอดจดทะเบียนสูงสุดในรอบ 10 เดือน โดยทำได้ 151,473 คัน รถที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรกเป็นของฮอนด้าเวฟ, ยามาฮ่า ฟีโน่, ฮอนด้า คลิก, ยามาฮ่ามีโอและฮอนด้าดรีม

ธีรพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขายบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะถดถอยนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อตลาดรถมอเตอร์ไซค์ ทำให้การเติบโตอยู่ในทิศทางที่ลดลง อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากตัวเลขการจดทะเบียนแล้วก็พบว่าเริ่มส่งสัญญาณในทางที่ดีขึ้น เพราะตลาดหดตัวต่ำกว่าที่ได้ประมาณการไว้ จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตลดลงถึง 20-30% แต่เมื่อถึงเวลากลับลดลงเพียง 15% เท่านั้น คาดว่าแนวโน้มของตลาดครึ่งปีหลังนี้จะคึกคัก แต่ล่ะค่ายจะมีการปล่อยแคมเปญและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดมากขึ้น

เพิ่มเติม : ผู้จัดการรายสัปดาห์

ยามาฮ่าเล่นสงครามราคา เซะแชร์รถเกียร์ธรรมดา

ค่ายสองล้อแข่งกันเดือด ยามาฮ่างัดรถใหม่เกียร์ธรรมดา 'สปาร์ค นาโน'ลุยคู่แข่งฮอนด้าและซูซุกิ ชูจุดขายด้านราคา-อะไหล่ถูก พร้อมอัดงบการตลาด40ล้านบาทส่งพรีเซ็นเตอร์ 'อี้ด-ลาล่า-ลูลู่'โปงลางสะออน ที่เข้ามาสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยที่ต้องการรถใช้งานที่คุ้มค่า เตรียมเดินสายโรดโชว์เข้าหากลุ่มเป้าหมายในเขตรอบนอกทั่วประเทศ มั่นใจรถรุ่นใหม่ขายได้7,000คันต่อเดือนและช่วยผลักส่วนแบ่งทางการตลาดของรถเกียร์ธรรมดาจาก5%เป็นมากกว่า 10%ภายในสิ้นปีนี้

หลังจากปลุกปล้ำรถยนต์เกียร์อัตโนมัติจนสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ1ไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนยามาฮ่าไปแล้ว วันนี้ค่ายยามาฮ่าก็เตรียมปลุกกระแสความนิยมของตลาดรถเกียร์ธรรมดาอีกครั้ง โดยตัดสินใจนำรถในรุ่นสปาร์ค นาโน เข้ามาเจาะตลาด ภายใต้คอนเซ้ปต์ 'ยามาฮ่า สปาร์ค นาโน ใหม่ ซูเปอร์คุ้ม คูณสาม คุ้มเงิน คุ้มงาน คุ้มนาน'

ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของยามาฮ่าจะถูกมองว่าเน้นการทำตลาดรถเกียร์อัตโนมัติ เนื่องจากมีการทุ่มทุนหลายร้อยล้านบาทในสร้างเซกเม้นต์ใหม่ให้กับตลาดและมีการทำกิจกรรมทางการตลาดจนเป็นที่ยอมรับและส่งผลให้ชื่อเสียงของแบรนด์ยามาฮ่าเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า ดังนั้นเมื่อแบรนด์มีความแข็งแกร่งแล้วจึงเตรียมสานต่อด้วยการรุกตลาดรถเกียร์ธรรมดาแบบจริงจังอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปจากตลาดเป็นเวลากว่า7ปี ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ก็มีความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ว่าจะสามารถทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดที่อยู่ 5% เติบโตมากกว่า10%

ความคาดหวังของยามาฮ่าที่ต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มนั้น มาจากความมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์ โดย สปาร์ค นาโน ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เกียร์ธรรมดา แบบ 110 ซีซี.4จังหวะ ส่วนดีไซน์รถนั้นมีการออกแบบใหม่หมดทั้งคัน สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 หรือเติมอี20ได้ มีระบบบำบัดไอเสียแบบกรอง2ตัว ผ่านมาตราฐานไอเสียระดับ6หรือยูโร 3 ขณะที่การออกแบบที่เก็บของใต้เบาะมีขนาดใหญ่สามารถจุของได้เยอะ ขณะที่กลุ่มเป้าหมายของรถในรุ่นนี้เป็นคนที่ต้องการรถเพื่อการใช้งาน ทนทาน ประหยัด

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของยามาฮ่ายังคงเป็นเครื่องยนต์แบบคาร์บูเรเตอร์ โดยเชื่อมั่นว่าความต้องการของเครื่องยนต์ดังกล่าวยังคงไปได้ แม้คู่แข่งอย่างฮอนด้าจะเดินหน้าไปก้าวหนึ่ง ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์แบบหัวฉีดในรุ่นเวฟ 110ไอ ที่มีคุณสมบัติด้านสมรรถนะ และประหยัดน้ำมันแต่ความได้เปรียบตรงจุดนี้ก็เป็นเสมือนดาบสองคมที่อาจจะกลับมาทำร้ายตัวเอง หรือเป็นหนามทิ่มอกตัวเองได้ เพราะยามาฮ่ากลับชูจุดเด่นของเครื่องยนต์แบบคาบูเรเตอร์เข้ามาเป็นตัวช่วยสื่อสารในรถรุ่นใหม่นี้ว่าเป็นรถที่ราคาถูกกว่ารถแบบหัวฉีด แถมดูแลรักษาง่าย ประหยัดน้ำมัน ไม่จุกจิก

โดยสปาร์ค นาโน มีราคารุ่นดรัมเบรก สตาร์ตเท้า ราคาคันละ 32,500 บาท,รุ่นดิสก์เบรก สตาร์ตเท้า ราคา 34,500 บาทและรุ่นดิสก์เบรก สตาร์ตมือและสตาร์ตเท้า ราคา 36,500 บาท ขณะที่ราคาของคู่แข่งอย่างเวฟ110ไอนั้นเริ่มต้นที่ 34,000-40,000บาท ส่วนซูซูกิ สแมช โมเดลปี2008ราคาเริ่มต้น 34,000-38,000บาท นอกจากนี้ยามาฮ่ายังมีการชูเรื่องอะไหล่ทดแทนที่ถูกกว่า โดยข้อมูลจากการสำรวจของยามาฮ่าพบว่าอะไหล่ของสปาร์ค นาโนเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์แบบเดิมพวกเขาจะถูกกว่า17%ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับอะไหล่ของเครื่องยนต์แบบหัวฉีดพวกเขาถูกกว่า 50%

การชูจุดเด่นเรื่องราคาและเรื่องอะไหล่ถือเป็นประเด็นสำคัญอีกจุดหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้ยอดขายของรถในรุ่นนี้ได้รับความนิยม เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อรถประเภทนี้เป็นกลุ่มผู้บริโภคตามต่างจังหวัดที่เน้นรถครอบครัวแบบใช้งาน ซึ่งปัจจัยด้านราคาและอะไหล่ทดแทนจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมาก ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่มีผลต่อการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภค ก็จะทำให้มีการพิจารณาถึงความคุ้มค่าและใช้จ่ายเงินอย่างรอบคอบมากที่สุด

ถือเป็นการตัดสินใจรุกในห้วงเวลาที่ตลาดเริ่มจะส่งสัญญาณในทางบวก เนื่องจากภาพรวมของตลาดเริ่มมีตัวเลขหดตัวอยู่ในปริมาณที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีตัวเลขจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 743,274คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 14.8%เมื่อเจาะเฉพาะตลาดรถกลุ่มครอบครัวก็จะพบว่าแนวโน้มยอดขายนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 73,647 คันสูงที่สุดในรอบ6เดือน

สัญญาณที่เริ่มส่งมาในแนวบวกทำให้การตัดสินใจรุกตลาดรถเกียร์ธรรมดาเป็นไปอย่างมั่นใจ เพราะไม่เพียงแต่เชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ ขึ้นชื่อว่ายามาฮ่า มักจะมีรูปแบบการตลาดที่แปลกและไม่เหมือนใคร โดยมีการทุ่มงบประมาณกว่า40ล้านบาทในส่วนนี้ และมีการสื่อสารทางการตลาดด้วยการส่งคีย์ เมสเสจ'ยามาฮ่า สปาร์ค นาโน ใหม่ ซูเปอร์คุ้ม คูณสาม คุ้มเงิน คุ้มงาน คุ้มนาน'และเมสเสจดังกล่าวก็ถูกถ่ายทอดโดย3พรีเซ็นเตอร์ อย่างอี้ด-ลาล่า-ลูลู่ จากโปงลางสะออน

สรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่าสาเหตุที่มีการเลือกอี้ด-ลาล่า-ลูลู่ จากโปงลางสะออนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น เนื่องจากแต่เดิมทั้ง3คนได้ร่วมทำกิจกรรมกับยามาฮ่ามาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการเดินสายโรดโชว์ และนำเสนอรถในรุ่นสปาร์ค อาร์เอ็กซ์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดนั้นๆได้เป็นอย่างดี ประกอบกับบุคลิกของพรีเซ็นเตอร์ทั้ง3คนที่สามารถไต่เต้าจนประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง ตรงจุดนี้มองว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดี อีกทั้งยังสามารถเข้าหาคนทุกเพศทุกวัยได้ ทำให้ยามาฮ่าตัดสินใจเลือกมาทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์รถใหม่ในครั้งนี้

นอกจากการใช้พรีเซ็นเตอร์ในการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านโฆษณาและสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆแล้ว แนวทางที่สำคัญที่จะผลักดันยอดขายของรถรุ่นนี้คือการทำกิจกรรมทางการตลาดในแบบโรดโชว์ภายใต้ชื่องาน 'ยามาฮ่า สปาร์ค นาโน สะออนทั่วไทยกับโปงลางสะออน'ที่จะเป็นการแนะตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับลูกค้า เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดสอบรถ ส่วนความบันเทิงก็จะมีโปงลางสะออนมาร่วมมอบความสนุก โดยยามาฮ่ามีการวางแผนรุกเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นอำเภอในเขตนอกเมืองทั่วประเทศ และจะมีการจัดกิจกรรมมากกว่า450 ครั้งในระยะเวลา3เดือนนับจากนี้

แม้จะถูกมองว่าการเข้ามารุกตลาดรถเกียร์ธรรมดาในครั้งนี้ เป็นการลดระดับแบรนด์จากระดับบนมาสู่ระดับล่าง แต่ยามาฮ่ามองว่า ผลิตภัณฑ์จะเป็นตัวบอกว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นแบบไหน และจะมุ่งไปสู่การทำตลาดในแบบนั้น ซึ่งแต่เดิมที่ผ่านมา เน้นรถแบบเกียร์อัตโนมัติ ก็จะมุ่งเจาะกลุ่มคนเมือง เน้นกลุ่มที่เป็นเทรนดี้ มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างโดดเด่น ขณะที่ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เข้ามาและมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ดังนั้นแนวทางหรือวิธีการในการทำตลาดก็จะต่างกันออกไปด้วย เรียกว่าผลิตภัณฑ์จะมีโพสิชั่นของตัวเองอยู่แล้ว และไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียไปแต่อย่างใด เพราะกลุ่มเป้าหมายเป็นคนละกลุ่มกัน ขณะที่การรุกในครั้งนี้ของยามาฮ่า แม้จะมองว่าเป็นเรื่องที่ช้าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างฮอนด้า และซูซุกิ ที่มีการทำตลาดรถแบบเกียร์ธรรมดามาอย่างต่อเนื่อง แต่ยามาฮ่าเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่เพียรสร้างมาหลายปี และผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่น่าจะทำให้ยอดขายของรถรุ่นนี้อยู่ที่ 7,000คันต่อเดือน ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จะทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดในรถเกียร์ธรรมดาที่แต่เดิมมีอยู่5% หรือขายได้3,000คันต่อเดือนก็จะเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ภายในสิ้นปีนี้

เรียกได้ว่าเป็นการเปิดเกมรบอีกครั้งของยามาฮ่า หลังจากในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในสนามรบของตลาดเกียร์อัตโนมัติ แต่มาวันนี้เมื่อมีการเสริมความแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเกียร์ธรรมดา พร้อมทั้งอัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบตามสไตล์ Yes! We are Different คาดว่าสมรภูมิในครั้งนี้จะต้องทำให้เจ้าตลาดอย่างฮอนด้า และ ซูซุกิ ที่เคยมั่นใจในตัวเองต้องสั่นคลอนอีกครั้ง

เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9520000080410

รอสซี่ควงลอเรนโซ่ คว้าอันดับ 1-2 อีกแล้วครับท่าน

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี 2009” ก็ผ่านเข้าสนามที่ 9 เมื่อวันอาทิตย์ที่19 กรกฎาคม 52 ทำการแข่งขัน ณ สนามซาจเซนริ่ง ประเทศเยอรมัน ทำการแข่งขันทั้งหมด 30 รอบสนาม “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ บิดยามาฮ่า M1 สู้ศึกกับคู่แข่งได้อย่างสนุก ก่อนผ่านเส้นชัย คว้าแชมป์ครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ เกาะติดมาด้วยทีมเมทยามาฮ่าเฟี๊ยตสุดฮ๊อต จอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่ทะยาน M1 เบอร์ 99 จี้เข้าเส้นด้วยระยะห่างเพียง 0.099 วินาทีเท่านั้น

ควอลิฟายวันเสาร์ปรากฏว่ามีฝนตกลงมา สภาพสนามซาจเซนริ่งที่คดเคี้ยวมีความยาวต่อรอบถึง 3,671 เมตรเป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ไม่น้อยทีเดียว แต่สองนักบิดทีมยามาฮ่าเฟี๊ยต วาเลนติโน่ รอสซี่ และจอร์เก้ ลอเรนโซ่ บนรถยามาฮ่า YZR-M1 กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยรอสซี่คว้าตำแหน่งโพลโพสิชั่น หรือตำแหน่งที่ดีที่สุดในการออกสตาร์ทด้วยเวลา 1 นาที 32.520 วินาที นับเป็นการคว้าตำแหน่งโพลครั้งที่ 54 ในอาชีพนักแข่งของเขา ทิ้งห่างลอเรนโซ่ที่อยู่ในอันดับสองถึง 0.640 วินาที ส่วนอันดับสุดท้ายของตำแหน่งควอลิฟายในแถวแรกก็ไม่ใช่ใครนี่ไหน เคซี่ สโตนเนอร์ นักบิดทีมโรงงานดูคาตี้ที่ตามหลังลอเรนโซ่อยู่ 0.6 วินาทีเช่นกัน

การแข่งขันในวันอาทิตย์ รอสซี่ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ทะยานขึ้นนำตั้งแต่โค้งแรก เกาะติดด้วยแดเนี่ยล เปโดรซ่า และเคซี่ สโตนเนอร์ ส่วนลอเรนโซ่ทำได้ไม่ดีนัก อันดับร่วงไปอยู่ที่ 6 โค้งแรกก่อนไล่แซงจนขึ้นมาอันดับ 4 หลังจบรอบแรก หลังจากนั้นลอเรนโซ่ก็ถูกอังเดร โดวิซิโอโซ่ไล่กดดันอย่างหนัก แต่เมื่อลอเรนโซ่ปรับจังหวะขับขี่ของตัวเองได้ เขาก็ทิ้งห่างโดวิซิโอโซ่ที่รถเริ่มมีปัญหา ไล่ตามกลุ่มหน้าทั้ง 3 คันที่อยู่ห่างออกไป 1.5 วินาที

ในรอบที่ 7 รอสซี่ก็เสียตำแหน่งผู้นำให้กับ สโตนเนอร์ หลังแซงเปโดรซ่าขึ้นมาได้ไม่นาน และในรอบที่ 10 ลอเรนโซ่ก็ตามติดเปโดรซ่าก่อนแซงขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 ซึ่งอันดับหัวแถวไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งจนผ่านไปอีก 10 รอบสนาม รอสซี่ได้จังหวะยกลึกแซงสโตนเนอร์ในโค้งลงเขาในรอบที่ 18 เช่นเดียวกับลอเรนโซ่ ก็กระแทกคันเร่งยามาฮ่า M1 รีดท็อปสปีดแซงสโตนเนอร์ในช่วงสุดทางตรงก่อนเข้าโค้งแรก ซึ่งทั้งคู่ก็ทำความเร็วทิ้งคู่แข่งอันดับ 3 และ 4 ได้อย่างเหนือชั้น ก่อนจะเปิดศึกสายเลือดระหว่างนักบิดยามาฮ่าอีกครั้งในฤดูกาลนี้

หลังจากกดดันรอสซี่มาโดยตลอด รอบที่ 26 ลอเรนโซ่ แซงรอสซี่ในช่วงทางตรงก่อนยกลึกเข้าโค้งแรกยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ แต่ด้วยประสบการณ์ที่เก๋าเกมกว่า หลังจากดูจังหวะขับขี่ของลอเรนโซ่ รอสซี่ก็แซงคืนในโค้งแรกได้อย่างเฉียบขาดในรอบที่ 29 แม้ลอเรนโซ่จะไล่ไม่ลดละ แต่รอสซี่ก็นำยามาฮ่า M1 ผ่านเส้นชัย คว้าแชมป์ครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ

จากชัยชนะในครั้งนี้ ก็ทำให้ “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซึ่ แห่งทีมยามาฮ่าเฟี๊ยต เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก 8 สมัย ยังคงนำเป็นจ่าฝูงตารางคะแนนสะสมต่อไป โดยเขามีคะแนนรวม 176 แต้ม นำลอเรนโซ่อยู่ 14 แต้ม ส่วนลอเรนโซ่ก็นำสโตนเนอร์อยู่ 14 แต้มเช่นกัน ซึ่งโมโตจีพี 2009 ยังเหลือการแข่งขันอีก 8 สนาม โดยสนามที่ 10 จะทำการแข่งขันในประเทศอังกฤษ ณ สนามโดนิงตันปาร์ค ในอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม นี้ หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน วาเลนติโน่ รอสซี่ ให้สัมภาษณ์ว่า

“ผมคิดว่านี่คืออีกหนึ่งเกมแข่งขันที่ผู้ชมต้องชื่นชอบเพราะนักบิดหัวแถวทั้ง 4 คนได้ขับเคี่ยวและหาจังหวะแซงได้อย่างสนุกตลอดเกมแข่งขัน เรารู้ว่าวันนี้เกมไม่หมูอย่างแน่นอนเพราะขับขี่กันได้ดีทุกคน ซึ่งมันทำให้ผมพอใจกับตำแหน่งแชมป์ที่คว้ามาได้ วันนี้ผมขับขี่ได้ดี และทีมงานก็สามารถปรับเซ็ทยามาฮ่า M1 ได้อย่างยอดเยี่ยม ผมสามารถออกสตาร์ทได้ดี ขับเคี่ยวกับสโตนเนอร์ได้อย่างสนุกตั้งแต่ช่วงแรกของเกม ผมทำเวลาได้เร็วกว่าเขานิดหน่อยแต่สามารถรักษาเวลาได้ตลอด จนช่วงท้ายของเกมก็ต้องสู้กับลอเรนโซ่อีกครั้ง...แต่วันนี้ผมขี่ได้ท็อปฟอร์มมาก โดยเฉพาะหลังโดนลอเรนโซ่แซง และผมไม่ต้องการแค่อันดับ 2 โชคดีที่ผมได้จังหวะแซงคืน จากนั้นผมก็ขับขี่ได้อย่างเยี่ยมในรอบสุดท้าย ไม่มีผิดพลาดเลย ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคน นี่คือแชมป์ครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ และผมคิดว่า ยามาฮ่า YZR-M1 คือรถที่เยี่ยมยอดมากในฤดูกาลนี้ ตอนนี้เรามีคะแนนนำเพิ่มขึ้นอีกนิดนึงแล้ว ผมหวังว่าจะทำอันดับได้ดีอีกครั้งในสนามหน้า ซึ่งโดนิงตันปาร์คก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่ผมชื่นชอบ”

จอร์เก้ ลอเรนโซ่ อันดับ 2 ก็มีความคิดเห็นในสนามนี้ว่า “วันนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ยากมากเพราะสนามนี้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่และมีโค้งฉวัดเฉวียน ทำให้นักแข่งต้องใช้กำลังในการควบคุมรถมากที่สุดตลอดเวลา การเกาะติดรอสซี่ได้ถือเป็นความท้าทายมากสำหรับผม เพราะผมไม่สามารถออกกำลังได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่สนามลากูน่า ผมรู้สึกดีใจที่สามารถกดดันเขาในช่วงท้ายเกมได้ การแซงรอสซี่เป็นอะไรที่ยากมากเพราะเขาเบรกลึก และลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของผมที่แซงเขาเร็วเกินไป และผมไม่สามารถทิ้งห่างเขาได้ ทำให้รอสซี่มีเวลาแก้ตัว แน่นอนว่าผมต้องผิดหวังเพราะแชมป์อยู่แค่เอื้อมเท่านั้น แต่ในอีกมุมนึงผมก็ควรดีใจเพราะผลการแข่งขันแสดงให้เห็นว่าผมสามารถขับเคี่ยวกับเขา ได้เรียนรู้ประสบการณ์ของเขา และผมยังมีเวลาอีกมากในโมโตจีพี”

เพิ่มเติม http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=996

รถหาย! แจ้งที่นี่

ใครที่รถหาย ไม่ว่ารถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ เดี๋ยวนี้เค้ามีช่องทางร้องทุกข์ใหม่ ซึ่งท่านสามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้เปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถที่จะแจ้งรถหายและตรวจสอบสถานภาพรถก่อนซื้อ โดยผ่านสายด่วน 1599 และเว็บไซต์.


เพิ่มเติม http://www.lostcar.go.th/

"ฟีม" ครวญสุดโชคร้ายหวังฟิตทันลุยบริติช จีพี

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก รับสุดโชคร้ายกับผิดกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในศึกเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังมั่นใจว่าจะเรียกความฟิตกลับมาทันการแข่งกันที่ประเทศอังกฤษ ในวันอาทิตย์นี้

"ฟีม" ที่แม้ว่าจะต้องออกตัวจากกริดที่ 16 หลังจากประสบปัญหาการเซ็ตรถในรอบควอลิฟายที่มีฝนเทลงมาอย่างหนัก แต่ก็สนามเรียกความมั่นใจในการวอร์มอัพช่วงเช้าวันแข่งขัน หลังจากทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับที่ 2 ตามหลังเพียงอัลบาโร เบาติสตา เท่านั้น

อย่างไรก็ดีนักบิดไทยฮอนด้าพีทีทแซคก็ต้องยุติเส้นทางเพียงโค้งแรกของรอบแรกเท่านั้นหลังประสบอุบัติเหตุ ล้อหลังสะบัดล้มลงไปโดนรถทับ พร้อมๆ รถคันอื่นอีก 4 คันที่ล้มในเวลาเดียวกัน ซึ่งเจ้าตัวเผยหลังจบการแข่งขันว่าเป็นความโชคร้ายที่สุดในฤดูกาลนี้

"ทุกอย่างในวันนี้มีแนวโน้มไปได้สวย หลังจากรอบวอมร์มอัพผมทำเวลาขึ้นไปถึงอันดับที่ 2 และหวังว่าจะทำผลงานได้ดีในช่วงแข่งขัน แต่มันก็ต้องจบลงอย่างรวดเร็วเพียงโค้งแรกเท่านั้น ผมไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มารู้ตัวอีกทีตอนที่ตัวเองลอยอยู่บนอากาศแล้ว"

"ซึ่งแม้ว่าจะมีธงแดงเพื่อรอการรีสตาร์ทกันใหม่หลังจากนั้น แต่อาการบาดเจ็บที่เท้าซ้ายและหลังมันทำให้ผมฝืนลงแข่งต่อไม่ไหวจริงๆ ผมผิดหวังมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นสุดสัปดาห์ที่โชคร้ายสุดๆของผม ผมหวังว่าช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้จะผ่านพ้นไปเสียที" ฟีมร่ายยาว

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากทีมสต็อปแอนด์โก(แซค) เปิดเผยว่า เจ้าฟีมต้องการที่จะลงไปแข่งขันต่อในช่วงรีสตาร์ท แต่ทางทีมงานลงความเห็นอยากให้พัก เพื่อความพร้อมที่สุดในสนามต่อไป ที่จะแข่งขันที่โดนิงตัน พาร์ค ประเทศอังกฤษในวันที่ 26 ก.ค. นี้

เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000081689

เอส.พี.ซูซูกิ ร่วมแสดงความยินดีในงานเปิดตัวโชว์รูม “Suzuki World”


บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด จับมือ บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) สร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทน เม้นท์ฉบับใหม่ครั้งแรก ของวงการยานยนต์ไทย ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ในโครงการ Suzuki Avenue Ratchayothin แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ความบันเทิงอันทันสมัย ตอบสนองทุกความต้องการ ของคนรุ่นใหม่ในเมืองบนถนนรัชโยธิน ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาท

ครั้งแรก!! ในเมืองไทยที่ “ซูซูกิ” ผู้ผลิตนวัตกรรมยานยนต์ตราสินค้าระดับโลก รุกตลาดยาน ยนต์อย่างต่อเนื่อง กับการเปิดตลาดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ ในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิด ตัวโชว์รูม “Suzuki World” สาขา Suzuki Avenue Ratchayothin แหล่งรวมสุดยอดเทคโนโลยียานยนต์ ระดับโลกของ “ซูซูกิ” ทั้งผลิตภัณฑ์รถยนต์, รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ฯลฯ เพื่อสร้างแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ครอบคลุมทุกระดับ ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ที่ทุกคนจะได้สัมผัสกับโลกของ “ซูซูกิ” ทั้งหมดอย่างใกล้ ชิดในรูปแบบของ New Excitement Center ศูนย์กลางของคนทันสมัยที่จะให้ความรู้สึกที่ตื่นตาตื่นใจ ท้าทาย โดยแบ่งออกเป็นโซนที่โดดเด่น สามารถเชื่อมโยงทุกความต้องการ เข้าไว้ด้วยกันภายใต้แบรนด์สโลแกน Way of Life! โดยในงานวันนี้ ผู้บริหารจากทาง บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยาน ยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ (ยกเว้น 14 จังหวัดภาคใต้) เดินทางไปร่วมแสดงความยินดี และร่วมเป็นเกียรติในงานวัน นี้อย่างพร้อมเพรียง นำโดย คุณสถิตย์พงษ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ คุณนุพงศ์ พรประภา ผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา

ในช่วงพิธีเปิดงาน มร.มาซาโนบุ ไซโต้ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “จากการเปิดตัว Global Brand Slogan ที่ใช้เหมือนกันทั่วโลก Suzuki Way of Life! ซึ่งถือว่า เป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นจากจิตวิญญาณของ “ซูซูกิ” ที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างครบครัน ดังนั้น การเปิดตัว “Suzuki World” สาขา Suzuki Avenue Ratchayothin คือ สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปข้าง หน้าอย่างไม่หยุดยั้ง อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกในเมืองไทยกับการเปิดตลาดจำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ อย่าง เป็นทางการของ “ซูซูกิ” อีกด้วย พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์คุณภาพอื่นๆ อีกมากมาย ที่ได้ถูกนำมารวบรวมไว้ทั้งหมด ภายในโชว์รูมแห่งนี้ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เร้าใจแก่ผู้บริโภค โดยที่ “Suzuki World” สาขา Suzuki Avenue Ratchayothin โดยจะเริ่มต้นด้วยการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ ในเมืองไทยครั้งแรก กับรุ่น Suzuki Hayabusa ที่เป็นที่นิยมของลูกค้าทั่วโลก และได้ลงบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ ทำความเร็วเกิน 300 km/ชม. คันแรกของโลก พร้อมทั้งจะมีการนำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์รุ่นใหม่เข้ามาอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนจะได้รู้จักกับโลกของ “ซูซูกิ” อย่างใกล้ชิด”

สำหรับบรรยากาศในงานวันเปิดตัว จำลองบรรยากาศแบบแดนปลาดิบมายังไงอย่างงั้นก็ว่าได้ อบอวลด้วยสาวๆ น่ารักสดใส คิกขุโนะเนะ แต่งกิโมโนสีสันสดใสคอยต้อนรับที่ทางเข้า เลยมาเป็นซุ้มลงทะเบียน รับของที่ระลึก และซุ้มเซ็นต์ลงนามแสดงความยินดีกับการเปิดโชว์รูมใหม่ ถัดมาอีกนิดเป็นบริเวณอาหารเครื่อง ดื่มก็จัดมาในแบบญี่ปุ่น ที่ตั้งใจเสริฟเอาใจคุณๆ ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาสัมผัส หรือเมื่อใดก็ตามที่รู้สึกกระหาย หรือ ต้องการดับร้อน ตื่นเต้นกับสุดยอดดีไซน์กับโคมไฟญี่ปุ่นกว่า 100 โคม เฟี้ยวมากๆ แม้กระทั่งต้นไม้ที่นี่ก็ยังเป็น ญี่ปุ่นซะ! โดยนำต้นซากุระสีชมพูสดใส ดอกบานสะพรั่งประดับประดาเรียงรายรอบบริเวณงาน สร้างความประทับ ใจอย่างมากตั้งแต่แรกเห็น หลังพิธีเปิดงาน เร้าใจสุดขั้วกับขบวนรถฮายาบูซะ กว่า 50 คัน สุดยอดทุกคันและนำ ทีมซ่าก๊วนนี้ โดยหนุ่มหล่อ-อนันดา เอฟเวอรี่แฮม คุณแอม-ธัญวิสิฏฐ์ เสียงหวาน คุณเทพชัย เจริญพร แห่ง 59 bikeclub.com นั่นเอง จากนั้นก็เป็นการเที่ยวชมภายในโชว์รูมสุดเดิ้ล ที่มีเหล่าคนดัง บรรดา Celeb หล่อๆ เท่ๆ มารอทักทายในโซนต่างๆ และร่วมพูดคุยเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับ บิ๊กไบค์ ไม่ว่าจะเป็น คุณชมะนันท์ วรรณวินเวศน์ คุณปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม พระเอกจากภาพยนตร์เรื่องนางไม้ หรือคุณเปรม บุษราคัมวงศ์ เรียกว่าคนดังมากันเพียบซะ! สำหรับหนุ่มเท่หล่อเซอร์ อนันดา นั้น ก็ร่วมลงนามเป็นสมาชิกคนแรกของ ซูซูกิ คลับ ในงานวันนี้แหม...สุดยอดจริงๆ

เพิ่มเติม http://www.spsuzuki.com/Community/Thai/News/Detail/News09-0710.asp

ข่าวที่เกี่ยวข้อง